ลิขิตฟ้าชะตารัก – ตอนที่ 527 ทำร้ายกันและกัน / ตอนที่ 528 ปล่อยเขา

ตอนที่ 527 ทำร้ายกันและกัน  

 

 

 

 

 

“เจ้าทำเช่นนี้แล้วสนุกมากหรืออย่างไร” อวี้อาเหราแทบจะหมดคำพูด  

 

 

เขาพูดตั้งมากมาย แต่นางกลับไม่เข้าใจแม้แต่สักประโยคเดียว  

 

 

“แน่นอนว่าสนุกสิ” จวินฉางอวิ๋นหัวเราะเบาๆ “ขอเพียงเจ้าไม่มีความสุข ข้าก็มีความสุขแล้ว”  

 

 

“…” อวี้อาเหราหมดคำจะพูดอีกครั้ง เหตุใดถึงมีคนที่ปัญญาอ่อนได้ขนาดนี้เชียวหรือ?  

 

 

หลังจากเงียบไปสักครู่ นางก็ไม่รู้ว่าจะไปเอาเรี่ยวแรงมาจากไหน รู้สึกเพียงแค่ว่าโกรธเคืองเป็นอย่างมาก ดังนั้นจึงผลักร่างของจวินฉางอวิ๋นออกไปอย่างแรง  

 

 

ช่างน่าขัน มาบอกว่าหากนางไม่มีความสุข เขาถึงจะมีความสุขอย่างนั้นหรือ? เกลียดกันไปอย่างนี้จะมีประโยชน์อะไรกัน  

 

 

ในยามที่นางผลักร่างของจวินฉางอวิ๋นออกไปนั้น กลับมองเห็นชายหนุ่มสวมชุดสีขาวกำลังยืนอยู่พร้อมทั้งสีหน้าเย็นชา ในยามนั้นสายตาเย็นชาของเขากำลังจ้องมองพวกเขาทั้งสอง บรรยากาศรอบตัวของพวกเขาราวกับแปรเปลี่ยนไปเป็นเย็นเหยียบขึ้นมามากมาย  

 

 

นางรู้สึกว่าอากาศค่อยๆ ลดต่ำลง  

 

 

สายตาคู่นั้นของเขากลับไร้ซึ่งแสงสว่าง ไม่ความอบอุ่น เปรียบเหมือนก้อนน้ำแข็งที่เหมือนหินหนาวเหน็บ  

 

 

อวี้อาเหราสูดลมหายใจเข้าลึกๆ ร่างกายที่สั่นไหวก็หยุดนิ่งเพราะสายตาของเขา จนเหมือนเท้าของนางถูกตอกติดกับพื้น  

 

 

ในยามที่มองเห็นฉู่ป๋ายยืนอยู่นั้น ในใจของนางก็รู้สึกกลัวขึ้นมาอย่างไม่มีเหตุผล  

 

 

เมื่อครู่นี้ เขาคงจะเห็นอย่างชัดเจนแล้วว่านางและจวินฉางอวิ๋นกำลังจะ…  

 

 

ไม่รู้ว่าด้วยเหตุใด ในใจของนางก็เกิดกระวนกระวายขึ้นมา ทั้งๆ ที่ไม่ได้ทำอะไรเลยแท้ๆ แต่เมื่อถูกสายตาเย็นชาของเขาจ้องมองเช่นนี้กลับทำให้นางรู้สึกหนาวตั้งแต่ศีรษะจรดปลายเท้า  

 

 

จวินฉางอวิ๋นเห็นนางยืนนิ่งอยู่ที่เดิม ดังนั้นจึงมองตามสายตาของนาง จึงพบกับฉู่ป๋ายที่ยืนนิ่งไม่พูดอะไรเลยแม้แต่คำเดียว มุมปากของเขาค่อยๆ โค้งขึ้น “เซิ่นซื่อจื่อเข้ามาในวังทำไมหรือ”  

 

 

“มาหาคน” ฉู่ป๋ายนิ่งไปสักครู่หนึ่ง แล้วจึงเอ่ยปากขึ้นอย่างไม่ทุกข์ไม่ร้อน  

 

 

“ไม่ทราบว่าหาพบหรือไม่” จวินฉางอวิ๋นหรี่ตาขณะที่ถาม  

 

 

“พบแล้วพ่ะย่ะค่ะ” ฉู่ป๋ายพยักหน้า  

 

 

