ตอนที่ 563 ข่าวลือ
“ก็เจ้ากล่าวเองว่ามันเป็นเพียงสิ่งที่คนเขาลือกันเท่านั้น มิใช่หรือ?” ฉู่ป๋ายขึ้นตอบออกมาด้วยท่าทีสบายๆ นี่ก็ยิ่งทำให้อวี้อาเหราพูดไม่ออกไปกันใหญ่ เมื่อเทียบกับนางที่กำลังโกรธเคืองแล้ว เขากลับนิ่งสงบกว่ามาก หากไม่มองโดยพินิจก็ไม่มีทางเห็นถึงจิตใจที่แท้จริงได้
ความหมายของคำพูดของเขาก็คือ เจ้าคิดอย่างไรก็ตามแต่ใจเถิด ข้าไม่มีความคิดเห็น!
เขาไม่มีความคิดเห็นหรือ? แต่นางมีนี่ เตียงที่เขายึดไปไม่ใช่เตียงที่ห้องของเขาเสียหน่อย แน่นอนว่านางจะต้องใส่ใจแน่ๆ
อวี้อาเหรามองเขาด้วยสายตาโกรธเคือง หากยังเซ้าซี้อยู่ก็เกรงว่าเขาจะยิ่งทำตัวไร้เหตุผลไปมากกว่าเดิมนี่น่ะสิ แล้วเขายังโทษนางไปเสียทุกเรื่อง แม้ว่านางจะมีสักสิบปากก็คงเถียงสู้เขาไม่ได้ เห็นฉู่ป๋ายนอนหลับตา ในใจนางก็รู้เท่าทัน นางจ้องมองหน้าของเขาแต่ก็ไม่เห็นว่าเขาจะเดือดร้อนเสียตรงไหน
นางจึงจำต้องเดินจากไป แล้วนอนลงบนตั่งยาว ก่อนหน้าที่ตัวเองจะนอนหลับ ก็จ้องมองเขาอย่างโกรธเคือง
เช้าวันต่อมา เมื่อฟ้าสว่างแล้ว แต่อวี้อาเหราก็ยังคงจมอยู่ในห้วงแห่งความฝัน
เจาเอ๋อร์รีบวิ่งเข้ามาอย่างกระวนกระวาย “แย่แล้วเจ้าค่ะคุณหนู แย่แล้วเจ้าค่ะ!”
“ร้องโวยวายทำไมกัน” อวี้อาเหรายื่นมือออกมาจากผ้าห่มข้างหนึ่ง นางถูกเจาเอ๋อร์ร้องเรียกจนตื่น ทำให้ความง่วงหายไปในทันที จ้องมองนางอย่างโกรธเคือง ก่อนจะพลิกตัวจนเกือบจะตกลงมา นางเกือบลืมไปแล้วว่าเมื่อคืนนั้นนางโดนฉู่ป๋ายไล่ไปนอนที่ตั่งยาว
เมื่อคิดถึงเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อวานแล้ว ความโกรธเคืองของนางก็พุ่งปะทุขึ้นมาอีกครั้ง เมื่อคิดถึงชายหนุ่มที่หน้าไม่อายคนนั้น ที่ทำให้หญิงที่อ่อนแออย่างนางต้องมานอนที่ตั่งเช่นนี้ เขาก็ช่างไม่อายสักนิดเลยหรืออย่างไร?
เจาเอ๋อร์กำลังจะเดินไปทางเตียงนอน แต่กลับเห็นอวี้อาเหราโผล่ขึ้นมาจากกองผ้าห่มบนเก้าอี้นวมเสียก่อน ทำให้นางแทบตกใจ แล้วร้องขึ้นว่า “คุณหนู เหตุใดถึงมาอยู่ตรงนี้ได้เล่าเจ้าคะ”
“ข้า…” อวี้อาเหราชะงักไป มองไปทั่วบริเวณ แล้วพยายามที่จะหันเหความสนใจของอีกฝ่าย “เมื่อครู่นี้เจ้าร้องว่าแย่แล้วมิใช่หรือ รีบบอกข้ามาเร็ว! อย่ามัวแต่อ้ำๆ อึ้งๆ”
“อ้อ บ่าวเพียงอยากจะบอกว่า…” เจาเอ๋อร์พยักหน้าหนักแน่น มองไปทางเตียงนอนก็ไม่เห็นมีใครอยู่เลย จากนั้นจึงหันกลับมามองอวี้อาเหราด้วยสายตาแฝงด้วยความสงสัย นางคิดว่าคุณหนูของนางและเซิ่นซื่อจื่อนอนด้วยกันเสียอีก หรือว่านางคิดผิดกัน?
