หลิงเสียนแทบอยากจะฉีกร่างเป่ยฟางหรงเป็นชิ้น ๆ เหตุใดนางจะไม่รู้ว่าเจ้าปีศาจตัวร้ายนั่นกำลังร้องขอความเห็นใจกัน นางดึงยันต์ออกมาร่ายคาถาด้วยความมั่นใจ
ต่อให้เป็นดาวมารมาจุติ เจอพลังทิพย์จากดินฟ้าขั้นสูงสุดของห้าสำนักเซียนใหญ่ก็ย่อมเผยตัวตนออกมา
หลิงเสียนซัดยันต์ไปที่ร่างของเป่ยฟางหรงอย่างต่อเนื่อง ไม่ใช่เพียงแค่แผ่นเดียวแต่นับเป็นสิบยี่สิบแผ่นคลุมร่างเป่ยฟางหรงจนมิด
นั่นทำให้ศิษย์ในสำนักรู้สึกว่านางใช้ยันต์อย่างสิ้นเปลืองเป็นอย่างยิ่ง ยันต์นั่นสามารถกำจัดปีศาจได้นับสิบตัวเชียวนะ เหตุใดจึงนำมาใช้กับเป่ยฟางหรงเพียงคนเดียว
เป่ยฟางหรงถูกยันต์แปะจนเต็มตัว นางเพียงแต่นั่งนิ่ง ๆ ไม่ร้องออกมาสักแอะผิดวิสัยสตรีขี้โวยวายของนางเป็นอย่างยิ่ง
ท่ามกลางศิษย์ในสำนักที่กลั้นหายใจลุ้นระทึกดูสิ่งที่จะปรากฏข้างหน้า และหลิงเสียนที่คาดว่าครานี้จะสามารถเปิดเผยร่างของเป่ยฟางหรงได้เมื่อเป็นเช่นนี้ทุกสิ่งรอบกายพลันหยุดนิ่งไร้การเคลื่อนไหว
เงียบสงบเป็นอย่างยิ่ง
หลี่จิ้งผู้เฝ้ามองอย่างห่าง ๆ ด้วยใบหน้าราบเรียบไร้ความกังวลอันใด แต่หากสังเกตให้ดีจะพบว่าที่บริเวณหน้าผากของเขามีเหงื่อเย็นผุดขึ้นเป็นสาย
เวลาความจริงแล้วผ่านไปเพียงชั่วครู่แต่กลับดูเนิ่นนานยิ่ง
เป่ยฟางหรงก็ไม่รู้ว่าต้องทำเช่นใดต่อเช่นกันจะต้องขยับกายหรือไม่ หรือว่าควรอยู่นิ่ง ๆ ดี คงมีเพียงแต่ความรำคาญที่ถูกแผ่นกระดาษปิดทับไปทั่วทั้งร่าง
และแล้วเสียงฮือฮาของศิษย์ในสำนักพลันดังขึ้นเมื่อจู่ ๆ เป่ยฟางหรงก็ร้องอย่างเจ็บปวดขึ้นมา
“อาจารย์ ข้าเจ็บ อาจารย์ ฮือ ๆ ไม่เอาแล้วเจ้าค่ะ เจ็บมากเลยเจ้าค่ะ”
หลิงเสียนหัวเราะออกมาด้วยความรู้สึกว่าสะใจยิ่ง สายตาศิษย์ทุกคนของสำนักต่างตกตะลึง ศิษย์น้องแท้จริงเป็นปีศาจหรือ
“หรงหรง หรงหรง”
หลี่จิ้งผู้ตื่นตระหนกกำลังถลาไปที่ร่างของเป่ยฟางหรง หลิงเสียนดึงมือของเขาเอาไว้อย่างไรก็ไม่ยอมปล่อย
“ศิษย์พี่นางกำลังจะกลายร่างเป็นปีศาจแล้ว อันตรายเจ้าค่ะ อย่าได้เข้าใกล้นาง”
เพียงหลิงเสียนเอ่ยคำนี้ศิษย์หลายคนต่างถอยห่างตั้งท่าเตรียมพร้อม ทั้ง ๆ ที่ไม่เห็นว่าเป่ยฟางหรงกำลังจะกลายร่างอย่างไร
หลี่จิ้งปัดมือของหลิงเสียนออกแล้วเอ่ยเสียงเย็น
“ปล่อยข้า”
หลิงเสียนไม่ยอมปล่อย นางยังรวบร่างของเขาเอาไว้แน่นหนา หลี่จิ้งจ้องมองหน้าหลิงเสียนด้วยดวงตาแข็งกร้าว
“ศิษย์น้อง ข้าไม่อยากทำร้ายเจ้า ปล่อยข้า”
หลิงเสียนส่ายหน้าไม่พอใจเป็นอย่างยิ่ง สายตาของหลี่จิ้งบัดนี้มืดบอดเพราะนางปีศาจไปแล้ว นางไม่ยอมให้เป็นเช่นนั้นอีกต่อไป เขาคือบุรุษที่อยู่ในใจของนาง ผู้ที่จะต้องเป็นคู่ซินเซียวของนาง
“นางเป็นปีศาจนะเจ้าคะ ท่านตาสว่างได้แล้วมนต์ที่ท่านถูกนางครอบงำข้าจะช่วยท่านเอง ข้าจะแก้ไขมนต์ดำนั้นให้ท่านเอง ศิษย์พี่ฟังข้าเถิดเจ้าค่ะ”
ในขณะที่หลี่จิ้งคิดจะใช้อาคมสลัดร่างของหลิงเสียนให้หลุดนั้น สตรีผู้ที่คุกเข่าท่ามกลางหิมะก็ร้องไห้เสียงดังออกมา
“อาจารย์เจ็บมากเจ้าค่ะ อาจารย์ข้าไม่พิสูจน์แล้วนะเจ้าคะ ข้าไม่ทำแล้ว”
เป่ยฟางหรงพลันลุกขึ้นจากพื้นหิมะอย่างทุลักทุเล นางยังดึงยันต์ปราบมารล้ำค่าซึ่งเป็นของวิเศษของห้าสำนักเซียนออกจากร่างโดยไม่ไยดี
ศิษย์พี่น้องต่างพูดคุยกันพร้อมทั้งมองนางด้วยความตกตะลึง บัดนี้ยันต์พวกนั้นถูกฉีกขาดหล่นลงบนพื้นหิมะขาวกลายเป็นเศษกระดาษไร้ค่าที่ปลิวว่อนไปตามสายลม
“อาจารย์หิมะกัดหัวเข่าข้าแน่แล้ว เจ็บเป็นอย่างยิ่งเจ้าค่ะ อาจารย์ข้าเดินไม่ได้แล้วท่านอุ้มข้าที อาจารย์อุ้มข้าที”