หลังจากฝึกวิชาคู่ซินเซียวร่วมกับอาจารย์มาทั้งคืนเป่ยฟางหรงในยามเช้าก็อ่อนเพลียมากนัก ในยามเหมาที่ท้องฟ้ามืดคลึ้ม หิมะโปรยปรายลงมาเป็นสายหลี่จิ้งลืมตาตื่นแล้ว
เป่ยฟางหรงยังนอนกอดเขาอยู่ ลมหายใจสม่ำเสมอใบหน้างดงามหวานล้ำแนบชิดอยู่ที่อกของเขา อีกทั้งลมหายใจเย็นฉ่ำหอมระรวยนั่นทำให้หลี่จิ้งถึงกับชะงัก เดิมทีตั้งใจจะลุกออกจากเตียงเห็นนางที่เป็นเช่นนี้จึงยังนอนกอดนางอีกสักหน่อย
อย่างไรก็ยังมีเวลา
มือของเขาโอบรอบร่างของเป่ยฟางหรง ดอมดมกลิ่นหอมเย็นของนางจนเต็มปอด ความรู้สึกหลังจากที่ได้ร่วมหอกับนางหลี่จิ้งไม่เคยคาดคิดว่าจะหวานซึ้งปานนี้
ถึงแม้ว่าเขาจะยังสับสนว่าแท้จริงแล้วที่เขากระทำเป็นการเอาเปรียบนางหรือไม่
หากนางยึดมั่นถือมั่นเขาเล่า เขาจะทำเช่นไร
ที่เขากระทำทั้งหมดนั้นล้วนเพื่อตัวนาง หากเขาไม่อาจควบคุมนางได้ไม่ว่าจะเป็นทัพสวรรค์หรือทัพเซียนของมนุษย์ย่อมต้องอยากกำจัดนางให้สิ้นซากเพื่อตัดไฟแต่ต้นลม
แค่เพียงคิดว่าหากเป่ยฟางหรงได้รับความเจ็บปวดหลี่จิ้งก็รู้สึกปวดใจแล้ว
เขากอดนางเบา ๆ ไม่ลงแรงหนักมากนักความเย็นจากร่างของนางทำให้เขารู้สึกสบาย พลังทิพย์ไหลเวียนไปจนถึงปลายเท้า หลี่จิ้งยิ้มบาง เป็นรอยยิ้มที่หาได้ยากยิ่งนัก
หลี่จิ้งเป็นเทพอัคคีร่างกายแต่เดิมก็ร้อนราวกับไฟ ในขณะที่เป่ยฟางหรงร่างที่แท้จริงคือดาวมารนางจึงมีกลิ่นกายเย็นฉ่ำรวมทั้งลมหายใจที่เยือกเย็นนี้ด้วย
สิ่งที่หลอมรวมเป็นนางทำให้หลี่จิ้งรู้สึกดียิ่ง
นางขยับกายเล็กน้อยครานี้นอนหันหลังให้เขากระเถิบแผ่นหลังให้บดเบียดกับร่างของเขาเพื่อรับไออุ่น หลี่จิ้งถือโอกาสนี้ลุกขึ้นโดยไม่ทำให้นางตื่น แล้ววางหมอนข้างไว้ที่หลังของนางแทน
เขาย่องลงจากเตียงอย่างเงียบกริบเดินออกไปเรือนข้างที่มีศิษย์รับใช้อยู่นั่งอย่างเงียบสงบ โดยมีศิษย์รับใช้ชายหญิงสองคนคอยดูแล
หลี่จิ้งผลัดอาภรณ์ล้างหน้าถูฟันด้วยน้ำอุ่นจนเรียบร้อย ศิษย์สองคนล้วนเป็นคนพูดน้อยและเป็นเด็กกำพร้าที่หลี่จิ้งเก็บมาจากข้างถนน ด้วยไร้ความสามารถที่จะฝึกวิชาเซียนจึงได้แต่เป็นศิษย์รับใช้เท่านั้น
พวกเขาเข้าสำนักก่อนเป่ยฟางหรงไม่กี่เดือนอายุอายุมากกว่าเป่ยฟางหรงไม่กี่ปี ถึงจะไม่ได้ฝึกวิชาเซียนแต่นับจากคนที่เข้าสำนักฝากตัวเป็นศิษย์ก่อนหลังพวกเขาจึงมีฐานะเป็นศิษย์พี่ของเป่ยฟางหรง
นอกจากจิ้งหูแล้วก็มีพวกเขาที่หลี่จิ้งวางใจให้อยู่ข้างกายเป่ยฟางหรงและมั่นใจว่าพวกเขาจะไม่แพร่งพรายความลับระหว่างศิษย์และอาจารย์ออกไป
