ตอนที่ 367 ความรู้สึกเหมือนมีคนใหญ่โตหนุนหลังให้
ท่าทางตู้เผิงเซิ่งดูเย็นชาไปกว่าเดิม “ให้เป็นไปเป็นผู้ช่วยหัวหน้าเกา รวมถึงเรื่องที่หัวหน้าเกาเป็นคนดูแลหลินเยียนแทน หัวหน้าเกาได้คุยกับฉันแล้ว และฉันก็อนุญาตแล้วด้วย ดังนั้นไม่ต้องคุยต่อไปแล้ว
ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไปเธอเป็นผู้ช่วยของหัวหน้าเกา ส่วนหลินเยียนก็อยู่กับหัวหน้าเกาต่อไป หัวหน้าเกาให้เธอทำอะไรเธอก็ต้องเชื่องฟังคำสั่งของหัวหน้าเกา!”
จ้าวหงหลิงไม่คิดว่าตู้เผิงเซิ่งจะไม่ไว้หน้าเธอสักนิด เธอพูดขึ้นพร้อมสีหน้าขาวซีด “คุณตู้ ฉัน…”
ขณะนี้ตู้เผิงเซิ่งเริ่มจะหงุดหงิดแล้ว เขาแทรกขึ้นด้วยน้ำเสียงดุดัน “จ้าวหงหลิง ครั้งนี้เธอสร้างเรื่องใหญ่ขนาดนี้ ที่ฉันยังให้เธออยู่ในบริษัทได้ถือว่าเห็นแก่เธอมากแล้ว อย่ามาได้คืบเอาศอกนะ!”
หลินเยียนที่อยู่ข้างๆ หัวเราะเบาๆ แล้วเอ่ยปากขึ้น “คุณตู้ ตอนแรกฉี่ซิง เอนเตอร์เทนเมนต์ก็เป็นแค่บริษัทเล็กๆ ไร้ชื่อเสียง มีอยู่หลายครั้งที่เกือบจะเดินต่อไปไม่ได้ ผู้จัดการในบริษัทลาออกไปกันหมดจนเหลือแค่พี่หลิงคนเดียว…
ในขณะที่บริษัทตกต่ำที่สุด คือพี่หลิงคนนี้ที่ไม่ยอมทิ้งกันไป อยู่เคียงข้างบริษัทเดินมาถึงทุกวันนี้ แล้วก็เป็นพี่หลิงที่นำพาเจี่ยงซือเฟยสร้างชื่อเสียงให้แก่บริษัท นำพาบริษัทมุ่งสู่ทางเดินที่ถูกต้อง แต่ตอนนี้คุณกำลัง…เสร็จงานฆ่าโคถึก เสร็จศึกฆ่าขุนพลงั้นเหรอ?”
ตู้เผิงเซิ่งได้ยินคำพูดของหลินเยียนแล้ว โมโหขึ้นมาทันที “แกเป็นใครกัน กล้าพูดจากับฉันแบบนี้!”
เห็นหลินเยียนทำให้เถ้าแก่โมโห ทั้งเกาจื้อเวยและอันเชี่ยนเชี่ยนรู้สึกได้อกได้ใจ
เกาจื้อเวยรีบต้อนเข้าไปปลอบตู้เผิงเซิ่ง “เถ้าแก่อย่าไปสนใจพวกใจดำพวกนี้เลย อะไรคือจ้าวหงหลิงสร้างชื่อเสียงให้บริษัท เถ้าแก่ต่างหากล่ะที่มองคนเป็น ฝีมือไม่ธรรมดาไงล่ะครับ!”
อันเชี่ยนเชี่ยนมองไปทางหลินเยียนด้วยสายตาเหยียดหยาม “จ้าวหงหลิงก็แค่พลอยได้ชื่อเสียงของบริษัทไปด้วยแหละ เธอคิดว่าฉี่ซิง เอนเตอร์เทนเมนต์ไม่มีจ้าวหงหลิงแล้วจะอยู่ต่อไม่ได้เหรอ? หลินเยียนเธออย่ามาไม่รู้ชั่วดี ตอนนี้พี่เวยเป็นหัวหน้าผู้จัดการศิลปินเลยนะ มีคนอยากอยู่กับพี่เวยมากแค่ไหนยังทำไม่ได้เลย เธอยังมีหน้ามาเลือกนู่นเลือกนี่อีก! คิดว่าตัวเองเป็นแฟนของหันอี้เซวียนหรือไง? หรือว่าคิดว่าเผยหนานซวี่จะชอบเธอ? ตลกเกินไปหรือเปล่า”
ตู้เผิงเซิ่งได้ยินแล้วรู้สึกสบายใจขึ้นมาทันที “เชี่ยนเชี่ยน ไม่ต้องคุยกับพวกนี้แล้ว เอาเป็นว่าถ้าไม่เชื่อฟังคำสั่งจากบริษัทก็ไสหัวออกไปซะ!”