จวินฉางอวิ๋นทำหน้าแปลกใจ “อยู่ที่ไหนกัน”  

 

 

“ที่นี่อย่างไร” หลังจากที่พูดจบ ฉู่ป๋ายก็ก้าวยาวๆ เข้ามา แล้วจับมือของอวี้อาเหราไว้  

 

 

ที่นี่หรือ? หรือว่าเขาหมายถึงนาง? อวี้อาเหราก้มหน้าลงมองมือของตัวเองที่ถูกเขาจับเอาไว้เสียแน่น  

 

 

เขากุมมือนางเสียแน่น แน่นมากจริงๆ แน่นจนข้อมือนางเหมือนจะหัก   

 

 

เมื่อคิดเช่นนี้ ก็คงจะหมายถึงนางจริงๆ  

 

 

แต่ว่า จะหาตัวนางทำไมกัน?  

 

 

จวินฉางอวิ๋นตกใจขึ้นมาอีกครั้ง มองไปยังมือของพวกเขาที่จับกันเอาไว้แน่น แล้วเงยหน้าขึ้นเล็กน้อย “เซิ่นซื่อจื่อ นางเป็นว่าที่พระชายารัชทายาท”  

 

 

“ก็เป็นเพียงว่าที่” ฉู่ป๋ายพูดง่ายๆ จนทำให้อีกฝ่ายอับจนคำพูด  

 

 

จวินฉางอวิ๋นมองเขานิ่งๆ “แล้วเจ้าจะจูงมือนางต่อหน้าเราทำไมกัน”  

 

 

“ก็ไม่มีอะไร” ฉู่ป๋ายกลับส่ายหน้า จากนั้นก็เงยหน้าขึ้น มุมปากของเขาโค้งขึ้นเล็กน้อย เผยให้เห็นเป็นรอยยิ้มบาง ทำให้คนที่ได้มองรู้สึกกระวนกระวายใจ   

 

 

อวี้อาเหราใกล้ชิดกับเขามาหลายวัน จะไม่รู้ได้อย่างไรว่ายามที่เขายิ้ม ยิ่งดูอ่อนโยนเพียงใด ก็ยิ่งอันตรายมากขึ้นเท่านั้น ยังไม่ทันที่นางจะพูดอะไร ก็ไม่รู้ว่ามีอะไรโผล่พรวดออกมาจากแขนเสื้อ เห็นแต่เพียงกลุ่มเงาสีขาวพุ่งเข้าไปยังร่างของจวินฉางอวิ๋น   

 

 

เมื่อกะพริบตาแล้วจ้องมองดูอีกที ก็เห็นว่าใบหน้าถูกกรีดเป็นรอยเลือดสองรอย  

 

 

ที่แท้ก็เป็นแมวหนึ่งตัว  

 

 

นี่ทำให้จวินฉางอวิ๋นรู้สึกเจ็บจนร้องออกมาอย่างเจ็บปวด นึกอยากจะสะบัดแมวตัวขาวที่อยู่บนร่างของตัวเองออก แต่ทำอย่างไรก็สะบัดไม่หลุด แมวตัวนั้นเกาะแน่นอยู่บนร่างของเขาราวกับขนมเหนียวๆ ที่ทำอย่างไรก็ยังคงติดแน่นอยู่กับร่างกายของจวินฉางอวิ๋นไม่หายไปไหน  

 

 

 

 

 

ตอนที่ 528 ปล่อยเขา  

 

 

 

 

 

อวี้อาเหรามองจนเหม่อลอย ไม่ได้สังเกตเลยว่ามีแมวอยู่ในแขนเสื้อของฉู่ป๋าย แม้จะเห็นว่าตัวไม่ใหญ่ แต่ก็ถือว่าตัวอ้วนนัก ทว่าผู้ที่แมวตัวนี้ข่วนนั้นคือองค์รัชทายาท คงต้องพูดว่าฉู่ป๋ายนั้นช่างกล้าหาญนักที่กล้านำแมวมาข่วนจวินฉางอวิ๋น  

 

 

ช่างไม่เสียดายชีวิตเอาเสียเลย  

 

 

จวินฉางอวิ๋นเห็นว่าไม่อาจสะบัดจนหลุดได้ ก็ร้องตะโกนใส่ฉู่ป๋ายว่า “คนแซ่ฉู่ เจ้าเอาของพรรค์นี้ออกไปจากตัวข้าเดี๋ยวนี้ มิเช่นนั้นข้าจะไม่ปล่อยเจ้าเอาไว้แน่!”  

