“ฝ่าบาทผู้ใดจะไม่รู้จักเทพอัคคีผู้โด่งดังที่ทำให้สามโลกสงบสุขบ้างเพคะ หม่อมฉันเคยพบท่านเทพคราหนึ่งอาภรณ์ที่มีเอกลักษณ์เช่นนี้ในสามโลกก็มีเพียงท่านเทพอัคคีที่สวมใส่ เมื่อสี่หมื่นปีที่แล้วเขาเป็นคนดับทุกข์ให้แก่สามโลกด้วยเหตุเภทภัยอันเกิดจากดาวมาร หากไม่ได้เทพอัคคีแล้วเซียนน้อยเช่นข้าอาจไม่ได้กำเนิดมา เขาในบัดนี้จึงนับเป็นผู้มีพระคุณต่อสรรพสิ่งในสามโลก สตรีน้อยใหญ่ต่างฝันที่จะเป็นชายาของเขา”
เทพผู้นั้นความจริงเฝ้ามองคนสองคนมาตั้งแต่พวกเขาเหยียบเท้ามายังป่าแห่งนี้ ความจริงไม่อยากจะยุ่งกับเทพเซียนผู้อื่นแต่เพราะนางสวมอาภรณ์ของเทพอัคคีทำให้เซียนน้อยเกิดสงสัย ไหนว่าเทพอัคคีไม่มีพระชายาอย่างไร เหตุใดจึงฝ่าบาทน้อยจึงสวมอาภรณ์ของเขาได้
เป่ยฟางหรงหัวเราะในใจปรายตามองสตรีผู้นั้นด้วยรู้สึกเวทนา
“ที่แท้เทพอัคคีผู้นี้ก็เป็นคนดังและข้าก็บังเอิญพบสตรีคลั่งรักหนึ่งอัตราหรอกหรือ”
“ฝ่าบาทเพคะ ผู้ใดบ้างจะไม่หลงใหลเทพอัคคีทั้งใบหน้าที่งดงามและความสามารถอันเก่งกาจดำรงตนอยู่ในกรอบแห่งความดีจนชื่อเสียงเลื่องลือย่อมเป็นที่หมายปองของเทพเซียนสตรีไปทั่วหล้า”
เป่ยฟางหรงถึงกับอ้าปากค้าง คนผู้นั้นในสายตาของนางทั้งเย็นชาและปากร้ายพูดกับนางคำหนึ่งก็ด่าคำหนึ่ง นางเคยแช่แข็งเขาก็หลายครั้งแต่เพราะเขาเป็นเทพแห่งไฟอาคมแช่แข็งของนางจึงไร้ความหมายสำหรับเขา
“ถ้าเขาดีเช่นนั้นจริง ๆ คงไม่ทำเรื่องเลวทรามหรอก”
เทพภูเขาซงซานถึงกับผงะ เหตุใดฝ่าบาทน้อยผู้นี้จึงได้เอ่ยเช่นนั้น
“หม่อมฉันไม่คิดว่าเทพอัคคีจะทำเรื่องเช่นเลวทรามดังที่พระองค์กล่าวได้เพคะ”
เป่ยฟางหรงลอบยิ้ม ได้เวลาทำลายชื่อเสียงของคนผู้นั้นแล้วนางอยากเห็นว่าใบหน้าที่แสนเย็นชาของเขาจะเป็นเช่นไรเมื่อรู้เรื่องนี้
“เจ้าอย่าได้หลงเชื่อข่าวลือเป็นอันขาด เขาผู้นั้นต่ำช้ายิ่งกว่าเผ่ามารเสียอีกที่ข้าจำต้องออกจากแดนเหมันต์ก็เพื่อจะติดตามเขาไปยังแดนสวรรค์ เจ้าเห็นหรือไม่ตรงนี้ของข้าว่าแล้วข้าก็เจ็บช้ำนัก”
เซียนผู้นั้นยิ่งมึนงงในขณะที่หยีจวนสงสัยว่าฝ่าบาทน้อยของตนกำลังจะทำอะไร
“หม่อมฉันไม่เข้าใจเพคะ”
“เจ้านี่ช่างโง่นักนี่ตรงนี้ท้องของข้านูนเช่นนี้ไม่ใช่ว่าข้ากำลังท้องอยู่หรอกหรือ” เป่ยฟางหรงลูบท้องของตนอย่างทนุถนอม
“ฝ่าบาท” เป็นหยีจวนที่ตะโกนออกมาด้วยความตกใจ
“มะหมายความว่าอย่างไรเพคะ” เทพภูเขาเหมือนจะไม่เชื่อในสิ่งที่เกิดขึ้น แต่หากไม่ใช่เรื่องจริงเหตุใดฝ่าบาทน้อยจึงทรงสวมอาภรณ์ของเทพอัคคีเล่า
“ก็เทพอัคคีผู้สูงส่งของเจ้าทำข้าท้องแล้วทิ้ง ช่างเลวทรามต่ำช้านักแค่นี้เจ้ายังไม่เข้าใจหรือ บอกข้ามาสวรรค์อยู่ทางใดกันแน่ข้าจะตามเขาไปทวงความยุติธรรมให้จงได้” เป่ยฟางหรงกระหยิ่มใจว่าตนเองสามารถทำลายชื่อเสียงของเทพอัคคีลงได้แล้วยังจะได้ผู้นำทางไปที่แดนสวรรค์อีก
หยีจวนแทบจะเป็นลมล้มลงตรงนั้น ที่ฝ่าบาทน้อยพุงป่องไม่ใช่เพราะดื่มน้ำทิพย์แห่งสระเหมันต์มากไปหรอกหรือ ไหนจะเสื้อผ้าหลายชั้นนั่นอีกเหตุใดจึงได้กล่าววาจาเช่นนั้นให้ตนเองเสื่อมเสียชื่อเสียง
“ปะเป็นความจริงหรือเพคะ”
“บังอาจ เจ้าสงสัยในวาจาของข้าหรือไม่เห็นหรืออย่างไรว่าข้าสวมอาภรณ์ของเขาอยู่เจ้าคิดว่าเหตุใดข้าจึงมีอาภรณ์ของเขาเล่า”
อย่างที่คนได้กล่าวไว้ว่าความลับไม่มีในโลก หน้าต่างมีหูประตูมีช่องการตะโกนว่าตนเองตั้งครรภ์กับเทพอัคคีนั้นทำให้ชื่อเสียงของเทพอัคคีมัวหมองและข่าวนี้ได้แพร่กระจายอย่างรวดเร็ว
เทพอัคคีที่แท้จริงเป็นเทพจอมปลอม ทำฝ่าบาทน้อยแห่งแดนเหมันต์ตั้งครรภ์แล้วทิ้ง สมควรได้รับทัณฑ์สายฟ้าฟาดจากสวรรค์ ช่างน่ารังเกียจสิ้นดี