เจ้าสำนักและอาจารย์อาจากไปแล้ว เชือกอัคคีพลันคลายออกจากร่างของเล่าฉิน เขาคล้ายจะล้มพับลงตรงนั้นพลันเกิดความรู้สึกเจ็บแปลบและชาขึ้นทันใดบริเวณช่วงกลางลำตัวอีกทั้งเล่าฉินยังรู้สึกคล้ายมีบางสิ่งหล่นหายไปจากร่างกาย
เสียง ฉับ ที่ได้ยินยังแจ่มชัดในสมอง ร่างกายที่ถูกบีบรัดจนคลายด้วยเชือกอัคคีหายไปแล้วกลับเจ็บแปลบขึ้นอีกครา มีบางสิ่งหล่นลงไปบนหน้าขาและเลือดบริเวณที่ถูกตัดกลับนองออกมาอย่างน่าสยดสยอง
เขามองดูสิ่งนั้นจำใจต้องอ้าปากร้องด้วยความเจ็บปวดขึ้นมาอีกครา
“อ๊ากกกกกกกก เจ้าสำนักหลี่เจ้าคนทราม”
และแล้ววาจาของหลี่จิ้งก็วนเวียนเข้ามาสู่สมอง
เจ้ากล้าแตะคนของข้า ข้าจะทำให้เจ้า อยู่ไม่สู้ตาย อยู่ไม่สู้ตาย!!!
บ่าวของจวนท่านเจ้าเมืองรีบวิ่งเข้าไปประคองเจ้านายที่หมดสติไปกองลงกับพื้น กระทั่งท่านหมอก็เตรียมพร้อมไว้แล้ว มีเพียงสายตาของฮูหยินท่านเจ้าเมืองที่มองสามีด้วยใบหน้าเฉยชา
“คนมักมากสุดท้ายก็ต้องตายเพราะสตรีสินะ”
ท่านหมอตรวจดูอาการของท่านเจ้าเมืองอย่างรวดเร็วจึงเอ่ยกับฮูหยินว่า
“ฮูหยินขอรับนายท่านยังไม่ตายขอรับ”
ฮูหยินท่านเจ้าเมืองกัดริมฝีปาก เอ่ยด้วยน้ำเสียงเยียบเย็นสะกดข่มความเสียใจเอาไว้
“นำนายท่านเข้าไปในเรือน แล้วรีบรักษาเสีย”
ท่านหมอรับคำแล้วสั่งให้คนหามเขาเข้าไปรักษาด้านใน บ่าวตัวใหญ่ผู้หนึ่งจึงแบกท่านเจ้าเมืองไปอย่างรวดเร็ว
อนุผู้นั้นที่ท่านเจ้าเมืองรักมากที่ถูกหลี่จิ้งพรากยามเช้าอันแสนหวานของนางไปในตอนนี้แอบมองอยู่ห่าง ๆ ไม่กล้ากระทั่งเดินเข้ามาใกล้ ทั้งยังเห็นเหตุการณ์ที่ท่านเจ้าเมืองถูกลงโทษเพราะตนเองกลับไม่กล้าแม้แต่น้อยที่จะโผล่หน้าออกมาร้องขอชีวิตให้ผู้เป็นสามี
นั่นเป็นเพราะนางกลัวว่าจะพลอยถูกหลี่จิ้งทำโทษไปด้วย เดิมทีนางเห็นเขาก็ตั้งใจขอคำชี้แนะด้วยหลงใหลในรูปร่างหน้าตาอันหล่อเหลาประดุจเทพเซียนของหลี่จิ้ง
นางไม่เชื่อว่าอดีตนางโลมอันดับหนึ่งเช่นนางจะพลาดเป้าจากหลี่จิ้งไปได้ คาดไม่ถึงว่าเขากลับกล้าทำร้ายคนของ ราชสำนักด้วยใจที่โหดเหี้ยมเย็นชายิ่ง เมื่อเห็นเช่นนั้นนางมีหรือจะกล้าเข้าไปใกล้ให้โดนลูกหลงไปด้วย
นางเแอบดูอยู่นานกระทั่งเห็นท่านหมอนำสิ่งหนึ่งมามอบให้ฮูหยิน ท่านหมอวางสิ่งนั้นลงบนพานแลดูทะนุถนอมยิ่ง นางจึงขยับกายเข้าไปใกล้อีกนิดเพื่อมองดูให้แน่ชัด
“ฮูหยินขอรับ นี่คือพวงสวรรค์ทั้งพวงของท่านเจ้าเมือง ถูกตัดขาดแล้วขอรับ”
มือเรียวที่ความเต่งตึงหดหายยกขึ้นทาบอกดวงตากลมโตเบิกกว้าง ใบหน้าเหี่ยวย่นด้วยย่างเข้าสู่วัยชราเอ่ยถามเสียงเบาหวิวราวกระซิบ
“ต่อได้หรือไม่”
ท่านหมอปาดเหงื่อกระนั้นก็ยังกล่าวด้วยความมั่นใจหลายส่วน