 

 

“ร้องต่อไปสิ หากร้องอีกจะให้มันข่วนอีก” ฉู่ป๋ายตอบออกมาอย่างสบายใจ ไม่มีท่าทีกลัวเกรงเลยแม้แต่น้อย   

 

 

“เจ้า!” จวินฉางอวิ๋นอ้าปาก แมวตัวนั้นกางกรงเล็บแล้วร้องไปทางที่เขาอยู่ ไม่รู้ว่าเป็นแมวแบบไหน แต่ว่าคล่องแคล่วเสียจนจับไม่ทัน เมื่อเห็นเช่นนี้แล้วเขาจึงจำต้องหุบปากลง แล้วพยายามห้ามไม่ให้แมวปีนป่ายร่างกายของเขา ซึ่งกำลังร้องอย่างบ้าคลั่ง  

 

 

อวี้อาเหรามองจวินฉางอวิ๋นนิ่งเงียบ แล้วจึงหันไปมองฉู่ป๋ายด้วยสายตาระแวดระวัง “เขาเป็นถึงรัชทายาท เจ้าเอาแมวตัวนี้ออกไปเถิด”  

 

 

“ให้ปล่อยเขาหรือ?” ฉู่ป๋ายกวาดตามองร่างนางอย่างนิ่งงัน “หากเราปล่อยเขา จะให้แมวไปเกาะเจ้าแทนหรืออย่างไร”  

 

 

เกาะนางหรือ? อวี้อาเหราคิดแล้วก็ขมวดคิ้ว จากนั้นก็ส่ายหน้า “ช่างมันเถิด ไม่ได้เกี่ยวอะไรกับข้าเสียหน่อย”  

 

 

เมื่อได้ยินเสียงของเขาก็แสดงให้เห็นถึงความเจ้าเล่ห์แสนกล ช่างไม่เหมือนยามปกติ นางเองก็ต้องระวังตัวมากกว่ายามปกติอยู่บ้าง  

 

 

ฉู่ป๋ายหันกลับมา จากนั้นก็ร้องเรียกแมว “กลับมา”  

 

 

ทันทีที่เสียงของเขาดังขึ้น แมวตัวนั้นก็ผละออกจากตัวของจวินฉางอวิ๋น แล้วกระโดดลงหนีทันที  

 

 

อวี้อาเหรามองด้วยความประหลาดใจ แมวตัวนี้เชื่อฟังคำสั่งของฉู่ป๋าย ดูเหมือนว่าเขาไม่ได้เลี้ยงแมวตัวนี้มาด้วยซ้ำ แต่เหตุใดแมวตัวนี้ถึงเชื่อฟังเขาถึงเพียงนี้? นางนึกอยากจะถามเขา แต่เมื่อเงยหน้าขึ้นมองกลับพบว่าสีหน้าของเขานั้นช่างดูเคร่งขรึม จนทำให้คำพูดทั้งหมดถูกลืมไปหมด ทำได้แต่เพียงก้มหน้าลงไม่พูดไม่จา  

 

 

เมื่อจวินฉางอวิ๋นถูกปล่อยตัว ทันใดนั้นก็กระโดดโลดเต้น โกรธเคืองราวกับสายฟ้า “ฉู่ป๋าย ที่แท้เจ้าเองก็ใช้แมวเพื่อแก้แค้นข้า…”  

 

 

“เมี้ยว” แมวตัวขาวหมุนตัวล้อมตัวฉู่ป๋าย แล้วขวางทางจวินฉางอวิ๋นที่กำลังโกรธเคือง ทำราวกับว่าหากเขากล้าที่จะลงไม้ลงมือกับฉู่ป๋ายแม้แต่น้อย มันก็จะกระโดดข่วนหน้าให้ ทำให้จวินฉางอวิ๋นรีบยกมือขึ้นปิดหน้าด้วยความตกใจ ตอนนี้เขายังเจ็บแสบไม่หาย แต่ก็พยายามที่จะปิดบังความโกรธเอาไว้  

 

 

“องค์รัชทายาทต้องการที่จะพูดอะไรหรือ” ฉู่ป๋ายแสร้งทำสีหน้าไม่เข้าใจ  

 

 

