จิ้งหูทั้งตกใจทั้งประหลาดใจ เหตุใดนกอาคมพวกนี้จึงกล้าบินมาเวียนวนอยู่น่านฟ้าของสำนักซินเซวียน อีกทั้งยังสามารถหลุดลอดค่ายอาคมที่ปกป้องสำนักได้อีก
“พวกมันคงได้กลิ่นนางแล้ว” หลี่จิ้งเอ่ยขึ้นอย่างเยือกเย็น
“อาจารย์ท่านหมายความว่า”
หลี่จิ้งยังไม่ตอบคำถามของศิษย์เอก สัตว์ประหลาดตัวหนึ่งพลันปรากฏกายขึ้นมาด้านหลังหลี่จิ้ง จิ้งหูเสกดาบวิเศษขึ้นมาร้องบอกอาจารย์ให้ระวังตัว
หลี่จิ้งกลับบอกเขาด้วยอาการสงบสุข
“เจ้าไม่ต้องตกใจนี่เป็นสัตว์เวทย์ของข้า นามว่าถงถง”
“อาจารย์ไม่ใช่ปีศาจหรือขอรับ”
จิ้งหูยังคลางแคลงใจ เขากำดาบแน่นเมื่อเห็นถงถงกลายร่างเป็นมนุษย์ มีแต่พวกปีศาจเท่านั้นที่จะกลายร่างจากสัตว์เป็นมนุษย์ได้
“ข้าหล่อเหลาเพียงนี้จะเป็นปีศาจได้อย่างไร เจ้าตาบอดหรือ”
ถงถงตำหนิเขาด้วยอารมณ์หงุดหงิด มนุษย์หน้าโง่พวกนี้เป็นพวกคนละชั้นกับถงถงหากไม่ใช่เพราะเป็นคำสั่งเทพอัคคีแล้วเขาย่อมไม่มีใจจะลดเกียรติมาสนทนาด้วยเด็ดขาด
“จิ้งหูเสียมารยาทแล้ว”
จิ้งหูถึงจะยังไม่คุ้นเคยแต่เขาสัมผัสได้ถึงตบะของสัตว์ตนนี้หนำซ้ำยังไม่มีกลิ่นอายปีศาจเลยสักนิด เป็นไปได้ว่าสัตว์บางตนอาจจะบำเพ็ญเพียรจนกลายเป็นเซียนไปแล้วก็เป็นได้
“ถงถงอย่าเหลวไหล ต่อไปนี้ช่วยจิ้งหูดูแลหรงหรงให้ดี เข้าใจหรือไม่”
“ขอรับนายท่าน”
หลี่จิ้งจึงบอกว่า
“ข้ามีเรื่องสำคัญต้องจัดการสักสองสามวัน ช่วงนี้อย่าให้นางออกจากสำนักไปก่อเรื่อง แม้แต่ล่าปีศาจยามค่ำคืนก็อย่าให้นางออกไป”
ก่อนที่หลี่จิ้งจะหายตัวไปจิ้งหูรีบทัดทานเขาเอาไว้ก่อน
“อาจารย์ท่านไม่อยู่หลายวันศิษย์น้องคงลำบากขอรับ”
หลี่จิ้งเข้าใจดีว่าจิ้งหูหมายถึงเรื่องอันใด คนผู้นี้ใส่ใจเป่ยฟางหรงเป็นอย่างมาก เขายื่นมือออกมาเสกอาภรณ์ของเขาแล้วส่งให้จิ้งหู
“ให้นางกอดนอนไออุ่นจะยังคงมีในสองสามวันนี้ นางจะไม่เป็นอันใด”
“ขอรับอาจารย์”
จิ้งหูรับมาเห็นอาจารย์เตรียมการไว้พร้อมแล้วก็คลายใจ เขารู้อาการเจ็บป่วยจนจับไข้ของเป่ยฟางหรงเป็นอย่างดี คราที่แล้วที่อาจารย์ไม่อยู่นางอาการสาหัสพิษเย็นในร่างกำเริบ ทำเอาเขาคิดว่านางจะตายเสียแล้วดีที่อาจารย์กลับมาทัน
ครานั้นนางกอดอาจารย์แน่นถึงสามวันสามคืนแม้แต่ยามกินยังเกาะเขาแจกว่านางจะฟื้นคืนสติขึ้นมา
ลำบากอาจารย์จะแย่
เมื่อเทพอัคคีหายลับ คนผู้หนึ่งก็เริ่มวางตัวเป็นเจ้าสำนักแทนทันที
“จิ้งหูข้าหิวแล้วที่โรงครัวของสำนักซินเซวียนมีพ่อครัวชั้นยอดผู้หนึ่งอยู่ใช่หรือไม่ ให้เขาทำอาหารให้ข้าสักหน่อย ตัวข้าก็เกรงใจ ขอแค่ไม่กี่อย่างพอ ที่นี่มีไก่มีหมูมีปลาก็ขอเป็น ปลาผัดซีอิ๊ว เต้าหู้นึ่งผัดไก่ เกี๊ยวกุ้งน้ำ ปลาหิมะผัดเผ็ด หมูผัดเปรี้ยวหวานก็พอ ข้าปกติกินไม่ได้เยอะมากช่วงนี้กำลังรักษารูปร่าง”
ถงถงพูดพร้อมกับเบ่งกล้ามอวดจิ้งหู เขาในร่างมนุษย์สง่าผ่าเผยไม่น้อย ไม่แน่ฝ่าบาทน้อยในร่างมนุษย์ผู้นั้นเห็นเข้าอาจจะตกหลุมรักก็เป็นได้ ถงถงเตรียมคำพูดไว้พร้อมว่าจะปฏิเสธนางเช่นไรดี
จิ้งหูปาดเหงื่อตาค้าง คิดว่านอกจากเป่ยฟางหรงแล้วยังมีถังข้าวซึ่งเป็นถังที่ใหญ่มากโผล่ขึ้นมาอีก เหตุใดคนข้างกายของอาจารย์ถึงได้เป็นเช่นนี้ คนเดียวยังเลี้ยงไหวอีกทั้งยังมีเงินราชสำนักอุดหนุน
แต่สัตว์ประหลาดตนนี้น่าจะกินเยอะกว่าเป่ยฟางหรงซ้ำยังไม่มีเงินอุดหนุน ครานี้สำนักซินเซวียนคงได้ทุกข์ยากแล้วเป็นแน่ จิ้งหูในฐานะคนตรวจสอบบัญชีถึงกับหัวเราะไม่ได้ร้องไห้ไม่ออกก็ครานี้หากสัตว์ประหลาดตนนี้กินจนสำนักซินเซวียนสิ้นเนื้อประดาตัวจะทำเช่นไรดี
****อูยา หมายถึง อีกา