ผ่านไปราวครึ่งชั่วยามร่างกายเย็นเยือกของเป่ยฟางหรงค่อย ๆ อุ่นขึ้น หลี่จิ้งรวบรวมลมปราณตรึงใบหน้างามให้แหงนเงย ปล่อยพลังและปรับลมปราณที่สับสนภายในร่างกายของนางให้เป็นระเบียบจวบจนเสร็จสิ้น หลี่จิ้งจึงผละออกผ่อนลมหายใจยาวออกมา
สิ่งที่เขาคาดไม่ถึงคือเป่ยฟางหรงกลับตรึงท้ายทอยของเขาเอาไว้ แล้วเป็นฝ่ายบดริมฝีปากลงมา ช่วงชิงลมหายใจของเขาอย่างตะกละตะกลาม กระทั่งลิ้นของนางยังสอดเข้ามาด้านใน
เดิมทีหลี่จิ้งคิดจะผละออก แต่ลูกศิษย์ตัวน้อยกลับทาบทับกระทั่งเขาล้มลงไปด้านหลัง มอบจุมพิตอันสุดแสนกระตือรือร้นและหอมหวานจนเขาสั่นสะท้าน
สุดท้ายแล้วเขาไม่อาจทนความยั่วยวนนี้ได้ หลี่จิ้งเพลี่ยงพล้ำยินยอมให้เป่ยฟางหรงจุมพิตโดยไม่ขัดขืนและผลักไส สตรีตัวเล็กเหมือนจะพึงใจ นางดูดลิ้นของเขาอย่างว่องไวรวดเร็วกัดกลืนริมฝีปากของเขาแล้วสอดลิ้นเข้ามาด้านในดูดกลืนริมฝีปากปากของเขาเอาไว้ด้วยปากเล็กของนาง
ร่างของเป่ยฟางหรงคล้ายจะหอมกรุ่นขึ้นไปอีก นางบดเบียดความอวบอัดกับกายของเขาจนแนบสนิท จุมพิตเขาอย่างช่ำชองยิ่ง เขาปล่อยให้นางกระทำตามอำเภอใจอยู่เนิ่นนาน ความวาบหวามไหลผ่านไปทั่วร่าง
“อาจารย์ท่านรู้หรือไม่ว่าข้าต้องการท่านเพียงใด เป็นของข้าเถิดท่านก็มีใจให้ข้าใช่หรือไม่”
น้ำเสียงออดอ้อนนี้ทำให้หลี่จิ้งแทบจะหยุดหายใจ
“เป่ยฟางหรง…นี่เจ้า”
“ข้าเองเจ้าค่ะ ร่างกายของข้าท่านเห็นว่าเป็นอย่างไรกัน”
นางจับมือของเขาไปสัมผัสหน้าอกอวบนุ่มนิ่มของตน หลี่จิ้งไม่ขัดขืนเขาหลับตาลงแล้วร้องครางออกมา
“อืม”
เป่ยฟางหรงยกยิ้มยั่วเย้า
“อาจารย์เจ้าขา ยอมข้าแล้วใช่หรือไม่”
หลี่จิ้งไม่ตอบเขายังหลับตาแน่น เป่ยฟางหรงวางมือไว้บนตำแหน่งหัวใจของเขาลูบคลำอยู่ชั่วครู่จนร่างกายของหลี่จิ้งสั่นสะท้าน
“เนื้อของท่านช่างแน่นหนา ถูกใจข้าเสียจริง”
ริมฝีปากที่แนบชิดกลีบปากหนาของหลี่จิ้ง ขยับช้า ๆ แล้วไล้ต่ำลงมาจนถึงช่วงคอ นางกัดลำคอของหลี่จิ้งเล็กน้อยลากลิ้นออกมาเลียต่ำจนกระทั่งถึงช่วงหน้าอก
นางอ้าปากพร้อมกับเลียริมฝีปาก หลี่จิ้งยังหลับตาพริ้มพร้อมกับครางออกมาแผ่วเบา
“อาาา”
สองร่างพัวพันแนบชิด กระทั่งเป่ยฟางหรงเงื้อมือขึ้น หลี่จิ้งยกมุมปากขยับกายว่องไวภายในพริบตาพลันตวัดแขนโอบร่างเป่ยฟางหรงเอาไว้ เชือกอัคคีที่พันรอบข้อมือคลายออกรวบผูกมัดมือทั้งสองข้างของเป่ยฟางหรงเอาไว้ด้วยกัน
ใบหน้างามแดงก่ำด้วยไฟโทสะ นางไม่คิดว่าตนเองจะพลาด อีกเพียงนิดเดียวเท่านั้นนางก็จะทำสำเร็จ บัดนี้ร่างกายของนางยังถูกเขาเอาเปรียบ สองมือของเขาไม่เพียงโอบกอดยังกุมสองปทุมถันของนางเอาไว้ เป่ยฟางหรงกัดริมฝีปากเอ่ยเสียงหวานออกมา
“อาจารย์เหตุใดท่านจึงมัดข้าเล่า”
หลี่จิ้งก้มลงสูดดมที่ซอกคอของนางเอ่ยปากถามตรง ๆ
“ร่างของเจ้ามีกลิ่นของบัวหิมะ คงมีผู้ใดคิดปลุกเจ้าและก็ทำสำเร็จเสียด้วย”
เป่ยฟางหรงแสร้งโง่
“ปลุกหรือเจ้าคะ ศิษย์โง่เขลาไม่เข้าใจคำที่อาจารย์เอ่ยแม้แต่คำเดียว”
หลี่จิ้งพลิกกายนางให้มาประชันหน้า สองมือที่ถูกมัดของเป่ยฟางหรงดันอกของเขาเอาไว้ หลี่จิ้งก้มลงเกือบจะชิดใบหน้า ร่างกายอบอุ่นนี้ทำให้เป่ยฟางหรงแทบจะกลายเป็นคนไร้กระดูกอ่อนปวกเปียกอยู่ในร่างของเขา
“เจ้าผิดแล้ว”