ตอนที่ 359 เข้าใกล้ด้วยตัวเองเป็นครั้งแรก
แววตาเผยอวี้เฉิงที่ไม่เคยหวาดกลัวต่อสิ่งใด ขณะนี้แววตาคู่นั้นปรากฏความตะลึงอย่างเห็นได้ชัด
เผยหนานซวี่และเผยอวี่ถังก็ไม่คิดว่าหลินเยียนจะแจกอาหารหมาเองแบบนี้ อีกทั้งแจกทียังมีจำนวนเป็นตันเลย
ทั้งสามคนชะงักอยู่กับที่ไม่ได้พูดอะไรในชั่วขณะ บรรยากาศเข้าสู่ความเงียบสงบทันที
หลินเยียนกระแอมเบาๆ “ไม่ได้เหรอ?”
จริงๆ แล้วหลินเยียนไม่ได้คิดอะไรซับซ้อนมาก แค่คนอื่นทำดีกับเธอ เธอก็ทำดีกับคนอื่นแค่นั้นเอง
สำหรับเรื่องที่เธอแข่งรถหรือว่าเรื่องงานในวงการบันเทิง เผยอวี้เฉิงล้วนเข้าใจและให้เกียรติเธอ
ถึงกระทั่งชื่นชมอีกต่างหาก
นี่คือสิ่งที่ทำให้เธอรู้สึกหวั่นไหวที่สุด
ตอนนี้รู้อยู่แล้วว่าสุขภาพของเผยอวี้เฉิงไม่ค่อยดี ขนาดเผยหนานซวี่เองยังลดงานลงเพื่อมาดูแลเขา
ไม่ว่าความสัมพันธ์นี้จะจริงหรือเท็จ เป็นการแสดงหรือไม่ แต่อย่างน้อยเธอก็ยังเป็นแฟนสาวของเผยอวี้เฉิง ไม่ว่ายังก็ต้องลงมือทำอะไรบางอย่าง
ในวินาทีนี้ เผยอวี้เฉิงประจบกับสายตาความสงสัยของหญิงสาว นัยต์ตาสีเข้มราวกับค่ำคืนยามวิกาลนั้นกลายเป็นแสงประกายดุจแสงดาวในชั่วพริบตา เขาเอ่ยปากขึ้นด้วยน้ำเสียงเข้มขรึม “ได้สิ”
ตลอดเวลาที่ผ่านมา นี่เป็นครั้งแรกที่หลินเยียน…ลองเข้าใกล้เขาด้วยตัวเอง
เผยอวี่ถังยืนอยู่ข้างๆ รถอย่างเหม่อลอย ขณะนี้เขารู้สึกว่าตัวเองและพี่รองของเขาเป็นเหมือนก้างขนาดยักษ์ขวางอยู่ตรงคอสองชิ้น
“แค่…แค่นี้ก็จะอยู่ด้วยกันแล้วเหรอ? บ้าเอ้ย ก่อนหน้านั้นผมยังแซวว่าพี่ใหญ่กับพี่สะไภ้มีความคืบหน้าช้ามาก แต่ไงล่ะ เหยียบคันเร่งจนมิดไมค์เลยสิทีนี้” เผยอวี่ถังเหลือเชื่อจริงๆ “ความเร็วแบบนี้! สมแล้วที่เป็นพ่อของผม!”
เผยหนานซวี่กระแอมเบาๆ แล้วเอ่ยปากขึ้น “ดูเหมือนว่า ก่อนหน้านั้นพวกเราลืมความน่าจะเป็นอีกอย่างไปน่ะ…”
ความน่าจะเป็นที่หลินเยียนจะเข้าใกล้พี่ใหญ่ด้วยตัวเอง…
หลินเยียนปฎิบัติตัวกับพี่ใหญ่ดูเกรงใจเกินไปจริงๆ อีกทั้งยังดูเหมือนหวาดระแวงเขาเล็กน้อย เขาไม่คิดจริงๆ ว่าหลินเยียนจะเป็นคนขออาศัยที่นี่เอง
เมื่อเป็นเช่นนี้ เวลาในการอยู่ด้วยกันของเธอและพี่ใหญ่ก็จะเพิ่มขึ้นอย่างมาก ถือว่าเป็นประโยชน์กับการฟื้นฟูของร่างกายพี่ใหญ่เลยล่ะ!
