ลิขิตรักราชินีปีศาจ NC25 (ป่วนหัวใจยัยปีศาจ) – ตอนที่ 42 ศิษย์ผู้เหลวไหล

“ท่านเซียนยังต้องการสิ่งใดเพิ่มอีกหรือไม่”

อาหนงถามพร้อมกับทบทวนรายการอาหารที่นางสั่งมาอย่างคล่องแคล่ว

“หากพอมีเวลาก็แล้วแต่เจ้า อยากทำสิ่งใดเพิ่มก็จัดมาเลย”

“ข้าน้อยทราบขอรับ”

เป่ยฟางหรงเท้าคางรอคอยอาหารด้วยใจจดจ่อ กระทั่งมีเงาของคนผู้หนึ่งเดินมาด้านหลังสั่งเสียงเฉียบขาดออกมา

“อาหนงเจ้ายังจะเชื่อคำเท็จของนางอีกหรือ”

เป่ยฟางหรงได้ยินเสียงนั้นพลันดีดตัวขึ้นคล้ายตั๊กแตนที่กำลังตกใจ

“อาจารย์”

“เจ้าเพิ่งพ้นผิด คิดจะก่อเรื่องอีกแล้วเหตุใดขยันหาเรื่องให้ข้าปวดหัวเช่นนี้”

“หาใช่เช่นนั้นอาจารย์ หลายวันมานี้ข้านอนบนตัวท่านทุกวันเห็นว่าท่านซูบผอมไปมาก ขยับไปมาก็ถูกของแข็งของท่านทิ่ม ของนี้ทั้งแข็งทั้งใหญ่ทั้งยาว ยามมันทิ่มก้นข้าหรือกระทั่งขาข้าหรือสึกว่าเจ็บเป็นอย่างยิ่ง อาจารย์หากไม่เชื่อท่านดูด้วยตาของตนเองก็ได้ ท่านดูก้นข้าไม่รู้เป็นรูแล้วหรือไม่ ข้าว่าท่านผอมเพียงนี้จึงอยากจะบำรุงท่านให้มากหน่อย ทั้งหมดนี้เพราะหวังดีล้วน ๆ ”

เป่ยฟางหรงยังหันก้นของนางให้หลี่จิ้งสำรวจ พร้อมทำหน้าตาโอดครวญ ในส่วนของอาหนงผู้ได้ยินเต็มสองรูหู อะไร แข็ง ๆ อะไร ใหญ่ ยาว แถมยังทิ่มตูดคนได้อีก เขาตกใจอ้าปากค้างร้อง โอ้ ออกมาคำหนึ่ง มือไม้อ่อนยวบถึงกับจับตะหลิวในมือไม่อยู่แล้ว เป็นครั้งแรกในชีวิตที่อาหนงทำอาวุธคู่กายหลุดมือเช่นนี้

ในขณะที่หลี่จิ้งใบหน้าแดงก่ำ แทบจะจับร่างของเป่ยฟางหรงเขย่าแรง ๆ

“เหลวไหล เจ้า..ศิษย์ไม่รู้ความ”

แล้วเขาพลันหันสายตาพิฆาตไปมองที่อาหนง เป็นสัญญาณเตือนว่าหากเจ้ากล้าเอาคำพูดเหลวไหลของเป่ยฟางหรงไปบอกต่อผู้อื่น เจ้าย่อมไม่ได้ตายดีแน่!!

อาหนงสติยังไม่กลับมาเท่าใด ยังต้องมาเจอสายตาขู่เข็ญของเซียนซือ*เจ้าสำนักอีก เหตุใดความซวยจึงตกมาอยู่กับพ่อครัวตัวน้อย ๆ เช่นเขา อยู่ดีไม่ว่าดีต้องมารู้เรื่องลับของบุคคลระดับสูงสุดในสำนักนี้อีก

หากต่อไปข่าวนี้เล็ดลอดออกไป ไม่แน่หลี่เซียนซือคงได้คิดว่าเขาเป็นคนปากพล่อยปล่อยข่าวเป็นแน่

* ยามห้าย เวลาประมาณ 3-4 ทุ่ม

* เซียนซือ เป็นคำเรียก เจ้าสำนักหรือผู้อาวุโสที่ฝึกวิชาเซียนด้วยความเคารพ

หลี่เซียนซือ หมายถึง เจ้าสำนักหลี่ที่เคารพ

ลิขิตรักราชินีปีศาจ NC25 (ป่วนหัวใจยัยปีศาจ)

ลิขิตรักราชินีปีศาจ NC25 (ป่วนหัวใจยัยปีศาจ)

Status: Ongoing
อ่านนิยาย ลิขิตรักราชินีปีศาจ NC25 (ป่วนหัวใจยัยปีศาจ)กลีบบุปผาร่วงโรยโบกโบยพัดผ่าน ดอกไม้สวรรค์เบ่งบานพลอยทำให้ใจสดใส เสียงเพลงหวานกังวานดังเป็นสาย ยามนางสวรรค์เยื้องกรายเต้นรำกลิ่นหอมกรุ่นโชยพาใจสั่นไหว เงาสูงร่างหนึ่งนั่งโดดเด่นงามสง่าในอาภรณ์สีแดงเพลิงสะดุดตา ทำให้เซียนสาวน้อยใหญ่ทั้งชั้นต่ำชั้นสูงต่างลอบมองด้วยใบหน้าแดงซ่าน หลี่จิ้งหาได้สนใจผู้ใดการมาร่วมงานเลี้ยงในครานี้ก็เพราะคิดจะผ่อนคลายหลังจากกลับมาจากสยบปีศาจกระทิง แต่เมื่ออยู่ในงานกลับพบว่าที่นี่ยิ่งน่าเบื่อหน่ายยิ่งกว่าการสังหารปีศาจเสียอีก เบื้องหน้าของเขาคือธิดาสวรรค์ผู้งดงามกำลังร่ายรำอย่างอ่อนช้อย กระทั่งหลายนางแอบลอบส่งสายตาให้เขาหลี่จิ้งได้แต่ส่ายหน้าหลบสายตานางเหล่านั้น สูงขึ้นไปคือองค์เง็กเซียน ด้านข้างคือสหายเทพจี้กงที่ขยันเอ่ยวาจาอีกทั้งยังขยันยกจอกสุรายิ่งกว่าผู้ใดในงาน “หลี่จิ้งซ่างเสิน*สุราไม่ถูกปากหรืออย่างไร ถึงได้ทำท่าทางเบื่อหน่ายเช่นนั้น”

Comment

Options

not work with dark mode
Reset