สำนักเซียนซินเซวียนเป็นสำนักเซียนใหญ่ในยุทธภพตั้งอยู่บนหุบเขาสูงห่างไกลจากสำนักอื่นและความวุ่นวายของผู้คนพอสมควร กระนั้นชาวบ้านต่างให้ความเคารพศรัทธาสำนักเซียนแห่งนี้เป็นอย่างมาก
ผู้สืบทอดสำนักมีนามว่า หลี่จิ้ง เป็นบุรุษหนุ่มรูปร่างสูงสง่าใบหน้างดงามจนเลื่องลือ อายุราวยี่สิบห้าปี ในขณะที่บิดามารดาของเขาวางมือจากการล่าปีศาจตั้งใจบำเพ็ญเพียรเพื่อก้าวข้ามความลำบากขึ้นสู่แดนสวรรค์ ทุกสิ่งในสำนักบัดนี้จึงเป็นหลี่จิ้งที่คอยดูแล
ว่ากันว่าหลี่จิ้งถือกำเนิดขึ้นมาพร้อมกับสัญลักษณ์เปลวเพลิงบนหน้าผาก ในยามนั้นกลิ่นอายเซียนรุนแรงกระทั่งส่งให้ดอกไม้เบ่งบานไปทั่วแคว้น
ต้นไม้ที่ใกล้เหี่ยวเฉากลับฟื้นคืนและเติบโตขึ้นภายในวันเดียว ในรัศมีสิบลี้กระทั่งปีศาจยังถูกอายเซียนของเขาสังหาร สร้างความปลาบปลื้มและตื่นเต้นให้แก่หลี่เหวินผู้เป็นบิดาและคนในสำนักรวมทั้งคนในยุทธภพเป็นอย่างมาก
เรื่องราวของหลี่จิ้งและคำทำนายถูกเผยแพร่ไปอย่างรวดเร็ว ของขวัญร่วมแสดงความยินดีต่างถูกส่งมาทั่วสารทิศ แม้กระทั่งองค์ฮ่องเต้ยังให้คนนำของขวัญมาร่วมแสดงความยินดี
สำนักซินเซวียนซึ่งแต่เดิมเป็นสำนักที่โด่งดังและได้รับการเคารพนับถือจากราชสำนักอยู่แล้วบัดนี้ชื่อเสียงยิ่งขจรไกลทำให้ผู้คนเลื่อมใสมากขึ้นจนโด่งดัง
ความสามารถของหลี่จิ้งนับวันยิ่งโดดเด่น ห้าขวบอ่านตำราแตกฉาน สิบขวบสำเร็จวิชาขั้นสูงสุดของสำนัก อีกทั้งยังมีอาวุธประจำกายคือดาบอัคคีที่เป็นศาสตราวุธโบราณที่ว่ากันว่าสูญหายไปนับร้อยปีแต่กลับมาโผล่ที่สำนักซินเซวียนในวันที่หลี่จิ้งถือกำเนิด บัดนี้เขาจึงเป็นเซียนที่ไร้คนต่อกร
หลังสิบขวบเขาสามารถเป็นผู้นำศิษย์ร่วมสำนักออกล่าปีศาจในยามค่ำคืนได้แล้ว อีกทั้งหลี่จิ้งยังมีบุคลิกอันแปลกประหลาดคล้ายกับว่าในร่างของเขาตั้งแต่ลืมตาหาใช่เด็กทารกทั่วไป
เขาไม่เคยร้องไห้และแทบจะไม่หัวเราะ รอบกายของเขามีเพียงความเคร่งขรึม เย็นชา ประดุจผู้อาวุโสผู้หนึ่งที่คร่ำเคร่งฝึกวิชามานับร้อยปี
หลายคนคิดว่าหลี่จิ้งผู้นี้แท้ที่จริงแล้วไม่ได้ดื่มน้ำแกงยายเมิ่งเพื่อลืมอดีตก่อนลงมาจุติ วิญญาณที่อยู่ในร่างกายของเขาคือเทพชั้นสูง เรื่องที่น่าแปลกประหลาดที่สุดคือเขาไม่เคยแตะต้องสตรีเลยแม้แต่คนเดียว
เรื่องที่เล่าขานกันยังไม่จบ เมื่อหลี่จิ้งในวัยหกขวบได้ขี่กระบี่เข้าวังหลวงเพื่อขอให้ฝ่าบาทพระราชทานองค์หญิงน้อยที่เพิ่งประสูติเข้าเป็นศิษย์ของสำนักซินเซวียน
ในวันประสูติขององค์หญิงน้อยนั้นได้เกิดเหตุการณ์แปลกประหลาด เกิดพายุหิมะพัดกระหน่ำ น้ำจับตัวเป็นน้ำแข็ง หนาวเย็นไปทั่วกระทั่งมีคนตายจากภัยธรรมชาตินี้ กระนั้นดอกเหมยอันงดงามกลับเบ่งบานจนเต็มต้นส่งกลิ่นหอมกรุ่นไปทั่วแว่นแคว้น
กลิ่นอายเซียนและปีศาจคละคลุ้งกระทั่งเหล่าปีศาจยังบ้าคลั่งเดือดร้อนให้สำนักเซียนต่าง ๆ ต่างร่วมมือกันกำจัดด้วยความเหนื่อยยาก นับว่าเป็นเหตุการณ์ที่แปลกประหลาดเป็นอย่างยิ่ง
กระทั่งปีศาจเหล่านั้นยังล้อมวังหลวงเอาไว้หากไม่ได้หลี่จิ้งที่อยู่ในวังตอนนั้นคอยช่วยเหลือ คาดว่าคงมีคนต้องสละชีวิตให้เหล่าปีศาจเป็นจำนวนมาก
ด้วยเหตุนี้กระมังฝ่าบาทจึงทรงรับปากหลี่จิ้งว่าจะมอบองค์หญิงน้อยให้แก่สำนักซินเซวียนเมื่อนางอายุครบสิบขวบ หลี่จิ้งไม่ได้พบองค์หญิงน้อยที่เพิ่งประสูติเขาจึงฝากเชือกอาคมสีแดงให้ฝ่าบาททรงมอบให้องค์หญิงน้อย
“เชือกอาคมนี้จะช่วยให้องค์หญิงรอดพ้นจากปีศาจร้ายขอฝ่าบาทมอบให้องค์หญิงอย่าได้ถอดออกเป็นอันขาดพ่ะย่ะค่ะ”
แม้หลี่จิ้งจะมีอายุเพียงหกขวบ แต่ท่าทางของเขานั้นประดุจผู้ใหญ่ผู้หนึ่งทั้งสงบนิ่งและเคร่งขรึมเป็นอย่างมาก อีกทั้งฝีมือการปราบภูตผียังเหนือกว่าผู้ใด ฝ่าบาทจึงมีความเลื่อมใสศรัทธาเขาอยู่มาก
“ข้าเข้าใจแล้วท่านเซียนน้อยโปรดวางใจ”