เผยอวี่ถังพูดขึ้นด้วยความตื่นเต้น “ฮ่าๆ ผมก็ว่าอยู่! ถ้าพี่สะใภ้กับพี่ใหญ่ไม่เลิกกัน ความสัมพันธ์ดีขึ้นเรื่อยๆ พวกเขาคงจะตัวติดหนึบกันอย่างกับปาท่องโก๋ แทบจะอยากอยู่ด้วยกันยี่สิบสี่ชั่วโมงเลยล่ะ! จะไปเป็นห่วงอะไรอีก! ผมว่าให้พวกผู้เชี่ยวชาญบินมาหา ยังเทียบกับคำพูดมั่วๆ สักคำของพี่สะใภ้ผมไม่ได้เลยแหละ!”
เผยหนานซวี่ได้ยินแล้วยิ้มๆ แต่ก็ไม่ได้เถียงอะไร เผยอวี่ถังก็พูดความจริงนี่นา
“แต่ว่า ในฐานะหมาโสดอย่างผม ก็ถือว่าหนาวใจอยู่นะ…” เผยอวี่ถังถอนหายใจด้วยความเศร้า “เพื่อตั้งใจลุยงาน ผมไม่มีความรักมานานมากแล้ว!”
จะว่าไปแล้วตอนนั้นเขาก็เป็นคาสโนวาเหมือนกัน คบแฟนสาวมาไม่น้อยเลยล่ะ…
แต่ว่าตั้งแต่หลงรักรถแข่งแล้ว ไม่ว่าผู้หญิงหน้าไหนก็ดูไม่น่าสนใจเลย เขาแค่อยากมีความรักกับรถแข่งเท่านั้น!
เผยหนานซวี่ที่ไม่เคยมีความรักเลย “อะแฮ่ม…”
หลินเยียนเพิ่งจะนึกขึ้นได้ว่าเผยหนานซวี่และเผยอวี่ถังอยู่ข้างๆ เหมือนกัน กระแอมเบาๆ แล้วเอ่ยปากขึ้น “เอ่อคือว่า ฉันไม่มีความหมายอย่างอื่นนะ ก็เพราะว่าช่วงนี้สุขภาพคุณไม่ค่อยดีไงล่ะ ฉันก็เคยคิดว่าถ้าอยู่ด้วยกันก็ยังมีคนดูแลอยู่ ไม่งั้นต้องให้ราชาภาพยนตร์เผยปัดงานทิ้งแบบนี้ แฟนอย่างฉันก็ดูไม่มีประโยชน์อะไรเลย…”
เผยอวี้เฉิงหัวเราะขึ้นเบาๆ “ไม่เป็นไร ต่อให้มีความหมายอย่างอื่นก็ไม่เป็นไร”
หลินเยียน “…”
เผยหนานซวี่ “…”
ราชาภาพยนตร์เผยที่มีแต่คนอยากได้อยากเจอ นี่เป็นครั้งแรกที่เขาคิดว่าเหมือนตัวเองจะเป็นส่วนเกินยังไงไม่รู้
ตอนที่ 360 ฉันมีแฟนไม่ได้เหรอ
ตอนแรกหลินเยียนยังไม่ได้คิดอะไรมาก แต่เมื่อได้ยินเผยอวี้เฉิงพูดว่า ‘มีความหมายอื่นก็ได้’ จู่ๆ ก็เริ่มคิดเพ้อเจ้ออย่างควบคุมไม่ได้ขึ้นมาทันที
จะว่าไปแล้ว คำขอของเธอก็ทำให้คนอื่นเข้าใจผิดกันได้ง่ายๆ
บ้าเอ้ย เผยอวี้เฉิงคงจะไม่คิดว่าเธอคิดจะทำอะไรๆ ก็เลยเสนอว่าอยากอยู่กับเขานะ
ฟ้าเป็นพยาน เธอไม่ได้คิดแบบนั้นจริงๆ!
