“ได้โปรดเถิดเจ้าค่ะ ข้าไม่เสียใจ ข้าต้องการท่าน”
หลี่จิ้งเองก็รุ่มร้อนไม่ต่างจากนาง เขาก้มลงมองเป่ยฟางหรง กลืนน้ำลายลงคอเมื่อเห็นร่างกายขาวผ่องงดงามอยู่ในสายตา เอวของนางคอดกิ่ว เรือนกายไร้ที่ติทั้งยังอ่อนนุ่มละมุนมือเป็นอย่างยิ่ง
นางแอ่นกายหยัดสะโพกขึ้นใส่มือของเขา เป่ยฟางหรงไม่คิดจะให้หลี่จิ้งเปลี่ยนใจเป็นอันขาด หลี่จิ้งสัมผัสนางจนเต็มฝ่ามือ พบว่าบริเวณนั้นชื้นแฉะเต็มไปด้วยน้ำทิพย์ที่หลั่งไหลออกมาเป็นสาย
กลิ่นของน้ำทิพย์นั้นช่างหอมหวานยั่วยวนแตะปลายจมูก เขาสัมผัสได้ถึงพลังทิพย์ที่ล้นเอ่ออยู่บริเวณนั้น เพียงเขาสัมผัสลิ้นลงไปร่างกายของเขาเองจะบังเกิดพลังอันสูงส่ง นับว่าเป็นการร่วมซินเซียวกันอย่างสมบูรณ์
และนั่นจะทำให้เขาข่มพลังปีศาจในร่างกายของเป่ยฟางหรงได้
หลี่จิ้งตัดใจแล้ว เรื่องเลยเถิดมาจนถึงบัดนี้อย่างไรเสียเขาก็ไม่มีวิธีอื่น เป่ยฟางหรงได้กินบัวหิมะพันปีกระตุ้นพลังมารในร่างของนางแล้ว วิธีที่จะข่มพลังมารนี้ได้ในยามนี้ก็คงมีวิธีนี้เพียงวิธีเดียว
หลี่จิ้งคิดว่าทุกสิ่งที่เขาทำล้วนด้วยความจำเป็น เขาคือผู้ที่สวรรค์ส่งมาให้ควบคุมมารน้อยตัวนี้ เช่นนั้นไม่ว่าด้วยวิธีการใดเขาก็ต้องทำหน้าที่อย่างเต็มที่
ดวงตาคมของหลี่จิ้งที่มองนางเต็มไปด้วยความร้อนรุ่ม สองมือของเขาลูบตะโบมไปทั่วสะโพกนวลเนียน อีกทั้งยังไต่ไล้ไปทั่วสะโพกของนาง
ลมหายใจของหลี่จิ้งดูจะถี่กระชั้น ในขณะที่เป่ยฟางหรงนั้นแทบจะขาดใจเสียตรงนี้เมื่อหลี่จิ้งก้มลงแตะสัมผัสกลีบดอกของนางด้วยปลายลิ้นแล้วลากลงมาที่ช่องทางคับแคบเพื่อดูดกลืนน้ำใสที่ไหลออกมา
เพียงปลายลิ้นแตะต้องส่วนนั้นของนาง หลี่จิ้งสัมผัสได้ถึงพลังทิพย์ที่เดือดพล่านภายในร่างกายของเขาจนแทบระเบิดออกมา
หลี่จิ้งแบลิ้นกว้าง ปาดเลียร่องกลีบของนางอย่างกระหายและด้วยความอดกลั้นอย่างสูงสุดที่จะไม่ทำร้ายนางด้วยไฟที่แผดเผาร่างกายของเขาในตอนนี้
เขาตวัดลิ้นเลียจนถึงปุ่มเล็ก ๆ แห่งปลายเกสรที่ยื่นออกมา เป่ยฟางหรงยิ่งแอ่นหยัดกาย ทั้งครางทั้งเร่งเร้าให้เขารุกรานนางหนักขึ้น
หลี่จิ้งฝังใบหน้าแล้วกดลิ้นลึกลง ดูดกลืนสายน้ำแห่งพลังทิพย์ที่ไหลเยิ้มออกมาเป็นสาย ความเปียกชื้นของนางไม่นานก็ถูกเขากำจัดจนเสียสิ้น เพียงแต่น้ำบ่อนี้เป็นเหมือนน้ำทิพย์ที่ไหลออกมาไม่มีวันเหือดแห้งหลี่จิ้งจึงตะโบมดูดกลืนอย่างหื่นกระหายยิ่ง
สองขาเรียวของเป่ยฟางหรงยกขึ้นตั้งบนเตียงนอน กระดกก้นให้เข้าหาเขา มือเรียวยึดศีรษะของเขาเอาไว้ในระหว่างที่เขาส่งถ่ายพลังทิพย์จากปลายลิ้นลงมา
“อาจารย์เจ้าขา อ๊า วิเศษยิ่งนักเจ้าค่ะ”
ยิ่งเขาส่งปลายลิ้นร้อนลงมา เป่ยฟางหรงยิ่งรู้สึกกระหาย หลี่จิ้งอ้าปากดูดกลืนนางระลอกแล้วระลอกเล่า ส่งผ่านพลังออกมาไม่หยุดหย่อน น้ำทิพย์ของนางยิ่งไหลเยิ้มหลี่จิ้งยิ่งละเลงเร็วขึ้นเขาตวัดเลียรวบด้วยความเร่าร้อน
ร่างกายของนางบัดนี้เต็มไปด้วยพลังทิพย์ของหลี่จิ้ง เป่ยฟางหรงรู้สึกเบาหวิวและทรมานในคราเดียวกัน หลี่จิ้งสามารถควบคุมกลิ่นอายปีศาจของนางได้แล้ว
แต่ตัวเขาในตอนนี้ไม่สามารถที่จะหยุดได้ ส่วนแข็งขึงของเขาเหยียดขยายจนร้อนรุ่ม
“หรงหรงอาจารย์จะให้เจ้าคิดอีกครา”
เป่ยฟางหรงไม่พอใจแล้ว เหตุใดอาจารย์จึงถามมากเช่นนี้ นางหาได้ตอบอย่างยั่วเย้าอีกแล้วเป่ยฟางหรงในยามนี้มองเขาด้วยสายตาแวววาว คล้ายว่าหลี่จิ้งเป็นอาหารอันโอชะ
“อาจารย์ท่านทำข้าเสียเวลาแล้ว ข้าคิดว่าท่านควรแทงกระบี่ของท่านเข้ามาในกายข้าเสียที”
กล่าวจบนางก็เป็นฝ่ายดันร่างของหลี่จิ้งลงบนเตียงนอน นางขึ้นคร่อมร่างของเขาเอาไว้สองมือพลันจับด้ามกระบี่ของหลี่จิ้งแน่น
และแล้วเป่ยฟางหรงก็ดันร่างกายของตนเองลงมา กระบี่ของเขาแทงทะลุเข้าไปในโพรงถ้ำอันคับแคบทันใด หลี่จิ้งกัดปากครางเสียงแหบเครือ ในขณะที่เป่ยฟางหรงกรีดร้อง
“อาจารย์เหตุใดท่านโกหกข้า นอกจากท่านจะไม่อร่อยแล้วยังเจ็บปวดทรมานยิ่ง”
หลี่จิ้งเบิกตาโพลงเมื่อได้ยินนางกล่าวเช่นนั้น เขายิ้มพลางลูบศีรษะของนาง
“หรงหรงในที่สุดเจ้าก็กลับมาแล้ว”