“อาจารย์อาจะดูแลนางเองเจ้าไม่ต้องห่วง”
“รบกวนอาจารย์อาแล้ว ศิษย์ขอลา”
ถึงจะสงสารศิษย์น้องที่ถูกมัดร่างจนแน่นเพียงใด จิ้งหูก็ต้องตัดใจทิ้งนางเอาไว้ด้วยภารกิจที่รอเขาอยู่เบื้องหน้าสำคัญยิ่งกว่าสิ่งใด เขาไม่กล้ามองเป่ยฟางหรงอีกเขาคำนับอาจารย์อาแล้วพาศิษย์ทั้งหมดตามชาวบ้านลงเขา
เป่ยฟางหรงร้องไม่ได้พูดไม่ออก กระทั่งร่างกายยังถูกมัดแน่นหนา เมื่อไร้คนคุ้มกะลาหัวและไม่สามารถขยับได้เช่นนี้นางจึงกลายเป็นแมลงวันไร้หัวไปแล้ว ความจริงจิตใจของเป่ยฟางหรงบริสุทธิ์มากนางคิดอย่างไรก็แสดงออกไม่เคยเสแสร้ง คนที่ดูทิศทางลมไม่เป็นเช่นนางจึงทำให้ผู้คนไม่ชอบหน้า
และเป่ยฟางหรงรู้ดีว่าอาจารย์อาของนางผู้นี้ก็ไม่ชอบนางเช่นกัน ไม่ชอบก็ไม่ชอบสิ นางหาได้ใส่ใจ อาจารย์อาหาใช่พ่อครัวอาหนงผู้ที่นางนับถือเสียหน่อย นางไม่ชอบหน้าก็ช่างแต่ถ้าอาหนงไม่ชอบหน้านั่นคือวิบัติของจริงแล้ว
“โทษข้าไม่ได้ ทั้งหมดเป็นเพราะเจ้าดื้อรั้น”
หลิงเสียนเอ่ยขึ้น แล้วร่ายอาคมย้ายร่างเป่ยฟางหรงไปยังเรือนพักของนาง กระทั่งเชือกก็ไม่แก้ให้ เป่ยฟางหรงจึงได้แต่ร้องไห้ด้วยความเจ็บใจอยู่บนเตียงอยู่เงียบ ๆ ลำพัง
หลิงเสียนไม่รู้ว่านางต้องใช้อาภรณ์ของหลี่จิ้งเพื่อให้ร่างกายอบอุ่น กระทั่งจิ้งหูก็รีบร้อนจนลืมเรื่องนี้ไป เป่ยฟางหรงอยากจะร้องขออาภรณ์ของอาจารย์ตัวนั้นที่นางเก็บไว้ในหีบ แต่ปากไม่สามารถขยับจึงได้แต่วิงวอนหลิงเสียนด้วยสายตา
“สตรีถือดีเช่นเจ้าต้องถูกลงโทษเสียบ้าง อย่าคิดจะมาอ้อนวอนขอสิ่งใดจากข้า ข้าหาใช่ศิษย์พี่ไม่มีทางลงให้เจ้าเป็นแน่”
ด้วยความเคียดแค้นชิงชังสตรีเพียงหนึ่งเดียวที่ได้ใกล้ชิดหลี่จิ้ง หลิงเสียนจึงถือโอกาสนี้สั่งสอนนาง
ในโรงครัวขณะที่ทุกคนกำลังนั่งรับประทานข้าวอย่างพร้อมเพรียง ศิษย์ผู้หนึ่งก็เอ่ยขึ้น
“ผู้ใดเห็นศิษย์น้องหรงหรงบ้าง ข้าวเที่ยงนางก็ไม่ได้กิน ข้าวเย็นก็ไม่เห็นหน้า”
“เจ้าจะใส่ใจไปไย นางคงถูกอาจารย์อาทำโทษ สตรีเย่อหยิ่งผู้นั้นไม่คู่ควรให้เราใส่ใจ”
มีคนถามหานางเพียงเท่านี้ หลังจากนั้นก็ไม่มีผู้ใดใส่ใจแล้ว
ตกดึกมาอาการพิษเย็นในร่างของเป่ยฟางหรงกำเริบ นางนอนหลับไปเพราะร้องไห้จนเหนื่อย เป่ยฟางหรงพลาดอาหารทั้งมื้อเที่ยงและมื้อเย็น รู้สึกหิวและเพลียมาก
อาจารย์อาใจร้ายกับนางเสมอ จึงไม่ได้ส่งคนมาดูดำดูดีว่าเป่ยฟางหรงได้รับประทานอาหารหรือยัง ปล่อยนางทิ้งไว้ภายในเรือนพักเพียงลำพัง แค่นางเงียบเสียงหลงอาจารย์อาผู้นั้นก็หลงลืมไปแล้วว่ายังมีนางอยู่
เป่ยฟางหรงกำลังฝันประหลาด ในความรู้สึกแม้ไม่เห็นสิ่งใดนอกจากความมืด นางก็หวาดกลัวเหลือเกิน มีคนผู้หนึ่งกำลังร่ำร้อง เรียกให้นางปลดปล่อยเขาที่อยู่ใต้ก้นลึงของร่างกายนี้ให้เป็นอิสระ
“ปล่อยข้า ปล่อยข้าออกไป เป่ยฟางหรง ปล่อยข้า ปล่อยข้า”
เสียงโหยหวนทั้งแหบทั้งน่ากลัว ดวงตาสีแดงก่ำจ้องมายังนางอยู่เช่นนั้นไม่ว่านางจะวิ่งไปทางใดดูเหมือนว่าไม่สามารถหลุดพ้นจากดวงตานั่นได้
เป่ยฟางหรงพยายามจะเสกดวงไฟขึ้นมานางทำเช่นไรก็ทำไม่ได้ สิ่งที่ทำได้คือร่ายอาคมจนเกิดฉากกั้นน้ำแข็งเพื่อขวางสิ่งชั่วร้ายด้านนั้นไม่ให้ทำร้ายนาง
“อาจารย์ อาจารย์ ช่วยข้าด้วย”
เป่ยฟางหรงละเมอด้วยความหวาดกลัว น่าแปลกประหลาดที่ดูเหมือนว่าสิ่งนั้นในใจของนางจะกักขังตัวตนของนางไว้ กระทั่งตอนนี้เป่ยฟางหรงไม่มีเรี่ยวแรงแม้แต่จะลืมตาตื่นขึ้นมา
คนผู้นั้นคือผู้ใดกันแน่?