“อาจารย์หุบเขากระบี่ไม่มีคนเลยหรือเจ้าคะ”
เป่ยฟางหรงสงสัยเป็นอย่างยิ่ง
“มีแต่พวกเขาอยู่ด้านหลังทางลงหุบเขา ที่นี่ถึงจะเป็นสำนักหนึ่งที่มีชื่อเสียง แต่หน้าที่พวกเขาก็แค่รักษาปกป้องหุบเขากระบี่นี้เท่านั้น ไม่ได้ออกล่าปีศาจแต่อย่างใดหากเทียบกับสำนักอื่นคนจึงดูน้อยกว่ามาก”
“แล้วเขาไม่มาต้อนรับเราหรือเจ้าคะ”
“เจ้าเป็นผู้ใดกันจึงต้องให้คนมาคอยต้อนรับ การคัดเลือกกระบี่ย่อมต้องทำด้วยตัวเจ้าเองผู้ใดจะมาวุ่นวายไม่ได้”
“หากได้กระบี่แล้วอย่างไรต่อเจ้าคะ”
“เจ้าสำนักหุบเขากระบี่และศิษย์ของพวกเขาจะลงบันทึกคนคู่กระบี่เอาไว้ ทำพิธีปลดปล่อยกระบี่ออกจากหุบเขา กระบี่ก็จะกลายเป็นของเจ้าโดยสมบูรณ์”
“แล้วถ้าข้าตายเล่าเจ้าคะ”
“หากเจ้าตายกระบี่จะผนึกตนเองไม่มีผู้ใดใช้ได้อีก เราต้องให้คนของสำนักนำกลับมาคืนยังหุบเขากระบี่ และกระบี่เล่มนั้นก็จะรอคอยผู้ที่เป็นนายคนใหม่ที่เหมาะสมต่อไป”
เป่ยฟางหรงเดินจนเหนื่อยหอบ นางจึงไม่ซักถามต่อแล้ว ที่นี่ไม่มีคนไม่พอ พลังเวทย์ของนางจะถูกจำกัดอีกด้วยไม่สามารถใช้ได้ดั่งใจดูติดขัดไปหมด เมื่อไม่อาจใช้พลังเวทย์เป่ยฟางหรงจึงต้องออกแรงในการเดินจนเหงื่อไหลซึมไปทั่วกาย
เดินมาเป็นชั่วยามแล้วขาล้าจนยกไม่ไหว คอแห้งไปหมดรู้สึกทรมานเป็นอย่างยิ่ง หุบเขาสูงชันมากแต่ละก้าวของนางจึงลำบากยิ่ง ได้แต่อาศัยต้นไม้ที่อยู่ข้างทางเป็นแรงเหวี่ยงดึงตนเองขึ้นไป
ผิดกับอาจารย์ของนางที่ยังเดินได้อย่างสง่าผ่าเผย เหงื่อสักเม็ดก็ไม่มีซึม ทั้งเขายังทำท่ารำคาญนางเป็นระยะ ยังดุนางมาตลอดทางที่นางเดินช้า เป่ยฟางหรงอยู่ในสภาพยับเยินหลี่จิ้งยังคงสดใสใบหน้าเรียบขรึมและหล่อเหลาจนน่าเจ็บใจ
หลี่จิ้งคิดว่าศิษย์ผู้นี้ยังรู้จักสังเกตเรื่องพลังเวทย์ และมีใจที่จะถามถึงสาเหตุเห็นนางเดินขึ้นเขาที่สูงชันเช่นนี้ทั้งยังไม่บ่นสักคำถึงจะช้าจนเขาหงุดหงิดแต่ยังมีใจอธิบาย
“ที่นี่เป็นหุบเขากระบี่ ด้านบนหุบเขามีพลังคุ้มครองจากฟ้าดินพลังนี้จะจำกัดพลังเวทย์เอาไว้ ทางหนึ่งเพราะผู้ที่มาเลือกกระบี่จะต้องใช้พลังยุทธ์ของตนเอง และอีกทางหนึ่งเพื่อป้องกันพวกปีศาจลักลอบเข้ามา ปีศาจส่วนมากล้วนพลังยุทธ์ต่ำต้อยใช้พลังเวทย์เป็นหลักดังนั้นพวกเขาจะไม่สามารถขโมยกระบี่วิเศษไปได้ ดังนั้นเจ้าต้องใช้แรงกายในการคัดเลือกระบี่ด้วยตัวเจ้าเอง”
เอ่ยมายืดยาวเป่ยฟางหรงกลับไม่ขานรับ หลี่จิ้งจึงหันไปมอง
เป่ยฟางหรงหาได้เดินตามติดเขาแล้ว ห่างไปจากเขาพอสมควรร่างอรชรในอาภรณ์สีแดงร่างหนึ่ง นั่งจมปุ๊กอยู่ข้างต้นไม้ในสภาพอ่อนระโหยโรยแรงเป็นอย่างยิ่ง
หลี่จิ้งหน้าเขียวคลึ้มเดินกลับไปหานางอย่างว่องไว ถึงเขาจะใช้พลังเวทย์ไม่ได้แต่วรยุทธ์ของเขาก็นับเป็นหนึ่งพริบตาจึงกระโดดถึงร่างน้อยนั่น
“เจ้าจะทำข้าขายหน้าไปถึงเมื่อใด