“เพิ่งโดนตัดขอรับ ข้าน้อยคิดว่ายังพอมีความหวังแต่ต้องเร่งมือหน่อย”
จู่ ๆ ฮูหยินหวีดร้องออกมา ยกมือที่ถือผ้าเช็ดหน้าแสร้งทำเป็นเช็ดน้ำตา
“ท่านพี่ พวงสวรรค์ท่านถูกตัดแล้ว ท่านหมดหวังมีบุตรสืบสกุลเพิ่มอีกแล้วข้าเสียใจยิ่ง ไม่สามารถรักษาได้แล้ว ฮือ ฮือ ฮือ”
ท่านหมองงงวย เมื่อกี้เขาเพิ่งบอกว่ายังมีหวัง เหตุใดฮูหยินจึงได้เข้าใจผิดในขณะที่เขากำลังอ้าปากขึ้นแย้ง ฮูหยินท่านเจ้าเมืองพลันเอ่ยเสียงดัง
“ในเมื่อใช้การไม่ได้แล้วจะถือไว้เป็นเสนียดให้ท่านพี่เห็นแล้วเจ็บปวดอยู่ไย เร่งจัดการบัดเดี๋ยวนี้”
“เอ่อ ปะ ไป ไหนขอรับ”
“เจ้าหมายความเช่นไร ก็โยนให้เป็ดมันกินเสียอย่าให้ท่านพี่เห็นแล้วเจ็บช้ำน้ำใจอีกเลย”
กล่าวจบฮูหยินก็แสร้งร้องไห้โฮ ให้สาวใช้พยุงกลับเรือนโดยไม่เหลียวแลพวงสวรรค์ของท่านเจ้าเมืองอีกเลย ในขณะที่ท่านหมอได้แต่ยกมือเกาศีรษะ และเริ่มเข้าใจความหมายของฮูหยินแล้ว
เขาจึงโยนพวงสวรรค์ที่คราแรกอุตส่าห์เก็บขึ้นมาจากพื้นอย่างถนอมให้บ่าวผู้หนึ่งอย่างไม่ไยดีอีกต่อไป
“ไป เจ้านำไปให้เป็ดตัวใหญ่ที่สุดกิน อย่าให้ข้าเห็นอีก”
บ่าวผู้นั้นค้อมกายลงรับคำ แล้วหันหลังวิ่งเร็วจี๋ไปยังคอกเป็ดทันที
เหตุการณ์เหล่านี้เกิดขึ้นและจบลงอย่างรวดเร็ว ศิษย์ผู้ทรงคุณธรรมของสำนักหุบเขากระบี่จึงมองด้วยความสนใจ คล้ายกำลังมองงิ้วอยู่ ทั้งน่าหวาดกลัว น่าหวาดเสียว โศกเศร้าในคราเดียวกัน
ผู้ที่น่าสงสารที่สุดก็คงหนีไม่พ้นท่านเจ้าเมืองที่รนหาที่ตายผู้นั้น
ในขณะที่อนุภรรยาคนสวยของท่านเจ้าเมือง เมื่อเห็นว่าของชิ้นนั้นของเขาถูกตัดขาดแล้ว แน่นอนเขาย่อมไม่สนใจความงามของนางอีก ในใจพลันวิตกเป็นอย่างยิ่ง ครานี้คงได้ถูกฮูหยินใหญ่เล่นงานเป็นแน่ ก่อนจะเกิดเหตุการณ์นี้นางต้องรีบชิงหนีเสียก่อน
สตรีผู้นี้คิดตริตรองรอบคอบแล้วจึงวิ่งกลับไปยังเรือนของตน ขนข้าวของมีค่าที่ได้รับมาจากสามีออกจากช่องลับใต้เตียง กระทั่งบ่าวรับใช้คนสนิทยังไล่ออกจากเรือนให้หมด
นางเปิดหีบที่วางเรียงรายกันหลายใบ พลางคิดวิธีขนทรัพย์สมบัติออกไปโดยไม่ให้ฮูหยินใหญ่จับได้
ในขณะที่ครุ่นคิดอยู่นั้นเงาของคนผู้หนึ่งก็ทอดยาวอยู่เบื้องหน้า เพียงนางเงยหน้าขึ้นก็เห็นใบหน้าที่แสนงดงามของสตรีผู้หนึ่ง อนุผู้นั้นเอ่ยปากถามด้วยความฉงน
“นี่เจ้าไม่ได้ถูกจับหรือ แล้วเจ้ามาที่ห้องข้าด้วยเหตุใด”
ไร้เสียงตอบจากสตรีนางนี้ ด้วยความรวดเร็วว่องไวอนุของท่านเจ้าเมืองก็ล้มพับหมดลมหายใจ ใบหน้าถูกกระชากออกมา เลือดไหลหยดแลดูน่าสยดสยองเป็นอย่างยิ่ง ร่างของสตรีผู้นั้นคล้ายจะหายไปในอากาศในที่สุดในเรือนของอนุคนงามของท่านเจ้าเมืองก็มีเพียงความเงียบงัน