เมื่อได้ยินเสียงของอวี้อาเหรา ความสนใจก็กลับมาอีกครั้ง
ในยามนี้ท่าทีของนางก็สงบยิ่งขึ้น “คุณหนู เมื่อครู่นี้บ่าวกำลังเตรียมน้ำอาบให้ท่าน แต่กลับได้ยินคนพูดกันว่านายน้อยสามได้กลับมาจากค่ายทหารซีซานแล้ว ตอนนี้อยู่ที่เรือนพักของอนุรอง ท่านอ๋อง อนุรอง อนุสาม อนุสี่ ตลอดจนคุณหนูใหญ่ก็อยู่ที่นั่นด้วยเจ้าค่ะ”
“อะไรนะ?” อวี้อาเหราคิดว่าตัวเองฟังผิดไป จึงเอ่ยขึ้นมาด้วยเสียงสูง “เหตุใดจึงกลับมาเร็วเช่นนี้ ไหนบอกว่าอีกสองวันถึงจะกลับมามิใช่หรือ?”
“ตอนแรกบ่าวก็ไม่เชื่อเจ้าค่ะ บ่าวจึงไปดูที่เรือนพักของอนุรอง จึงเห็นว่านายน้อยสามกำลังพูดคุยหัวเราะกับท่านอ๋องอยู่จริงๆ ถึงได้เชื่อ ดังนั้นจึงรีบมารายงานท่าน ว่านายน้อยสามกลับมาแล้วจริงๆ เจ้าค่ะ”
“เหตุใดจึงกลับมาเร็วถึงเพียงนี้” น้ำเสียงของอวี้อาเหราเปลี่ยนไปเป็นเย็นชา
เจาเอ๋อร์พยักหน้า แล้วมองนางด้วยความกังวลใจ “ตอนนี้คุณหนูคิดจะทำอย่างไรเจ้าคะ”
“ข้าไม่รู้เช่นกัน” อวี้อาเหราตอบอย่างชืดชา มองไปทางเตียงนอน แล้วก็ต้องผ่อนลมหายใจยาว ในใจนิ่งงัน เมื่อเห็นว่าฉู่ป๋ายรีบหนีออกไปตั้งแต่เช้า ยังดีที่เขารู้จักอายอยู่บ้าง จึงได้แอบหนีไปเช่นนี้
ตอนที่ 564 อวี้จื้อกลับจวน
เจาเอ๋อร์เห็นท่าทีเกียจคร้านของนาง แล้วก็เปลี่ยนเรื่อง “ในเมื่อคุณหนูตื่นแล้ว บ่าวจะหวีผมให้นะเจ้าคะ อีกสักครู่ก็จะต้องเข้าวังไปพบไทเฮาแล้ว วันนี้ตื่นสายไปหน่อย ตะวันจวนจะขึ้นแล้วเจ้าค่ะ”
นางนั่งอยู่หน้าโต๊ะเครื่องแป้งแล้ว ก็ปล่อยให้เจาเอ๋อร์หวีผมให้
ฝีมือของเจาเอ๋อร์นั้นยอดเยี่ยมนัก นางไม่แปลกใจเลยที่แม้แต่ไทเฮาก็ยังชอบให้นางหวีเกศาให้
เมี่ยวอวี้เดินเข้ามาหยุดอยู่ข้างอวี้อาเหรา ก่อนจะเอ่ยเสียงแผ่วเบาว่า “คุณหนู นางกำนัลอาวุโสของท่านอ๋องมาอีกแล้วเจ้าค่ะ บอกว่ามีเรื่องที่จะต้องรายงานเจ้าค่ะ”
อวี้อาเหราที่กำลังเล่นหยกและมุกในมือก็ชะงัก “เชิญนางเข้ามา”
เมื่อเมี่ยวอวี้เดินจากไปแล้ว มือของเจาเอ๋อร์ที่กำลังหวีผมให้อวี้อาเหราก็ช้าลง “คุณหนู ตอนนี้นายน้อยสามเพิ่งกลับมาถึง นางกำลังอาวุโสของท่านอ๋องก็ยังมีเรื่องมารายงานเช่นนี้ คุณหนูคิดว่าจะเป็นเรื่องอะไรหรือเจ้าคะ”
“ไม่ต้องบอกก็รู้ คงจะเป็นเรื่องที่เกี่ยวกับน้องสามแน่” อวี้อาเหรามองไข่มุกในมือ กำเข้าหากันแน่น แล้วพูดกับเจาเอ๋อร์ผ่านกระจก “เหตุใดถึงหยุดเสียเล่า?”
