ความเต่งตึงของนางถูกคาบเอาไว้ในปาก หลี่จิ้งยังคงลงลิ้นละเลงเลีย เป่ยฟางหรงในยามนี้ช่างอ่อนหวานเป็นอย่างยิ่ง หลี่จิ้งค่อย ๆ ปล่อยพลังทิพย์ของตนเข้าสู่ร่างกายของนาง ในขณะเดียวกันเป่ยฟางหรงนั้นสามารถเร่งเร้าพลังทิพย์ในกายของเขาให้เพิ่มพูนได้เช่นกัน
ความรู้สึกอันแสนประหลาดเกิดขึ้นกับเป่ยฟางหรง เมื่อร่างกายที่เคยแนบชิดของอาจารย์ร้อนเร่าขึ้นเรื่อย ๆ อาภรณ์ของอาจารย์บัดนี้ถูกถอดออกจนสิ้น เปิดเผยร่างกายแข็งแกร่งที่นางคุ้นเคยจนเห็นได้ชัดเจน
หัวใจของเป่ยฟางหรงเต้นรัวแรง นางรู้สึกคล้ายกับกำลังจะขาดอากาศหายใจเมื่อเขาไต่ลิ้นลงมาเรื่อย ๆ จนถึงหน้าขา
ร่างกายของเป่ยฟางหรงสั่นสะท้านยะเยือกอย่างแรง ฝ่ามือเรียวของนางกุมศีรษะของเขาเอาไว้ ในขณะที่นิ้วมือเรียวคลึงไล้ไปทั่วหน้าขา เพียงสัมผัสผ่านความอุ่นชื้นที่อยู่ตรงจุดกึ่งกลางก็สามารถทำให้เป่ยฟางหรงถึงกับครางออกมา
เหตุใดตรงจุดนั้นจึงก่อความรู้สึกได้มากเพียงนี้
นางสงสัยใคร่รู้เป็นอย่างยิ่ง
มือของหลี่จิ้งสัมผัสไปกอบกุมเนินสะโพกกลมกลึง เขาค่อย ๆ ลูบไล้อย่างเบามือ ส่งผ่านพลังทิพย์ไปอย่างช้า ๆ เกิดความอุ่นซ่านภายไปทั่วทุกพื้นผิวที่นิ้วเรียวยาวเคลื่อนไหวไปถึง
เสียงครางของหลี่จิ้งดังขึ้น
“อ๊าา หรงหรง”
ลิ้นของเขาชำแรกลงมาที่ต้นขาด้านใน กระทั่งปัดผ่านความหอมหวานของกลีบเกสรที่ทำให้เป่ยฟางหรงถึงกับหนาวสั่นแม้ในยามนี้จะร้อนเร่าด้วยสัมผัสจากเขาก็ตาม
“อาจารย์ ข้า…รู้สึกประหลาดยิ่ง อ๊าา”
เสียงหวานของนางทำให้หลี่จิ้งยิ่งตกอยู่ในภวังค์แห่งมนต์ขลัง นับตั้งแต่ครองตนอยู่ในการบำเพ็ญตบะมาหลี่จิ้งนั้นได้ปลดปล่อยอารมณ์เยี่ยงนี้นับว่าน้อยมาก
และสตรีที่เขาเลือกย่อมเป็นมนุษย์ธรรมดาหาใช่ผู้ฝึกวิชาเซียนโดยมีถงถงเป็นผู้จัดหานางโลมมาให้เป็นครั้งคราว ทั้งนี้เพื่อป้องกันเชื่อเสียงและการแสวงหาผลประโยชน์จากสตรีเหล่านั้นหลี่จิ้งจึงระมัดระวังตนเป็นอย่างมาก
เมื่อได้ใกล้ชิดเป่ยฟางหรงในยามนี้เขากลับไม่สามารถระมัดระวังตนได้อีกต่อไป
ปากของหลี่จิ้งบดคลึงลงไปที่กลีบเกสรข้างหนึ่ง สัมผัสร้อนของเขาทำให้เป่ยฟางหรงอ่อนระทวย นางในยามนี้คล้ายกลายเป็นขี้ผึ้งที่ถูกลนไฟเสียแล้ว
เสียงครางแผ่วเบาเล็ดลอดออกมาจากลำคอของหลี่จิ้ง เป่ยฟางหรงหรี่ตามองเขา รู้สึกว่าเสียงครางนี้ช่างไพเราะเพราะพริ้งเป็นอย่างยิ่ง
“อาจารย์เจ้าขา ข้าต้องการท่าน”
นางไม่เข้าใจว่าเหตุใดตนเองจึงพออกพอใจกับการสัมผัสของเขาในครานี้เป็นอย่างยิ่ง นางหาได้ตกตะลึงหรือหวาดกลัวเหมือนเช่นในอดีตที่ผ่านมาแม้แต่น้อย
“เจ้าเปียกชื้นไปหมดแล้วหรงหรง เจ้าแน่ใจหรือว่าจะไม่ตำหนิอาจารย์”
หลี่จิ้งไม่ต้องการให้เป่ยฟางหรงเสียใจ การที่เขากับนางจะเป็นคู่ซินเซียวกันเช่นนี้แน่นอนว่าย่อมไม่อยู่ในแผนของเขา เขาไม่จำเป็นต้องมีเซียนสตรีช่วยฝึกบำเพ็ญตบะ แต่หากจะคิดถึงใครสักคนที่จะมาเป็นคู่กับเขาแล้ว หลี่จิ้งก็ไม่เคยคิดฝันมาก่อนว่าจะเป็นเป่ยฟางหรง
“แน่ใจเจ้าค่ะ อาจารย์ได้โปรดอย่าทรมานข้าอีกเลย”
นางอ้อนวอนแล้ว
นิ้วมือของหลี่จิ้งค่อย ๆ ขยับมาหานางช้า ๆ ตรงจุดนั้นที่นางต้องการ เขายังดูลังเลไม่แน่ใจกระทั่งคล้ายกำลังข่มใจของตนเองเป็นอย่างมาก
กลิ่นอายมารของเป่ยฟางหรงบัดนี้อ่อนลงไปมาก คงเหลือเรืองรองอยู่รอบกายนางไม่ได้ไหลออกจากเขตอาคมของเขาแม้แต่น้อย
หลี่จิ้งจึงลังเลแล้ว ว่าเขาจะหยุดดีหรือไม่ หากหยุดในตอนนี้กลิ่นอายมารของนางจะสามารถหยุดยั้งอยู่ได้หรือไม่ หากเป็นเช่นนั้นเขาก็ไม่อาจปกป้องและแอบซ่อนนางไว้จากผู้อาวุโสของสำนักได้อีกต่อไปเป็นแน่