“เหตุใดไม่ได้เล่าเจ้าคะ”
“หากเจ้าทำเช่นนี้กับผู้อื่น ร่างของเจ้าจะระเบิดเป็นผุยผงแม้วิญญาณก็แตกสลาย”
หลี่จิ้งเอ่ยจบก็หลบสายตาของนางทันใด ใช่เขากำลังโกหกนางอย่างหน้าอ้านไร้ยางอาย ที่เขาทำเพราะไม่อยากให้ศิษย์ด้อยปัญญาผู้นี้โดนผู้ใดเอาเปรียบก็เท่านั้น
เป่ยฟางหรงตกใจยิ่ง คิดว่าหากนางทำผิดจากที่อาจารย์กล่าวคงได้ตายไร้ชีวิตเป็นแน่
“เช่นนั้นข้าก็จะฝึกกับอาจารย์เพียงผู้เดียวเจ้าค่ะ”
หลี่จิ้งกระแอม ทั้งพยายามตรึงร่างของนางให้อยู่นิ่ง ๆ ก่อนที่เขาจะขาดสติแล้วกระทำการรุนแรงออกไป แค่คิดก็น่าอดสูแล้วที่ต้องมาอธิบายเรื่องนี้ในยามนี้
“ดีมาก ที่สำคัญการฝึกวิชานี้เจ้าต้องห้ามแพร่งพรายเรื่องนี้ให้ผู้ใดรู้”
“ศิษย์น้อมรับคำสอนเจ้าค่ะ”
เป่ยฟางหรงกลายเป็นศิษย์ผู้ว่าง่ายโดยทันที หลี่จิ้งจึงเอ่ยว่า
“เอาล่ะ เจ้าขอเพียงอยู่นิ่ง ๆ อาจารย์จะถ่ายทอดพลังทิพย์สมานบาดแผลให้เจ้า หลังจากนี้เจ้าก็จะไม่เจ็บแล้ว และต้องเชื่อฟังคำสั่งอาจารย์เข้าใจหรือไม่”
ดวงตากลมโตของนางยังจับจ้องที่ใบหน้าเหมือนจะเจ็บปวดของอาจารย์ตาแป๋ว นางรู้สึกผิดที่ทำให้อาจารย์เจ็บปวดทรมานไปด้วย จึงตั้งใจเชื่อฟังแต่โดยดี
“เจ้าค่ะ ศิษย์จะไม่ทำให้อาจารย์ผิดหวัง”
เป่ยฟางหรงซบหน้าลงบนอกอบอุ่นของหลี่จิ้งอย่างสงบ นางเห็นหัวปลายถันสีแดงของเขาก็รู้สึกอยากเขี่ยเล่นนัก แม้ในใจจะห้ามปรามตนเองเท่าใดก็อดไม่ได้ที่จะใช้ปลายนิ้วสัมผัส
เรื่องเล็กน้อยเพียงนี้อาจารย์คงไม่ถือสา
เรื่องเล็กน้อยของนางกลายเป็นเรื่องใหญ่ของหลี่จิ้ง ปลายนิ้วของนางที่กำลังเขี่ยไล้ปลายถันเล็ก ๆ ของเขาที่เครียดเขม็งตั้งแข็งอยู่ในตอนนี้กลับทำให้หลี่จิ้งแทบจะคลั่งตาย
ในขณะที่เขากำลังเพ่งจิตใจพลังทิพย์รักษานางบริเวณอ่อนไหวที่นางกำลังเจ็บปวด หลี่จิ้งเองกลับถูกเป่ยฟางหรงยั่วยวนโดยไม่รู้ตัว ทำให้เขาทุกข์ทรมานแสนสาหัส
กระทั่งปลายลิ้นอุ่นของนางสัมผัสที่เนื้อแข็งตึงของเขา เป่ยฟางหรงกลับนึกสนุกเมื่อเห็นเนื้ออ่อนนุ่มบริเวณนี้แต่เดิมยังนุ่มอยู่แท้ ๆ เหตุใดกลายเป็นแข็ง ๆ ขึ้นมาได้ ยิ่งนางใช้ลิ้นเลียมันนก็ยิ่งขมวดเป็นปมดูน่าสนใจเป็นอย่างยิ่ง
ที่แท้ความอร่อยที่อาจารย์เอ่ยถึงนั้นมันกลับมาพร้อมกับความสนุกเช่นนี้นี่เองหรอกหรือ อาจารย์หาได้โกหกนางจริง ๆ ด้วย
เมื่อนางเลียไล้ข้างหนึ่งจนพอใจ เป่ยฟางหรงเห็นอาจารย์ไม่ตำหนิพลันย่ามใจเป็นอย่างยิ่ง นางมีความกล้าหาญเพียงพอที่จะหันหน้าสลับไปอีกด้านเพื่อหยอกเย้าปลายถันอีกข้างของอาจารย์
มีหนึ่งไต่ไล้ข้างหนึ่ง อีกด้านหนึ่งแลบลิ้นเลีย ความรู้สึกอันแสนวิเศษพลันเกิดขึ้น นางรู้สึกถึงพลังทิพย์ภายในร่างกายของตนเองที่ไหลเวียนไปทั่วร่าง ทำให้สดชื่นและตื่นเต้นเป็นอย่างยิ่ง
อาจารย์คือคู่ซินเซียวของนาง นางเริ่มเข้าใจอย่างลึกซึ้งและมีความรู้สึกตะกละตะกลามในร่างกายของเขาเป็นอย่างยิ่ง
หลี่จิ้งพยายามระงับใจจนกระทั่งเขารักษานางเสร็จในเวลาไม่นาน เป่ยฟางหรงเมื่อไม่เจ็บแล้วนางเริ่มขยับกายอย่างอำเภอใจ กล่าวขอบคุณเขาทั้ง ๆ ที่ยังง่วนอยู่ที่ก้อนเนื้อเล็ก ๆ สีชมพูของอาจารย์
“ขอบคุณเจ้าค่ะ ข้าไม่รู้สึกเจ็บแล้ว เพียงแต่เวลาขยับร่างกายกลับรู้สึกแปลกประหลาด”
“แล้วดีหรือไม่ความรู้สึกนั้น” หลี่จิ้งเอ่ยถามเสียงแหบเครือ
“ดีอย่างยิ่งเจ้าค่ะอาจารย์ ข้าชอบยิ่งนัก”
หลี่จิ้งกัดฟัน เมื่อนางขยับสะโพกไปมาเพื่อตรวจสอบบาดแผล อีกทั้งยังเล่นลิ้นกับปลายถันของเขาด้วยความอยากรู้อยากเห็น
“อ๊าาาา”
ครานี้หลี่จิ้งถึงกับระงับอารมณ์ไม่อยู่ เขาครางออกมาอย่างแรง เป่ยฟางหรงสะดุ้งนางเงยหน้ามองเขาเกรงว่าจะได้รับโทษ กลับถูกหลี่จิ้งตะคอกด้วยน้ำเสียงดุดันเคร่งขรึม
“บังอาจผู้ใดบอกให้เจ้าหยุด หากต้องการเลียก็ทำให้ดี”
เป่ยฟางหรงไม่เข้าใจ ใบหน้าอาจารย์ดูเจ็บปวดแท้ ๆ เหตุใดไม่ตำหนินางเล่า นางคิดได้เพียงชั่วครู่พลันถูกมือหนาของเขากดศีรษะนางลง
เอาล่ะ ในเมื่อเป็นเช่นนี้เป่ยฟางหรงจึงตั้งใจปรนนิบัติอาจารย์อย่างดี