“แล้วอย่างไร ข้ารู้ว่านางไม่อยากไปแดนมนุษย์นางจะมาก็ไม่เห็นแปลก ปล่อยให้เป็นหน้าที่ขององค์เง็กเซียนเถิดเราแค่รอฟังคำบัญชา หากเป่ยฟางหรงเก่งกล้าสามารถข้าก็ไม่ต้องลำบากลงไปแดนมนุษย์กับนางแล้วเจ้าควรเอาใจช่วยนางนะ”
“นายท่านฝ่าบาทน้อยไม่อยากลงไปแดนมนุษย์จริงนางยังอาละวาดแช่แข็งท่านเทพไปหลายองค์ ไม่เพียงเท่านั้นนางยังประกาศก้องว่าท่านทำนางตั้งครรภ์แล้วหนีหัวหดท่านจะยังใจเย็นอยู่อีกหรือ”
“ผู้ใดทำนางตั้งครรภ์กัน”
“เป็นท่าน นายท่านนางกำลังกล่าวหาท่าน”
หลี่จิ้งลุกพรวดขึ้นจากสระน้ำถงถงยกเท้าปิดตาแล้วหันหลังอย่างว่องไว ในใจก็ประหวั่นพรั่นพรึง
อุจาดตาเกินไปแล้ว รังแกกันเกินไปแล้ว คิดได้ดังนั้นเขาก็มองยังส่วนสำคัญของตนเองที่หลบอยู่ในขน มันช่างน้อยนิดยิ่งนัก นายท่านกำลังทำให้ข้าดูแย่
“นางมารผู้นี้เห็นทีจะไม่ได้ตายดีแน่”
พริบตาเทพอัคคีก็อยู่ในอาภรณ์สีแดงเพิลงของตนเขาย้ายร่างไปโผล่ที่กลางตำหนักขององค์เง็กเซียน สัมผัสได้ถึงความหนาวเย็นที่พัดผ่านใบหน้า แดนสวรรค์อันอบอุ่นถูกนางมารน้อยแช่แข็งอีกครา ถึงจะไม่รุนแรงเท่ากับเมื่อสี่หมื่นปีก่อนแต่ฝีมือของนางก็ดีไม่ใช่น้อย เทพทั้งหมดที่มาร่วมรื่นรมย์กับเรื่องผู้อื่นพลอยถูกแช่เแข็งไปด้วย
มีเพียงองค์เง็กเซียนที่นั่งอยู่ด้านบนยังยกจอกสุราดื่มอย่างใจเย็น
“ซ่างเสินท่านมาเสียทีแต่มาช้าไปสักหน่อยเพื่อน ๆ ของท่านจึงถูกแช่แข็งไปเรียบร้อย”
องค์เง็กเซียนตระหนักได้เป็นอย่างดีว่าแม้ปฐมวิญญาณของดาวมารที่อยู่ในร่างของเป่ยฟางหรงจะอ่อนด้อยลงมากกระนั้นก็ยังแข็งแกร่งเกินกว่าที่เทพธรรมดาจะต่อกรได้ หากปล่อยให้ปฐมวิญญาณในส่วนนี้เข้มแข็งขึ้นเรื่อย ๆ เกรงว่าต่อไปสามโลกคงเกิดภัยพิบัติด้วยฝีมือนังหนูผู้นี้เป็นแน่
“เขามาแล้วอย่างไรคิดว่าข้ากลัวหรือที่มาวันนี้เพื่อที่จะสั่งสอนท่านว่าต่อไปอย่าได้มายุ่งกับข้าอีก ข้าไม่มีวันลงไปแดนมนุษย์เพื่อขัดเกลาอะไรนั่นโดยเด็ดขาด”
“เป่ยฟางหรงเจ้าบังอาจ”
“ท่านอย่ามายุ่งข้ากำลังคุยกับตาแก่นี่อยู่”
“ว่าอย่างไรล่ะเทพอัคคี ข้ามอบหมายให้ท่านจัดการกับลูกศิษย์ให้ดีแล้วค่อยกลับมาละลายน้ำแข็งให้เหล่าเทพเรื่องนี้ก็เป็นธุระของซ่างเสินแล้วกันข้ายังมีนัดสังสรรค์กับเจ้าแม่กวนอิมที่ป่าหิมพานต์”
ว่าแล้วพระองค์ก็หายตัวไปทิ้งเรื่องราวเบื้องหลังให้เทพอัคคีจัดการ
“เจ้าแก่เจ้าจะไปไหน กลัวหัวหดหรืออย่างไร”
“เป่ยฟางหรงเจ้าคิดว่าเจ้าเป็นผู้ใด ถึงบังอาจบุกรุกสวรรค์กลับไปกับข้า”
“ไม่ข้าต้องตกลงกับเง็กเซียนนั่นให้รู้เรื่อง แดนเหมันต์ใช่ว่าผู้ใดจะมาสั่งการได้”
“เป่ยฟางหรง” ในฐานะอาจารย์ที่ศิษย์ทำเรื่องขายหน้าเช่นนี้หลี่จิ้งก็รู้สึกเสียหน้าอยู่ไม่ใช่น้อย เขาวันนี้อย่างไรต้องสั่งสอนนางให้รู้สำนึก
“ท่านอย่าเข้ามาข้าไม่มีเรื่องอันใดกับท่าน”
นางรู้ว่านางสู้เขาไม่ได้ คนเพียงคนเดียวบนสรวงสวรรค์นี้ที่นางกลัว
“ไม่มีจริง ๆ หรือไม่ใช่เจ้าหรอกหรือที่เอะอะโวยวายว่าถูกข้าย่ำยีจนตั้งท้องแล้วทิ้งมา เหตุผลนี้ก็คงเพียงพอให้ข้าสั่งสอนเจ้าแล้ว”
“เช๊อะคิดจะมาสั่งสอนข้ารออีกหมื่นปีเถิด”
เป่ยฟางหลงทำใจดีสู้เสือ นางร่ายอาคมตั้งใจใช้เกล็ดน้ำแข็งพุ่งใส่เขาแต่ถูกไฟอัคคีของหลี่จิ้งสะกัดเอาไว้อย่างรวดเร็ว ไม่ว่านางจะพุ่งเกล็ดหิมะไปทิศใดเขาผู้นั้นก็เสมือนรู้จิตใจของนางดักทางได้ถูกเสมอ
และแล้วร่างของเทพอัคคีหายไป ชั่วพริบตาก็ประชิดร่างของนาง เขากอดนางเอาไว้ด้วยมือเดียวเป่ยฟางหรงพยายามหลบซัดฝ่ามือเย็นเข้าใส่ร่างของเทพอัคคีหลายครั้งจนเขากระเด็น แต่เขาก็สามารถกลับมากอดรัดนางได้ดังเดิม