อาหนงคิดว่าไม่ได้การ เขาไม่ควรรู้เห็นเรื่องนี้
“ผู้น้อยไม่ได้ยินสิ่งใดเลย ไม่รู้เลยขอรับว่าเซียนน้อยหรงหรงไปนอนกับท่าน ไม่ได้ยินว่านางนอนบนตัวท่าน และไม่ได้ยินว่านางถูกของแข็งที่ทั้งใหญ่และยาวที่สุดในปฐพีของท่านแทงจนก้นเป็นรูแล้ว”
ยิ่งพูดยิ่งเข้าตนเองแต่กระนั้นก็ยังแอบชื่นชมหลี่จิ้งอยู่ไม่น้อย เห็นหรือไม่ว่าสิ่งนั้นของหลี่จิ้งจากคำพูดของเซียนหรงหรงคือยิ่งใหญ่ที่สุดในใต้หล้า เมื่อได้สติว่าจริง ๆ แล้ว เขาควรกล่าวคำพวกนี้ออกไปหรือไม่
เห็นชัดว่ากลิ่นอายปีศาจเหมือนจะออกจากร่างเซียนของหลี่จิ้งเพราะคำพูดของเขา อาหนงรีบยกมือปิดปากแน่นคุกเข่าอยู่ตรงนั้นแทบจะร้องไห้ออกมาด้วยความหวาดกลัว บัดนี้ใบหน้าที่เย็นชาของหลี่เซียนซือกลายเป็นสีดำสีแดงสลับเขียวไปพร้อม ๆ กัน
เขาคิดว่าเขาไม่อาจมีชีวิตรอดแล้ววันนี้
“อาจารย์ท่านไม่สบายหรือเจ้าคะ เหตุใดใบหน้าเปลี่ยนสีเร็วเยี่ยงนี้”
ดูเหมือนยังมีคนบางคนที่ยังไม่รู้ตัวว่ากำลังเกิดภัยพิบัติใดขึ้นมา นางยังแอบดีใจแล้วหันไปบอกอาหนง
“อาหนงเช่นนั้นทำของบำรุงร่างกายอาจารย์เพิ่มสักสองสามอย่าง ดีหรือไม่”
นางดีใจมาก เย้ ในที่สุดก็จะได้กินของดี ๆ เพิ่มอีกโดยไม่ต้องหาข้ออ้างในการขอเพิ่ม
ในที่สุดหลี่จิ้งก็เกินจะอดทนไหว เขาร่ายคาถาปิดปากเป่ยฟางหรงทันใดแล้วจับแขนนางแน่น เป่ยฟางหรงอื้ออึงไม่สามารถพูดสิ่งใดได้ นางย่อมไม่เข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้นกันแน่
หลี่จิ้งหันมามองอาหนงด้วยสายตาพิฆาตอีกครั้ง พาเป่ยฟางหรงย้ายร่างหายไปอย่างว่องไว อาหนงยังลุกไม่ขึ้นขาของเขาสั่นระริก อยากจะอ้าปากถามว่าตกลงอาหารพวกนี้ที่เป่ยฟางหรงสั่งมายังต้องการอยู่หรือไม่
แต่เมื่อไตร่ตรองอย่างรอบคอบ
หลี่จิ้งเป็นเซียนซือที่มีชื่อเสียงดีงาม ที่ผ่านมาไม่เคยคิดออกเรือนกับสตรีใดแม้แต่คนเดียวจนหลายคนให้ฉายาว่าหลวงจีนไปแล้ว แท้ที่จริงเพราะเขามีเซียนหรงหรงเป็นกระถางบำเพ็ญเพียร บำเพ็ญวิชาพรตควบคู่กันในยามค่ำคืนนี่เอง
และถึงกับขนลุกเมื่อคิดว่าเป่ยฟางหรงถูกของแข็งแทงเข้าที่ก้น โอ้ หรือว่าหลี่เซียนซือจะมีความต้องการที่พิสดารชอบด้านหลังของสตรีเป็นพิเศษกัน ไม่คิดว่าผู้ที่เคร่งปฏิบัติเช่นเขาจะมีจิตใจที่ค่อนข้าง อะ แฮ่ม น่าสนใจเพียงนี้
เพราะฉะนั้นเซียนหรงหรงมิเท่ากับเป็นคนสำคัญแล้ว สิ่งใดที่นางต้องการหากเขาปฏิเสธก็อาจถูกขับไล่ออกจากสำนัก กว่าเขาจะได้งานพ่อครัวที่นี่ลงทุนลงแรงไปเรียนเสียเงินทองไปมากมายเพื่อฝึกวิชาทำอาหาร
เขายังถอนทุนคืนมาได้ไม่เท่าไหร่หากต้องถูกไล่ออกก็นับว่าไม่คุ้ม เช่นนั้นตั้งแต่นี้ต่อไปอาหนงจึงคิดจะประจบเป่ยฟางหรงให้มาก คำสั่งของนางประดุจคำสั่งของหลี่เซียนซือก็แล้วกัน
เมื่อคิดเองเออเองเช่นนั้นแล้ว อาหนงจึงตั้งใจทำอาหารที่เป่ยฟางหรงสั่งให้มีรสเลิศที่สุดเพื่อเอาใจนาง ว่าแต่ว่ามีอาหารชนิดใดที่สามารถบำรุงรูทวารให้แข็งแรงได้บ้าง เขาต้องลองศึกษาดูเสียแล้ว…
เป่ยฟางหรงถูกหลี่จิ้งพากลับเข้ามาที่เรือน นางหน้าเสีย ใจเสียเมื่อคิดว่าอาจารย์อาจจะลงโทษกักบริเวณตนเองอีก
“อาจารย์ข้าแค่เห็นท่านผอมลงก็เลยไปสั่งให้อาหนงทำอาหารบำรุงให้เหตุใดท่านทำเหมือนข้าไปก่อเรื่องฆ่าคนวางเพลิงมาเล่าเจ้าคะ”
“นี่เจ้า….ยังไม่รู้ตัวอีกว่าพูดสิ่งใดออกไปบ้าง