“เจ้าค่ะ บ่าวจะทำเดี๋ยวนี้เจ้าค่ะ” เจาเอ๋อร์จึงค่อยรู้ตัวว่าตัวเองเกือบลืมเรื่องที่ทำอยู่ รีบทำผมต่อไปในทันที ฝีมือของนางดีมาก มวยผมที่ดูยากและซับซ้อนสำหรับอวี้อาเหรา แต่นางกลับทำได้อย่างง่ายดายราวกับหวีเพียงสองครั้งเท่านั้น
อวี้อาเหรากำลังเสียบปิ่นหยกลงไป ยิ้มแล้วเอ่ยชมว่า “ฝีมือของเจ้านับวันยิ่งดีขึ้นเรื่อยๆ นะ”
“ไหนเลยเจ้าคะ คุณหนูคงไม่ทราบว่าเมี่ยวอวี้เองก็ทำผมเก่งเช่นเดียวกัน วันหน้าท่านก็ลองให้นางทำผมให้บ้างสิเจ้าคะ” เจาเอ๋อร์ยิ้ม แล้วพูดขึ้นราวกับนึกขึ้นมาได้
อวี้อาเหราเลิกคิ้วแล้วมองนาง “เจ้าไม่กลัวนางจะแย่งงานของเจ้าหรือ”
“โธ่ คุณหนูกล่าวอะไรเช่นนี้” ขณะที่พูดนั้น ใบหน้าของเจาเอ๋อร์ก็แดงก่ำ “ก่อนหน้านี้บ่าวไม่ชอบเมี่ยวอวี้สักเท่าไร แต่เมื่อนางช่วยชีวิตบ่าวเมื่อครั้งที่ตลาดมืด และนางยังพยายามที่จะปกป้องคุณหนูอย่างสุดกำลัง ไม่เสียดายแรงและพลังยุทธ์ที่จะต้องสูญเสียไป ก็เห็นว่านางพยายามที่จะช่วยเหลือคุณหนูจริงๆ โดยไม่กลัวเลยแม้แต่น้อย”
“นางซื่อสัตย์กับข้าจริงๆ” อวี้อาเหราส่ายหน้าเล็กน้อย จากนั้นก็เงยหน้าขึ้นมองนาง “แล้วเจ้าเล่า?”
เมื่อได้ยินดังนั้น เจาเอ๋อร์ก็ชะงักไป จากนั้นมุมปากของนางก็โค้งขึ้น
“บ่าวซื่อสัตย์ต่อคุณหนูเสมอมา เติบโตมาพร้อมกับคุณหนู แน่นอนว่าต้องสนิทกับคุณหนูมากกว่าผู้อื่นแน่ หรือว่าคุณหนูสงสัยให้ความภักดีของบ่าวกันเจ้าคะ”
ในเวลาเดียวกันนั้นเอง เมี่ยวอวี้ก็เดินนำนางกำนัลอาวุโสเข้ามา
อวี้อาเหรามองไปที่เจาเอ๋อร์ แล้วจึงถอนสายตากลับมา เหลือบสายตามองไปทางนางกำนัลอาวุโส “แม่นม เสด็จพ่อของข้ามีรับสั่งอะไรอย่างนั้นหรือ”
“บ่าวคารวะคุณหนูรอง” นางกำนัลอาวุโสโค้งคารวะให้กับนางพร้อมส่งรอยยิ้ม อวี้อาเหรากลับโบกมือ นางจึงค่อยๆ อธิบายขึ้นมาว่า “เมื่อครู่นี้เพิ่งมีคำสั่งจากในวัง กล่าวว่าไทเฮาทรงทราบว่านายน้อยสามกลับมาแล้ว จึงบอกว่าคุณหนูรองไม่ต้องเข้าวังในวันนี้ พรุ่งนี้ค่อยมาใหม่เจ้าค่ะ วันนี้ให้อยู่กับครอบครัวไปก่อน ดังนั้นเมื่อท่านอ๋องรู้เรื่องนี้จึงสั่งให้บ่าวมาเชิญคุณหนูไปร่วมรับประทานอาหารเช้าเจ้าค่ะ”
ทานอาหารเช้าร่วมกันกับครอบครัวหรือ? เช่นนั้นก็ไม่ควรรวมนางไปด้วยเลย อวี้อาเหราสบถในใจด้วยน้ำเสียงเย็นชา จากนั้นจึงพยักหน้า “ข้าทราบแล้ว แม่นม เชิญท่านเดินทางกลับดีๆ”
“บ่าวขอตัวลา” เมื่อนางกำนัลอาวุโสเห็นสีหน้านิ่งเฉยของอวี้อาเหรา ไม่มีท่าทีตื่นตระหนกอันใด ก็จำต้องยอมรับในความอดทนอดกลั้นของนาง ความสัมพันธ์ที่เหมือนน้ำกับน้ำมันของคุณหนูรองและอนุรองนั้น คนทั้งจวนหลิงอ๋องล้วนแล้วแต่ทราบกันดี เดิมนางคิดว่าหากรู้ว่านายน้อยสามกลับมาแล้ว คุณหนูรองคงต้องกระวนกระวายใจอยู่บ้าง แต่ไม่มีไม่มีท่าทีกระวนกระวาย กลับไม่มีท่าทีอันใดเลย มุมปากกลับโค้งเป็นรอยยิ้มราวกับไม่สนใจเรื่องที่เกิดขึ้นเลย