องค์ราชาแห่งดินแดนเหมันต์นามเป่ยเหยียน นำท่านอาจารย์ของบุตรสาวเข้ามาด้านในโดยมีถงถงกิเลนไฟตามมาด้วยความระแวดระวังคล้ายกับสุนัขตนหนึ่ง
หลังจากมีโอกาสพบเทพอัคคีมาหลายคราองค์ราชาเป่ยเหยียนชื่นชมเขาไม่น้อย ไม่คิดว่าความในใจนี้จะมีพลังมากมายจนได้เขามาเป็นอาจารย์ของบุตรสาวในที่สุด
เพราะชื่นชมจึงคิดไปไกลด้วยท่วงท่าสง่างามของเทพอัคคีอีกทั้งฝีมืออันเก่งกาจนับเป็นหนึ่งในสามเทพแห่งแดนสวรรค์ที่เก่งกล้าที่สุดนอกจากจะหวังให้เขามาเป็นอาจารย์ของบุตรสาวแล้วดูเหมือนว่าองค์ราชาผู้นี้จะคิดไปไกลกว่านั้น
หากได้คนที่มีใบหน้าหล่อเหลาเก่งกาจสง่างามเช่นคนผู้นี้มาดูแลดินแดนเหมันต์ต่อจากเขาคงดีไม่น้อย
แน่นอนว่าความคิดนี้เขาไม่เคยบอกให้ผู้ใดล่วงรู้มาก่อนหากพูดไปคงได้ขายหน้าเพราะบุตรสาวของตนเองมีอายุเพียงร้อยปียังเป็นแค่เด็กแบเบาะที่กำลังหัดเดินผู้หนึ่งเท่านั้น ยังมิทันไรเขาก็คิดจะหาลูกเขยให้นางเสียแล้ว
เดินเข้ามาถึงตำหนักในนางกำนัลในตำหนักต่างยอบกายถวายความเคารพและเป็นที่ชินตาของถงถงเมื่อพวกนางล้วนตกตะลึงในความร้อนแรงเอ๊ยความหล่อเหลาของนายท่าน ถึงจะมีบางคนที่ทำท่าเบิกตาโตตกใจอยู่บ้างยิ่งถงถงจ้องมองพวกนางคนเหล่านั้นยิ่งหวาดกลัว
หรือใบหน้าของนายท่านจะมีปัญหายิ่งมองยิ่งไม่เข้าตาสตรีพวกนี้หรือถึงได้ทำท่าพิกลเช่นนี้
ถงถงจึงลองส่งยิ้มน้ำลายยืดผูกมิตรแทนนายท่าน เหล่าสตรีน้ำแข็งพวกนั้นถึงกับถอยกรูออกไปห่าง ๆ ยิ่งคิดกิเลนไฟที่มีหางเป็นวัวหัวเป็นมังกรอีกทั้งยังมีกลีบเท้าเหมือนม้ายังมีไฟโลกันตร์อยู่รอบกายก็ยิ่งไม่เข้าใจว่าคนพวกนั้นกำลังทำท่าหวาดกลัวจนถอยห่างออกไปด้วยเหตุอันใด
สงสัยว่าสมองของพวกนางคงถูกแช่แข็งไปจนไม่เหลือแล้ว
กระทั่งพวกเขามาถึงตำหนักหนึ่งด้านหน้าตำหนักพบนางกำนัลหลายคนถูกแช่แข็งนั่งแน่นิ่งโดยไม่มีผู้ใดกล้าแตะต้อง สำหรับเทพอัคคีนับว่าเรื่องนี้ประหลาดยิ่ง พวกนางเหล่านี้ล้วนเติบโตในดินแดนนี้ทานทนต่อความหนาวยิ่งกว่าน้ำแข็งกลับถูกแช่แข็งได้
“อีกแล้วหรือ” เป่ยเหยียนองค์ราชาเอ่ยขึ้น
“คารวะองค์ราชาเพคะ”
“ผู้ใดทำนางโกรธเล่า” พระองค์ตรัสถามทันใด
“ไม่มีเพคะ เพียงแต่ฝ่าบาทน้อยทรงหัดเดินแล้วล้มไม่พอพระทัยตนเองเลยเกิดโทสะแช่แข็งนางกำนัลไปหลายคน”
องค์ราชาขยับเข้าไปใกล้นางกำนัลแต่ละคนร่ายอาคมอย่างว่องไวชั่วครู่พวกนางก็กลับเป็นปกติ งานหลักของราชาเหมันต์บัดนี้นอกจากจะควบคุมอากาศของโลกมนุษย์อีกทั้งยังปกครองดินแดนแล้วยังมีหน้าที่คอยเช็ดล้างสิ่งที่บุตรสาวทำกับคนของตนร้อยปีมานี้จึงกลายเป็นความชาชินของเขาไปแล้ว