จุมพิตอันเนิ่นนานก่อให้เกิดความรู้สึกแปลกประหลาดกับเป่ยฟางหรง ในชีวิตของนางที่ผ่านมาไม่เคยพานพบประสบกับเรื่องระหว่างชายหญิง สำหรับนางแล้วบุรุษกับสตรีล้วนแตกต่างกันแค่รูปลักษณ์ภายนอก หากแต่ด้านในคือเลือดเนื้อและกระดูกซึ่งเป็นของบิดามารดา
ถึงจะใกล้ชิดกับอาจารย์มาตั้งแต่เด็กแต่ตนเองกลับไม่เคยรับรู้ถึงความรู้สึกแปลกประหลาดที่กำลังพานพบ นางตกใจเป็นอย่างมากเมื่ออาจารย์แทรกปลายลิ้นของเขาเข้ามาในโพรงปากของนาง อีกทั้งยังรุกล้ำไปแทบจะทุกซอกมุมแย่งชิงขนมที่ยังหลงเหลืออยู่ในปากของนางไปกินเสียอย่างนั้น
หลี่จิ้งราวกับกำลังตกอยู่ในห้องแห่งฝัน เขาลืมตัวลืมตนว่าบัดนี้กำลังทำสิ่งที่ไม่เหมาะไม่ควรกับศิษย์ผู้ไร้เดียงสา เป่ยฟางหรงขยับลิ้นหนีเขาพร้อมกับกลืนขนมชิ้นสุดท้ายที่หลงเหลือในปากลงคอ
นางยังเผลอดูดปลายลิ้นของเขาเพื่อแย่งชิงของที่ควรจะเป็นของตนเองคืน หลี่จิ้งบัดนี้กลับถูกเป่ยฟางหรงรุกจนแทบขาดสติ นางตวัดปลายลิ้นว่องไวและเป็นฝ่ายทะลวงเข้ามาในปากของเขา สองมือเรียวโอบร่างของหลี่จิ้งและยังกระชากเขาจนตกลงมาในถังน้ำเช่นเดียวกับนาง
หลี่จิ้งขยับตัวหลังพิงขอบถัง เป่ยฟางหรงนั่งทับที่หน้าท้องของเขาจับใบหน้าของเขาให้อยู่แน่นิ่งแล้วรุกล้ำหนักหน่วงจนหลี่จิ้งใบหน้าแดงก่ำ
ลิ้นสีแดงทั้งสองต่างช่วงชิงชัยชนะ เป่ยฟางหรงรู้สึกไม่ยินยอมหากจะถูกอาจารย์ล่วงล้ำอยู่ฝ่ายเดียว กระทั่งนางยังดูดริมฝีปากของเขาอย่างแรงอีกด้วย
ขนมที่อยู่ในปากของอาจารย์เหตุใดจึงหอมหวานมากยิ่งกว่าเดิม ยิ่งกินยิ่งไล้เลียยิ่งให้ความรู้สึกอร่อยและแสนวิเศษ ความคิดของนางล่องลอยไปจนกระทั่งจดจำคำพูดคำหนึ่งของอาจารย์ได้
เป่ยฟางหรงบัดนี้เชื่อเสียสนิทใจ สิ่งที่อาจารย์เอ่ยไม่เคยโกหกนางเข้าใจอย่างลึกซึ้งถึงสิ่งที่เขาเคยบอกเอาไว้
ลมหายใจของเป่ยฟางหรงถี่กระชั้น ชั่วขณะที่นางก้มลงมาสัมผัส หลี่จิ้งหายใจรุนแรง ความรู้สึกตื่นตะลึงพรึงเพริดนี้ตัวเขาไม่อาจระงับ ความรู้สึกนี้คือสิ่งใดกัน
ถึงในชีวิตของผู้บำเพ็ญเซียนเช่นเขาจะเคยร่วมเสพสังวาสกับสตรีที่ได้รับเชิญมาด้วยความช่วยเหลือของจิ้งหูศิษย์เอก และไม่ถึงชั่วยามเขาก็มอบทองคำให้สตรีเหล่านั้นก้อนหนึ่งก่อนที่จะให้หลี่จิ้งพาพวกนางลงเขาอย่างเงียบเชียบ ทั้งหมดเขาไม่เคยเกิดความรู้สึกอื่นใดนอกจากความต้องการปลดปล่อยตามธรรมชาติเท่านั้น
ความรู้สึกเหล่านั้นเป็นเพียงแค่ปลดปล่อยธาตุร้อนออกจากกาย และถือว่าพวกนางเป็นกระถางบำเพ็ญเพียรฝึกวิชาพรตโดยไม่ได้ยึดติดกับตัวคน นั่นเพราะเขายังไม่มีคู่ซินเซียวเป็นตัวเป็นตนนั่นเอง
กระทั่งเป่ยฟางหรงกัดริมฝีปากของหลี่จิ้งอย่างแรง เขารู้ได้ถึงบางสิ่งบางอย่างที่เป็นของเหลวไหลออกมา เป่ยฟางหรงตื่นเต้นเป็นอย่างยิ่ง
เลือดของอาจารย์ยังหอมหวาน
ดวงตาของเป่ยฟางหรงคล้ายกับมีสีแดงฉานปะปนเป็นเส้นเลือดที่ปูดโปน เป่ยฟางหรงใช้ลิ้นเลียแผลบนริมฝีปากของหลี่จิ้งที่เกิดจากการกระทำของนางเอง
ความรู้สึกอุ่นร้อนซาบซ่านบังเกิดขึ้นไหลเวียนลงไปตามร่างกายกระทั่งไปถึงแขนขา และสุดท้ายเหมือนจุดกึ่งกลางร่างกายของนางจะระเบิด
หลี่จิ้งใช้มือช้อนด้านหลังศีรษะของนางเอาไว้ มือขนาดใหญ่ของเขาเพียงมือเดียวสามารถกำรอบศีรษะเล็กของนางเอาไว้ ริมฝีปากร้อนเร่าของเขาเริ่มชอนไชเป่ยฟางหรงอย่างลืมตัว