เจตนาของเธอบริสุทธิ์มากๆ เลยนะ!
แต่เหมือนว่าจะอธิบายยังไงก็ดูฟังไม่ขึ้นแล้วสินะ…
เผยอวี่ถังที่อยู่ข้างๆ เอ่ยปากขึ้นด้วยความดีใจ “พี่สะใภ้ๆๆ ผมไปย้ายบ้านให้พี่ตอนนี้เลยดีกว่า!”
หลินเยียนมองดูเผยอวี่ถังที่ดีใจอย่างกับได้ข้ามปีใหม่ด้วยสีหน้าเรียบนิ่ง “ตอนนี้ดึกเกินไปน่ะ ฉันจะกลับไปเก็บของก่อน อีกอย่างบ้านหลังนั้นเพื่อนฉันเป็นคนเช่าให้ ฉันจะย้ายทั้งทีก็ต้องบอกเขาก่อน”
แววตาเผยอวี้เฉิงขยับเล็กน้อย “วังจิ่งหยาง?”
หลินเยียนพยักหน้าด้วยสีหน้าตะลึง “ใช่ วังจิ่งหยางนั่นแหละ คุณเผยรู้ชื่อเพื่อนฉันได้ยังไงคะ”
“เธอเคยพูดถึงน่ะ” เผยอวี้เฉิงเอ่ยปากขึ้น
หลินเยียน “อ้อ งั้นเหรอคะ”
เธอจำไม่ได้ว่าตัวเองเคยพูดถึงวังจิ่งหยางต่อหน้าเผยอวี้เฉิงเลยนะ…
เธออาจจะพูดขึ้นอย่างไม่ได้ตั้งใจ แต่ว่าลืมไปซะก่อน
“สมควรต้องพูดน่ะ” เผยอวี้เฉิงพูดขึ้น “เธอจัดของเสร็จแล้วโทรหาฉัน เดี๋ยวฉันไปรับ”
“ได้เลย ได้เลย!”
……
เมื่อกลับมาถึงอพาร์ตเมนต์
ตอนแรกหลินเยียนเตรียมตัวจะไปหาวังจิ่งหยางพรุ่งนี้เช้า แต่เพิ่งจะเดินไปข้างล่างก็บังเอิญได้เจอกับวังจิ่งหยางพอดี
“เฮ้ หมาน้อย!” หลินเยียนตาเป็นประกาย รีบเดินต้อนเข้าไป
“กลับมาดึกขนาดนี้เลยเหรอ” วังจิ่งหยางขมวดคิ้วแล้วชำเลืองมองเธอ
หลินเยียนพลันพูดขึ้น “ดีเลย ฉันมีเรื่องจะคุยกับนายพอดี งั้นนายเลี้ยงมื้อดึกฉันดีกว่า!”