จวินฉางอวิ๋นโกรธเสียจนกำหมัดแน่น แต่ก็ยังเกรงเจ้าแมวที่แสนคล่องแคล่ว ไม่กล้าที่จะลงมือ  

 

 

อวี้อาเหราที่มองดูอยู่รู้สึกตลกนัก ที่แท้จวินฉางอวิ๋นก็กลัวแมว ช่างน่าแปลกนัก แมวขาวที่ฉู่ป๋ายพามาด้วยนั้นช่างฝีมือดุร้ายยิ่งนัก ข่วนตรงไหนไม่ข่วน มาข่วนที่หน้า ใครเจอแบบนี้ก็ต้องกลัวเป็นธรรมดา  

 

 

เพียงแมวตัวเดียวกลับทำให้จวินฉางอวิ๋นหวาดกลัว มิน่าเล่าจึงเชื่อฟังคำสั่งของฉู่ป๋ายนัก  

 

 

จวินฉางอวิ๋นจะก้าวมาข้างหน้าก็ไม่ได้ และก็ไม่กล้าที่จะก้าวไปข้างหน้า เพราะกลัวแมวตัวนั้นจะกระโดดขึ้นมา แล้วจึงสะบัดชายเสื้อเดินจากไป  

 

 

ก่อนที่จะเดินจากไปนั้นก็จ้องมองพวกเขาอย่างโกรธเคือง  

 

 

อวี้อาเหราหัวเราะอย่างอดไม่ได้ ไม่เกี่ยวกับนางเลยแม้แต่น้อย ไม่ใช่แมวของนางเสียหน่อย  

 

 

ฉู่ป๋ายกวาดตามองไปทั่ว กำลังเตรียมจะกุมมือนางแล้วเดินไป สุดท้ายอวี้อาเหรากลับหยุดฝีเท้า สายตาจับจ้องไปยังข้อมือที่ถูกดึงเอาไว้ นางรู้สึกได้จากแรงที่กุมมือนางอยู่ เขานั้นกำลังไม่พอใจ  

 

 

ข้อมือของอวี้อาเหราแดงก่ำ เพราะถูกกุมมือเอาไว้แน่น ช่างเจ็บนัก  

ลิขิตฟ้าชะตารัก

ลิขิตฟ้าชะตารัก

วิญญาณของ อวี้อาเหรา หญิงสาวจากศตวรรษที่ 21 ได้ทะลุมิติเข้ามาอยู่ในร่างของคุณหนูรองแห่งจวนหลิงอ๋องที่มีร่างกายอ่อนแอ ซ้ำยังถูกองค์รัชทายาทที่นางรักมานานหลายปีผลักตกเหวจนตายอย่างไร้เยื่อใย! หลังจากที่อวี้อาเหราได้เข้ามาอยู่ในร่างนี้แล้ว ด้วยสภาพร่างกายของร่างเดิมทำให้นางต้องทนรับกับอาการป่วยไข้หลังจากที่ถูกน้ำซัดไปเป็นเวลานาน แต่นับว่าสวรรค์ยังมีเมตตานัก ที่ทำให้นางรอดชีวิตมาได้ด้วยความช่วยเหลือของ ฉู่ป๋าย ซื่อจื่อผู้โดดเด่นแห่งจวนเซิ่นอ๋อง ต่อหน้าบุรุษผู้โดดเด่นเช่นเขา นางไหนเลยจะกระโจนเข้าหาเฉกเช่นสตรีนางอื่น สิ่งที่นางทำนั้นคือการหลีกเลี่ยงเขาให้ไกลที่สุด แต่ใครเล่าจะรู้ว่าเรื่องไม่คาดฝันได้เกิดขึ้นเสียแล้ว… … “คุณหนู ท่าน…ท่านตั้งครรภ์แล้ว!” เสียงสาวใช้เอ่ยบอกด้วยความตกใจ “เหลวไหล! ข้ายังไม่เคยข้องเกี่ยวกับบุรุษใด แล้วจะตั้งครรภ์ได้อย่างไรกัน!” อวี้อาเหราเอ่ยขึ้นด้วยสีหน้าไม่พอใจ ฉับพลันนั้นเซิ่นซื่อจื่อที่นั่งอยู่ข้างกายจึงเอ่ยขึ้น “หากว่าเจ้าลำบากใจนัก เช่นนั้นข้าจะรับเป็นพ่อของเด็กให้เอง”

Comment

Options

not work with dark mode
Reset