ตอนแรกจ้าวหงหลิงยังหลงเหลือความรู้สึกต่อบริษัทนี้อยู่ แต่พอได้ยินแบบนี้แล้วเธอใจสลายโดยสิ้นเชิง
ตู้เผิงเซิ่ง “ฉันให้เวลาพวกเธอคิดหนึ่งวัน คิดให้ดีๆ ซะ!”
หลินเยียนยิ้มแล้วพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงราบเรียบ “ไม่ต้องคิดแล้ว ฉันขอยกเลิกสัญญา”
แหม่ ความรู้สึกที่มีคนใหญ่โตหนุนหลังอยู่มันดีแบบนี้นี่เอง!
เพราะยังไงเธอได้สัญญาจากพินนาเคิล เอนเตอร์เทนเมนต์อีกทั้งได้เซ็นชื่อแล้ว ในเวลาแบบนี้เธอสามารถพูดคำว่ายกเลิกสัญญาออกมาได้อย่างเต็มปาก
ได้ยินที่หลินเยียนพูดแล้ว สีหน้าตู้เผิงเซิ่ง เกาจื้อเวยและอันเชี่ยนเชี่ยนเจื่อนลงทันที
“หลินเยียน ให้หน้าแต่ไม่เอาหน้างั้นเหรอ!” เกาจื้อเวยเอ่ยขึ้นพร้อมสีหน้าบึ้งตึง
ยัยหลินเยียนนี่เละป่นปี้ขนาดนี้แล้ว ถ้าไม่ได้เห็นแก่หน้าตาเธอที่ยังพอใช้ได้ เขาจะยอมรับเธอมาดูแลได้ไง แต่นี่เธอยังกล้าไม่ไว้หน้าเขาอีกด้วย
จ้าวหงหลิงยืนอยู่ข้างๆ เหมือนจะพูดอะไรบางอย่าง แต่สุดท้าย…ครั้งนี้เธอไม่ได้ห้ามหลินเยียนไว้
ตอนนี้เธอเองยังเอาตัวไม่รอด พูดอะไรต่อหน้าเถ้าแก่ไม่ได้เลย ต่อให้หลินเยียนอยู่ฉี่ซิง เอนเตอร์เทนเมนต์ต่อไป เธอก็ปกป้องหลินเยียนไว้ไม่ได้แล้ว…
ตัวตัวเองก็น่าจะคิดได้ ก็เลยไม่ได้พูดอะไรอีก
แต่ว่ายกเลิกสัญญา…
แต่ว่าจำนวนเงินชดใช้ต่อการผิดสัญญาไม่ใช่น้อยๆ เลยนะ!
ขณะที่จ้าวหงหลิงกำลังกังวลอยู่ หลินเยียนขี้เกียจพูดอะไรกับพวกเขาต่อ โบกมือแล้วดึง
จ้าวหงหลิงและตัวตัวออกไป “พี่หลิง ไม่ต้องห่วงหน่า! ต่อให้ฟ้าจะถล่ม ก็ยังมีฉันอยู่ไงล่ะ!”
ยังมี…คุณท่านไงล่ะ
ตอนที่ 368 กลับมาร้องห่มร้องไห้อ้อนวอนฉัน
จ้าวหงหลิงให้ตัวตัวและหลินเยียนช่วยกันเก็บของแล้วออกมาจากบริษัททันที
อันเชี่ยนเชี่ยนมองไปตามทิศทางการจากไปของทั้งสามคน แล้วกระซิบอยู่ข้างๆ เกาจื้อเวย “พี่เวย ยัยหลินเยียนกล้าดียังไงพูดว่าจะยกเลิกสัญญากับบริษัท อย่าบอกว่าจ้าวหงหลิงหาคนหนุนหลังให้หล่อนได้ ไม่งั้นทำไมหล่อนยังกล้าทำตัวก๋ากั่นแบบนี้”
“ถ้าเป็นแบบนี้ งานเลี้ยงที่จะถึงนี่ทำไงดีล่ะคะ” อันเชี่ยนเชี่ยนพูดขึ้นด้วยความกังวล
เกาจื้อเวยที่อยู่ข้างๆ ได้ยินแล้วหัวเราะขึ้น “เชี่ยนเชี่ยน เธอไร้เดียงสาจริงๆ จ้าวหงหลิงไม่มีเจี่ยงซือเฟยก็เหมือนเสือไร้เขี้ยว ไม่มีประโยชน์อะไรเลย หล่อนจะมีปัญญาที่ไหนไปหาคนหนุนหลังให้หลินเยียน?
