กระทั่งร่างของเป่ยฟางหรงเริ่มลื่นไถล มือเลื่อนออกจากเอวของเขา หลี่จิ้งกลัวว่านางจะหล่นลงไปเรียกเท่าไหร่ก็ไม่ตื่นจึงเป็นฝ่ายขยับร่างของนางให้มาอยู่ด้านหน้า แล้วอุ้มนางเอาไว้เสียเอง คราวนี้แม่ตัวดีถึงกับขยับตัวแล้วขยับนิ้วอย่างเคยชินล้วงเข้ามาในสาบเสื้อของเขา
ก็อยู่ด้านหน้ามันหนาวนี่หนา
หลี่จิ้งใช้เสื้อคลุมของตนเองห่อร่างของนางเอาไว้ ปากพึมพำสั่งกระบี่ฮวาเปียวของตนเอง
“ฮวาเปียวเร่งความเร็วขึ้นอีก”
เดิมทีด้วยยังห่วงนางอยู่มากกลัวว่าจะเกาะเขาไม่ดีจนพลาดพลั้ง ฮวาเปียว* เป็นกระบี่เทพของเขามันย่อมยึดติดเพียงตัวเขา แต่เมื่อเป็นเป่ยฟางหรงแล้วดูเหมือนว่ากระบี่นี่จะไม่ชอบหน้าเป่ยฟางหรงสักเท่าใด หากเป่ยฟางหรงหล่นลงไปถึงเขาจะสั่งให้ไปรอรับนางไม่แน่ฮวาเปียวอาจจะดื้อรั้นขึ้นมาก็เป็นได้
ซึ่งหลี่จิ้งพอจะเข้าใจได้คงสืบเนื่องมาจากนางเป็นเทพแห่งน้ำแข็งส่วนฮวาเปียวเป็นกระบี่แห่งไฟ เย็นกับร้อนย่อมเข้ากันไม่ได้โดยธรรมชาติ
เมื่อได้รับคำสั่งฮวาเปียวก็เร่งความเร็วขึ้นประดุจพายุหมุน หากแหงนมองขึ้นไปบนท้องฟ้าคงจะเห็นเป็นเพียงเส้นสีขาวเส้นหนึ่งที่พุ่งพาดผ่านท้องฟ้าจนเกิดเสียงดังหวีวหวิวเท่านั้น
สองชั่วยามต่อมาหลี่จิ้งก็มายืนอยู่หน้าหุบเขากระบี่แล้ว เขาวางศิษย์ตัวดีลงพื้นโดยไร้ซึ่งความนุ่มนวลผลที่ได้คือเป่ยฟางหรงก้นจ้ำเบ้า ร้องโอดครวญออกมา สองตาตื่นเต็มที่
“ข้าเจ็บนะเจ้าคะ”
นางบ่นเสียงดังทำให้หลี่จิ้งต้องใช้สายตาโหดเหี้ยมห้ามปราม เป่ยฟางหรงจึงยอมหยุดปาก
“ลุกขึ้นแล้วระวังกิริยาของเจ้าให้ดี ข้าจะส่งสารถึงเจ้าสำนักให้เขาเปิดค่ายอาคมให้”
อาจารย์ประสานมือ ตั้งสมาธิใช้วิชาโสตพันลี้แจ้งแก่เจ้าหุบเขา
เป่ยฟางหรงปั้นหน้ายิ้ม นางลุกขึ้นตามคำสั่งของเขาปัดฝุ่นออกจากเสื้อผ้าของตนเอง ครั้นเงยหน้าขึ้นเห็นเศษขนมของตนติดอยู่ที่เสื้อตรงอกของอาจารย์ก็ไม่รู้จะบอกเขาเช่นไร หากคนอื่นเห็นเข้าต้องได้เอาอาจารย์ผู้สูงส่งของนางไปนินทาเป็นแน่
“อยู่ต่างสำนักจงจำไว้อย่าทำตัววุ่นวาย ตามอาจารย์มาอย่าได้ห่าง กระทั่งถึงด่านกระบี่ทดสอบพลังยุทธ์ของเจ้าก็ต้องระวังตัวให้ดี อาจารย์จะถ่ายปราณทิพย์ช่วยเจ้าสายหนึ่งเพื่อเพิ่มพลังกล้ามเนื้อแขน”
อาจารย์ย้ำอย่างกระชับ เขาไม่ใช่คนชอบพูดมากนัก อีกอย่างหากพูดมากกว่านี้เป่ยฟางหรงย่อมไม่มีสมองจะจดจำ จึงเค้นเอาแต่ส่วนสำคัญย้ำเตือนนางอีกครั้ง
ถึงเป่ยฟางหรงจะพยักหน้า นางก็หาได้ฟังเขาเท่าใด ในใจห่วงพะวงว่านางทำอาภรณ์ของเขาเปรอะเปื้อนหากคนอื่นเห็นอาจารย์ผู้ต้องดูดีเสมอในสายตาคนอื่นย่อมต้องมีโทสะ
“อะ…อา…”
นางกำลังจะอ้าปากบอกเขา แต่ก็หุบปากเอาไว้ทัน
ไม่ได้ บอกไม่ได้เด็ดขาด