ศิษย์สองคนล้วนไม่ได้ยินเสียงเล็ดลอดอันใดมาตลอดคืน นั่นเป็นเพราะข่ายอาคมที่หลี่จิ้งสร้างขึ้นมา
“หากศิษย์น้องของพวกเจ้าตื่นแล้วก็ให้นางกินโจ๊ก ห้ามกินอย่างอื่นร่างกายของนางยังไม่ฟื้นดี โจ๊กนั้นก็ให้อุ่นอย่าปล่อยให้เย็นเป็นอันขาด”
“เจ้าค่ะ ขอรับ”
ศิษย์ทั้งสองรับคำ ส่งหลี่จิ้งจนถึงหน้าประตูเรือน ก่อนที่หลี่จิ้งจะก้าวขาออกไป พลันหูได้ยินเสียงดิ้นยุกยิกของสตรีที่เขาคิดว่านอนหลับอยู่ด้านใน ยังมีเสียงเรียกเบา ๆ ในลำคอ
“อาจารย์ อาจารย์ ท่านอยู่ที่ใดเจ้าคะ”
เสียงเบาหวิวของนางยังงัวเงีย เรียกเขาไม่ชัดคำนัก กระนั้นหลี่จิ้งก็ไม่อาจตัดใจได้ จำใจต้องย้อนกลับเข้าไปในห้องเพื่อดูนางเสียหน่อย
คงเป็นเพราะอากาศเย็นมากเพียงเขายับกายออกห่างเป่ยฟางหรงก็รับรู้ถึงความเย็นที่ส่งผ่านเข้ามา มือเรียวของนางคว้าอากาศไปมาแต่ไม่ยอมลืมตาด้วยขี้เกียจเป็นอย่างยิ่ง
หลี่จิ้งเห็นเงามือของคนที่นอนด้านข้างที่พยายามคว้าร่างของตนพลันขยับเข้าไปใกล้ให้เป่ยฟางหรงจับเขาได้ เป่ยฟางหรงสัมผัสได้ถึงร่างแข็ง ๆ ของอาจารย์จึงคว้าเอวของเขาเอาไว้แล้วกอดรวบทันใดยังเกยหัวของตนไว้บนตักเขาด้วย
หลี่จิ้งลูบศีรษะของนางอย่างอ่อนโยน
“อาจารย์จะไปพบผู้อาวุโสทั้งห้าที่ถ้ำกักตนเจ้านอนต่อเถิด”
“อาจารย์จะไปพบผู้อาวุโสด้วยเรื่องใด มิใช่ว่าพวกเขากำลังกักตนแล้วหากไปรบกวนจะมีโทษหรือเจ้าคะ อย่าไปเลยนะเจ้าคะ”
“เรื่องสำคัญต้องหารือ”
“เหตุใดต้องไปเช้าเช่นนี้เจ้าคะ”
“ตอนเช้ายามเหมาผู้อาวุโสเพิ่งตื่นนอนมีเพียงเวลานี้เท่านั้นที่พวกเขาจะยอมให้พบผ่านพ้นยามนี้ไปก็ไม่อาจเข้าถ้ำกักตนได้แล้ว”
“ข้าหนาวนี่เจ้าคะ หากแข็งตายจะทำเช่นไร”
เป่ยฟางหรงออดอ้อนอย่างเห็นแก่ตัว สำหรับหลี่จิ้งแล้วนางก็เป็นเช่นนี้ น่าประหลาดที่แม้บางคราเขาจะเกรี้ยวกราดไปบ้างแต่ก็ไม่เคยรู้สึกอิดหนาระอาใจแม้แต่ครั้งเดียว
เขาหัวเราะในลำคอแล้วเอ่ยว่า
“อาจารย์อาจจะไม่รู้ทุกเรื่องในสามภพ แต่เรื่องที่อาจารย์มั่นใจคือหรงหรงของอาจารย์คนนี้จะไม่มีทางตายเพราะความหนาวอย่างแน่นอน”
เพราะนางคือปีศาจน้ำแข็งผู้แข็งแกร่ง ที่รู้สึกหนาวเพียงเพราะอยู่ในกายมนุษย์เท่านั้นเอง
“อาจารย์ไปวันหลังได้หรือไม่ ศิษย์อ่อนเพลียยิ่งคืนที่ผ่านมาราวกับออกรบทำสงครามรักษาแคว้น อาจารย์จะทิ้งศิษย์ไปได้อย่างไรเจ้าคะ..อาจารย์..”
นางยังกล่าวไม่จบหลี่จิ้งก็ปิดปากของนางด้วยปากของเขาเสียแล้ว สัมผัสของปลายลิ้นอันแสนวิเศษช่างอบอุ่นและอ่อนโยนยิ่ง เป่ยฟางหรงถูกเขาครอบงำอย่างดูดดื่มจนสมองมึนงง เอ่ยคำใดไม่ออกเนิ่นนาน