เป่ยฟางหรงยิ้มจนปากแทบจะฉีกถึงใบหู คนผู้นี้ช่างรู้หน้าที่เป็นอย่างยิ่งนางจึงเอ่ยปากชมด้วยความจริงใจ
“เจ้าเป็นภูตที่ซื่อสัตย์ ข้าชอบเจ้ายิ่ง”
นอกเรือนหลี่จิ้งกำลังสนทนาอยู่กับท่านเจ้าเมือง ท่าทางของเขายังคงดูไว้ตัวอีกทั้งยังเย็นชาอยู่มาก ในขณะที่ท่านเจ้าเมืองได้แต่ยืนค้อมกายพูดคุยกับเขา ดูสุภาพยิ่งกว่าในตอนที่เขาสนทนากับบรรดาท่านอ๋องและหวางเฟยในเมืองหลวงอีก
“เรื่องข้ากับฮูหยินพักที่เรือนเดียวกันขอให้ท่านเก็บเป็นความลับอย่าให้ศิษย์ของข้าล่วงรู้จะได้หรือไม่”
ถึงท่านเจ้าเมืองเล่าฉินไม่ได้เอ่ยปากถามมาก คิดว่าเอาเองว่าการครองคู่ของเหล่าเซียนคงไม่เหมือนคนธรรมดาทั่วไป การพักในเรือนเดียวกันอาจจะเป็นเรื่องไม่เหมาะสม เขาจึงรับปากรับคำและจะกำชับบ่าวที่รู้เรื่องว่าอย่าได้ปริปากพูดสิ่งใดออกไปเป็นอันขาด
หลี่จิ้งกำชับเรื่องปีศาจอีกหลายประโยคกระทั่งเขาวางใจ ในเรื่องของเป่ยฟางหรงนั้น เขาไม่แก้ต่างให้ตนเองเพราะอย่างไรเป่ยฟางหรงย่อมจะปีนขึ้นเตียงของเขาอยู่แล้ว อย่างน้อยความเข้าใจผิดก็ยังช่วยรักษาชื่อเสียงของนางเอาไว้ได้
“คืนนี้ศิษย์ของข้ากำลังเดินทางกลับจากปราบปีศาจทางทิศใต้ คงต้องรบกวนท่านอีกคราระหว่างนี้กำชับทุกคนอย่าได้ออกนอกข่ายอาคมเป็นอันขาด เรื่องปีศาจร้ายข้าจะกำจัดมันในวันสองวันนี้ท่านไม่ต้องกังวล”
“ขอบคุณหลี่เซียนซือมากขอรับ ผู้น้อยวางใจยิ่งนัก”
ท่านเจ้าเมืองถึงกับน้ำตาไหลพราก ปีศาจร้ายพวกนี้นอกจากจะจับเด็กสาวแล้ว หลายครั้งยังจับบุรุษที่หนุ่มแน่นแล้วส่งกลับมาพร้อมร่างกายที่ไร้เนื้อหนังอีกด้วย
ที่ผ่านมาทั้งต้องระวังตัวพวกเขาจึงใช้ชีวิตที่ลำบากยิ่ง
สนทนากับท่านเจ้าเมืองเสร็จ หลี่จิ้งจึงขอตัวมาพักผ่อน เลือดของปีศาจที่เขาสังหารวันนี้มีมากจนทำให้อาภรณ์สีแดงสดของเขาชุ่มไปด้วยน้ำสีเหลืองสีดำบัดนี้เริ่มโชยกลิ่นไม่พึงประสงค์เสียแล้ว
เมื่อเข้ามาในเรือนหลี่จิ้งก็ได้ยินเสียงร้องเพลงดังเบา ๆ มาจากด้านใน แน่นอนย่อมเป็นเสียงของเป่ยฟางหรง เขารู้สึกไม่พอใจนางเล็กน้อย เหตุใดในเวลาน่าสิ่วน่าขวานเช่นนี้ศิษย์ของเขาจึงยังอารมณ์ดีได้เช่นนี้ ดูจะไม่รู้กาลเทศะเกินไปแล้ว
ขาก้าวเข้าไปด้านใน เสียงเพลงของนางเงียบแล้วกลายเป็นเสียงสนทนาที่เต็มไปด้วยเสียงหัวเราะกับใครบางคน หลี่จิ้งขมวดคิ้วเขาย้ำกับท่านเจ้าเมืองแล้วนี่ ว่าห้ามผู้ใดรบกวนเขาและเป่ยฟางหรง
ชั่วลมหายใจเขาพลันย้ายร่างมายืนอยู่หน้าถังน้ำของนางแล้ว
เป่ยฟางหรงเห็นว่าเป็นผู้ใด ก็ดีใจยิ่งนางจะได้อวดภูตที่รู้ใจของตนกับอาจารย์สักประโยคสองประโยค ให้คนผู้นี้อิจฉาเล่น
“เจ้าเหตุใดมาอยู่นี่”