เมื่อถึงหมู่บ้านเล็ก ๆ หมู่บ้านหนึ่งซึ่งเป็นจุดพักม้า จิ้งหูได้รอพวกเขาอยู่ที่นั่นแล้ว เขาเข้ามารายงานความเคลื่อนไหวของปีศาจต่อหลี่จิ้งทันที
“ปีศาจตนนี้จับหญิงสาวชาวบ้านตั้งแต่สิบห้าปีคนอายุมากสุดอายุยี่สิบปีที่ศิษย์ตามจับได้ล้วนเป็นสมุนของมันขอรับ พลังปีศาจมีไม่มาก แต่ถึงศิษย์จะสัมผัสถึงพลังรุนแรงของหัวหน้าปีศาจได้แต่กลับไม่เคยพบเห็นมันเลยสักครา”
“อาจารย์อาของเจ้าเคยได้พบมันมาแล้วคราหนึ่ง พลังปีศาจรุนแรงมากเคลื่อนไหวคล่องแคล่วเจ้าหาใช่คู่ต่อสู้ของมัน”
หลี่จิ้งเอ่ยขึ้น จากนั้นเขานำเข็มทิศจับปีศาจศาตราวุธเทพประจำสำนักออกมาวางไว้กลางฝ่ามือ พวกเขาหยุดอยู่หน้าลานกลางหมู่บ้านเดิมทีเป็นตลาดที่คึกคัก
ตั้งแต่เกิดเหตุหญิงสาวโดนจับทุกคนล้วนหวาดกลัวจึงเอาแต่หลบอยู่ในบ้าน บัดนี้จึงมีเพียงคนของหุบเขาซินเซวียนเท่านั้น
ลงมาครานี้หลี่จิ้งนำศิษย์แถวหน้าลงมาราวห้าสิบคน ทุกคนต่างมีพลังทิพย์เป็นอันดับต้น ๆ ของสำนัก เนื่องจากเขาคิดว่าปีศาจตนนี้ล้วนมีบริวารที่ยากแก่การรับมือ อีกทั้งต้องการให้ศิษย์ได้พบปีศาจเก่ง ๆ เพื่อสะสมพลังทิพย์อีกด้วย
เขาเดินวนอยู่สองสามรอบกระทั่งหยุดยืนอยู่ที่จุดหนึ่ง ผู้นำหมู่บ้านออกมาพร้อมบุรุษสี่ห้าคนเมื่อเห็นกลุ่มคนกลุ่มใหญ่ แต่ละคนมีม้าอยู่ข้างกาย พวกเขาทั้งหมดแต่งกายด้วยชุดสีแดงอ่อนอันเป็นเครื่องแบบของสำนักซินเซวียนเขาจึงดีใจเป็นอย่างยิ่ง
ตามคนมามากเพียงนี้ย่อมสามารถจับปีศาจตัวใหญ่ที่ลักพาตัวหญิงสาวได้เป็นแน่ สตรีในหมู่บ้านของเขามีมากที่ยังหลุดรอดเงื้อมมือมารก็ต่างอยู่อย่างหวาดผวา
ในครั้งแรกสำนักซินเซวียนส่งคนมาพวกเขาสามารถจับได้เพียงแต่ปีศาจตัวเล็ก ๆ ไม่อาจยับยั้งเหตุลักพาตัวได้ เมื่อเห็นคนมามากเช่นนี้ หัวหน้าหมู่บ้านย่อมดีใจเป็นอย่างมาก
เขาเดินเข้าไปใกล้ ๆ ผ่านกลุ่มคนที่ยืนเรียงกันเป็นระเบียบถึงคนจะมากแต่สามารถจัดการได้ดีเป็นอย่างยิ่ง แต่ละคนล้วนองอาจผ่าเผย ใบหน้าเกลี้ยงเกลาดูแล้วต่างจากมนุษย์ธรรมดาที่ไร้ซึ่งตบะเซียนอย่างเห็นได้ชัด
เพราะเช่นนี้สำนักเซียนจึงได้รับการกราบไหว้ด้วยของบูชาประดุจเทพเจ้าจากสวรรค์ก็ไม่ปาน
ชายชราเดินเข้าไปใกล้ กระทั่งพบคนผู้หนึ่งสวมใส่อาภรณ์สีแดงเลือดหมู ใบหน้าขาวหล่อเหลาเกลี้ยงเกลา บุคลิกโดดเด่นสง่างาม มองไกล ๆ ประดุจว่าเท้าของเขาไม่เหยียบแตะพื้น ยิ่งเดินเข้ามาใกล้เห็นเครื่องหน้าที่งดงามยิ่งทำให้เขานึกไปถึงผู้ที่หลุดออกมาจากแดนสวรรค์ สูงส่งและน่าเลื่อมใสเป็นอย่างยิ่ง
“เซียนซือท่านนี้หากข้าน้อยเดาไม่ผิดเห็นว่าคงเป็นท่านหลี่เซียนซือเจ้าสำนักซินเซวียนใช่หรือไม่ขอรับ”
เมื่อชายชรากล่าวทัก หลี่จิ้งที่กำลังหลับตาบริกรรมคาถาจึงลืมตาขึ้น ดวงตาหงส์ยาวเรียว ดูพิสุทธิ์เหนือโลกคล้ายจะอบอุ่นแต่แท้ที่จริงยิ่งมองยิ่งเย็นชา สีหน้าสงบนิ่ง กล่าวตอบออกมาด้วยน้ำเสียงราบเรียบ
“รบกวนท่านผู้เฒ่าแล้ว”
“ไม่บังอาจ ไม่บังอาจ”
เมื่อแน่ชัดแล้วว่าผู้ที่โดดเด่นสง่าผ่าเผยที่สุดในใต้หล้านี้คือผู้ใด ชายชราหัวหน้าหมู่บ้านถึงกับคุกเข่าลงบนพื้นพร้อมด้วยชาวบ้านที่เริ่มออกมามุงดู ทุกคนที่เห็นลักษณะอันโดดเด่นของหลี่จิ้งถึงกับคุกเข่าร่ำไห้
สวรรค์เมตตาพวกเขาแล้ว
ถงถงที่แปลงกายเป็นศิษย์ผู้หนึ่งก้าวออกมายืนเคียงข้างหลี่จิ้ง เขาเอ่ยออกมาว่า
“นายท่านทิศตะวันตกขอรับ”
“ใช่ เข็มทิศนี้ก็จับได้ทิศนั้นเช่นกัน”
เพียงถงถงกล่าวคำนี้ออกมาเขาก็กระอักเลือดออกมาคำหนึ่ง หลี่จิ้งถ่ายพลังทิพย์ให้เขาสายหนึ่งแล้วเอ่ยว่า
“เจ้าไม่อาจร่วมมือกำจัดปีศาจได้ อย่าได้ชี้แนะหรือทำสิ่งใดอยู่ห่าง ๆ คอยปกป้องเป่ยฟางหรงให้ดีหาไม่เจ้าจะโดนอาคมย้อนกลับ เจ้าไม่ได้มาจุติเป็นมนุษย์อย่างไรก็ยุ่งเรื่องนี้ไม่ได้ยังไม่เข้าใจหรือ”