วังจิ่งหยางเหลือบมองเธอ “ทำไมฉันต้องเลี้ยงมื้อดึกเธอด้วยล่ะ”
หลินเยียนเสยคิ้วขึ้นด้วยสีหน้า ‘ต้องเป็นแบบนั้นสิ’ แล้วพูดขึ้น “วันนี้ฉันชนะไงล่ะ! นายไม่ฉลองเพื่อฉันหน่อยเหรอ”
วังจิ่งหยางชายตามองเธอ “พอเถอะ ถ้าฉันต้องเลี้ยงทุกครั้งที่เธอชนะ ฉันคงต้องถังแตกแน่นอน! อีกอย่างการแข่งขันจิ๊บจ๊อยแบบนี้ยังจะให้ฉันเลี้ยงข้าวเธออีกเหรอ อายบ้างไหมเนี่ย”
วังจิ่งหยางก็รู้เรื่องที่หลินเยียนไปแข่งให้ตระกูลเฮ่อ แต่ผลออกมาเป็นยังไงแทบจะไม่ต้องคิดเลย เขาไม่ได้ใส่ใจอะไร แล้วก็ไม่อยากใส่ใจกับการที่เธอไปกลั่นแกล้งพวกอ่อนหัดเหล่านั้นอีกด้วย
“เธอยังไม่ตอบฉันเลย ทำไมเธอกลับมาดึกขนาดนี้ล่ะ” วังจิ่งหยางไล่ถาม
หลินเยียนรู้สึกผิดเล็กน้อย กรอกตาไปมาแล้วพูดขึ้น “ทำไมฉันถึงกลับมาดึกไม่ได้ล่ะ”
“ช่วงนี้เธอไม่มีงานทำไม่ใช่เหรอ การแข่งขันก็จบไปตั้งนานแล้ว อีกอย่างเธอก็ไม่ค่อยมีเพื่อนในประเทศ ทำไมถึงกลับดึกขนาดนี้” วังจิ่งหยางวนกลับประเด็นเดิม
หลินเยียนได้ยินแบบนี้ ไม่รู้จะตอบว่าอะไรเลย
ต้องแทงใจดำขนาดนี้เลยเหรอ
หลินเยียนกรอกตามองบน โต้กลับไปตรงๆ “ฉันไม่ค่อยมีเพื่อนในประเทศ แต่ฉันมีแฟนไม่ได้เหรอ”
วังจิ่งหยางนึกว่าตัวเองฟังผิดไปชั่วขณะ “เธอว่าไงนะ เธอมีอะไรนะ”
“แฟน!”
“เธอกินเยอะไปน่ะ” วังจิ่งหยางเผยสีหน้ารังเกียจ
“ไม่ได้กินเยอะหน่า ฉันมีแฟนแล้วจริงๆ!” หลินเยียนพูดขึ้น
ตอนแรกหลินเยียนคิดว่าตัวเองคงจะคบกับเผยอวี้เฉิงไม่นาน ก็เลยไม่คิดจะบอกวังจิ่งหยาง เผื่อเขาถามนู่นถามนี่อีก
แต่ดูจากสภาพตอนนี้แล้ว คงจะไม่เลิกลากันภายในช่วงนี้แล้วล่ะ อีกอย่างวังจิ่งหยางก็เป็นเพื่อนสนิทของเธอ ไม่จำเป็นต้องปิดบังอะไรเขา
วังจิ่งหยางพูดขึ้นส่งๆ “จ้าๆๆ เธอมีแฟนแล้ว เธอจะบอกฉันว่าแฟนของเธอคือเผยหนานซวี่ใช่ไหม”
สาวๆ แฟนคลับมักจะมโนว่าไอดอลเป็นแฟนหรือสามีตัวเอง หลินเยียนเองก็ชอบพูดกับโปสเตอร์เผยหนานซวี่ว่าแฟนตัวเองหล่อจัง ซึ่งวังจิ่งหยางชินตั้งนานแล้ว
หลินเยียนเอ่ยปากขึ้น “ถึงแม้จะไม่ใช่เผยหนานซวี่ แต่มีความสัมพันธ์บางอย่างกับเผยหนานซวี่อยู่น่ะ…”
วังจิ่งหยางเห็นหลินเยียนทำสีหน้าจริงจังไม่เหมือนกำลังล้อเล่นอยู่ สายตาจ่อไปที่เธอแล้วพูดขึ้น “มีจริงเหรอเนี่ย ใครเหรอ”
หลินเยียน “พี่ใหญ่ของเผยหนานซวี่ เผยอวี้เฉิง”
วังจิ่งหยาง “…”