เป่ยฟางหรงถูกทิ้งไว้เพียงลำพังในเรือนพักอย่างทรมานถึงสองวัน นางจมดิ่งอยู่ในห้องแห่งความฝันพยายามที่จะลืมตาตื่นจนสุดความสามารถ
นางได้ยินเสียงสตรีสองคนเดินเปิดประตูเข้ามา คนผู้นั้นขยับมาใกล้เห็นเป่ยฟางหรงยังคงนอนหลับ ม่านบังตาสีขาวช่วยพรางตาพวกนางไม่ให้เห็นเป่ยฟางหรงว่าตอนนี้เป็นอย่างไร
“นางนอนมาสองวันแล้ว ไม่ขยับไปไหนจะไม่เป็นไรไปแล้วหรือ”
เสียงของสตรีผู้หนึ่งดังขึ้น
“ตบะนางแกร่งกล้าเพียงนั้นต่อให้นอนนิ่ง ๆ ไปอีกสี่ห้าวันคงไม่เป็นไร”
เป็นอีกเสียงของสตรี
เป่ยฟางหรงได้ยินทุกคำ นางพยายามอ้าปากเรียกคนทั้งสอง ขอให้ปลุกนางเดี๋ยวนี้ ตอนนี้เป่ยฟางหรงหนาวสั่นไปทั้งร่างและไม่สามารถที่จะลืมตาตื่นได้ เหมือนว่านางกำลังหลับใหลลงไปเรื่อย ๆ โดนกดข่มโดยบางสิ่งบางอย่างในร่างกายของนางเอง
“นางคงไม่เป็นไรแล้ว เรารีบไปกันดีกว่าถ้าอาจารย์อาจับได้เรามีหวังโดนทำโทษแน่”
“เช่นนั้นก็วางอาหารไว้บนโต๊ะดีหรือไม่ ไม่แน่อีกประเดี๋ยวนางอาจจะตื่น”
สตรีทั้งสองคุยกันเบา ๆ พวกนางวางตะกร้าลงบนโต๊ะ ด้านในมีกับข้าวสองสามอย่างที่แอบเก็บไว้ให้เป่ยฟางหรง
แต่เสี่ยวซิงกับเสี่ยวซูสองพี่น้องแอบเอาอาหารมาให้นาง แม้เป่ยฟางหรงจะนิสัยเย่อหยิ่งแต่ไม่เคยกดขี่ข่มเหงผู้ใด อย่างมากก็ร้องโวยวายเรื่องอาหารเป็นสตรีตะกละผู้หนึ่งเท่านั้น
นอกจากนั้นเป่ยฟางหรงยังมีน้ำใจ ช่วยพวกนางหลายครั้งในการออกล่าปีศาจทั้งยังคอยช่วยฝึกแนะนำและฝึกสอนการฝึกตบะให้บ่อยครั้ง จนหลายปีมานี้ศิษย์ปลายแถวอย่างพวกนางจึงมีฝีมือที่พัฒนาขึ้นมามากถึงเป่ยฟางหรงจะไม่เคยจดจำชื่อพวกนางได้ก็ตามที
เจ้าอย่าเพิ่งไป ช่วยข้าก่อน ช่วยข้าก่อน
ในขณะที่เสี่ยวซิงกำลังจะปิดประตูเหมือนนางได้ยินเสียงของเป่ยฟางหรง ใจหนึ่งอยากจะรีบไปให้ห่างกลัวนางตื่นขึ้นมาอาละวาดจนถูกอาจารย์อาจับได้ แต่ฟังไปฟังมาเหมือนนางต้องการความช่วยเหลือ
เสี่ยวซูดึงมือน้องสาว “เจ้ามัวรออะไรรีบไปเถิดหากใครเห็นว่าพวกเราแอบเอาอาหารมาให้เป่ยฟางหรง ทำผิดกฎสำนักต้องถูกโบยร้อยไม้นะ”
“เดี๋ยวสิ ข้าเหมือนได้ยินเสียงร้องของนาง”
“ข้าไม่ได้ยิน เจ้าหูฝาดแล้ว” เสี่ยวซูบอก
“ถ้าเกิดนางเป็นอะไรจริง ๆ เล่า”
สองพี่น้องมองหน้ากัน ก่อนตัดสินใจกลับเข้าไปในห้องเลิกผ้าม่านขึ้น เห็นเป่ยฟางหรงนอนนิ่งสีหน้าซีดเซียวอีกทั้งพอจับตัวดูพบว่าร่างกายของนางกลับเย็นเฉียบคล้ายจะเป็นน้ำแข็งอยู่แล้ว
“ทำอย่างไรดี เกิดอะไรขึ้นกับเจ้า”
เสี่ยวซิงและเสี่ยวซูเขย่าร่างของเป่ยฟางหรง เรียกหลายครั้งนางก็ไม่ยอมตื่นตกใจแทบสิ้นสติไม่รู้ต้องทำเช่นไร ด้านเป่ยฟางหรงที่กำลังจมดิ่งลงไปในความฝันของตัวเองไปเรื่อยๆ เมื่อมีคนเรียกชื่อนางจึงรู้สึกตัว แต่ยังไม่สามารถลืมตาได้
ในฝันนั้น นางปฏิเสธคนผู้นั้นที่ต้องการออกมาจากกายนางเสียงแข็ง น่าต้องการมาแทนที่นางเป็นแน่
“ไม่ ข้าไม่ปล่อยเจ้าไปออกไปเด็ดขาด ข้ายังกินของอร่อยไม่พอเลย”