ส่วนหลินเยียน เป็นปฏิปักษ์ต่อเคเอส เอนเตอร์เทนเมนต์ ยังมีบริษัทที่ไหนกล้ารับเธอไว้ มีผู้จัดการคนไหนจะยอมดันเธอ? หลินซูหย่าคงอยากเห็นหล่อนยิ่งตกต่ำยิ่งดี! ชาตินี้หลินเยียนคงไม่มีทางดังได้แน่นอน!”
อันเชี่ยนเชี่ยนฟังมาถึงตรงนี้รู้สึกสบายใจขึ้นมาทันที เธอพยักหน้าด้วยความดีใจ “พี่เวยฉลาดจริงๆ เลย! ดีนะที่ฉันตามพี่เวยตั้งแต่แรก ไม่งั้นถ้าอยู่กับจ้าวหงหลิง ไม่รู้ว่าชาติไหนถึงจะสร้างชื่อเสียงได้!”
เกาจื้อเวยพูดขึ้นอย่างได้อกได้ใจ “เหอๆ รู้ไว้ก็ดี ถ้าเธอเชื่อฟัง เธอจะไม่ได้เป็นแค่เจ้าแม่แห่งฉี่ซิง เอนเตอร์เทนเมนต์ ในอนาคตเธอจะได้เป็นเจ้าแม่แห่งวงการบันเทิงด้วย! เธอรอดูได้เลย เดี๋ยวหลินเยียนต้องกลับมาร้องห่มร้องไห้อ้อนวอนฉันอยู่แล้ว!”
……
ในขณะเดียวกัน หลินเยียนและตัวตัวมาถึงที่พักของจ้าวหงหลิง
ตัวตัวไม่ได้พูดอะไรตลอดทาง เธอนั่งหงอยอยู่บนโซฟา
“พี่หลิง ตอนนี้จะทำยังไงดีล่ะ คุณตู้ไม่เห็นแก่อดีต ฟังแค่เจ้าเกาจื้อเวยและอันเชี่ยนเชี่ยนนั่น! ทำงานไม่เป็นด้วยซ้ำ รู้แค่ว่าเข้ามาตีสนิท ยังกล้าเอาพี่ไปเป็นผู้ช่วยเขาอีกเหรอ ต้องหน้าด้านแค่ไหนเนี่ย” ตัวตัวยิ่งคิดยิ่งโมโหแทนจ้าวหงหลิง
จ้าวหงหลิงถอนหายใจ “ถ้าตอนนี้ไม่ยอมรับข้อเสนอของเขาก็ต้องออกมาจากบริษัทแล้วล่ะ”
หลินเยียนฟังมาถึงตรงนี้ มองไปทางจ้าวหงหลิง พยายามจะเกริ่นเข้าประเด็น “พี่หลิง จริงๆ เมื่อกี้ฉันอยากพูดมานานแล้ว ด้วยความสามารถของพี่ จะไปไหนก็ได้! ทำไมต้องอยู่ที่ฉี่ซิง เอนเตอร์เทนเมนต์ต่อล่ะ ไม่ได้โชว์ของดีเลยนะ!”
หลินเยียนพูดไปด้วยคิดไปด้วยว่าจะพูดกับจ้าวหงหลิงเรื่องไปพินนาเคิล เอนเตอร์เทนเมนต์ยังไง
จ้าวหงหลิงได้ยินแล้วยิ้มเก้ๆ กังๆ แล้วพูดขึ้น “หลินเยียน เรื่องบางเรื่องไม่ได้ง่ายๆ แบบนั้น”
ฟังคำพูดของจ้าวหงหลิงแล้ว เหมือนจะมีอะไรปิดบังไว้อยู่
ตัวตัวเหลือบมองหลินเยียนแล้วพลางพูดขึ้น “พี่เยียนเพิ่งมาที่บริษัทได้ไม่นาน คงจะไม่ค่อยรู้เรื่องเท่าไหร่ ตู้เผิงเซิ่งเป็นคนนิสัยไม่ดี สำหรับคนที่จะออกไปจากฉี่ซิง ไม่ว่าจะเป็นศิลปินหรือผู้จัดการล้วนแต่จะโดนเขาใส่ร้ายป้ายสี! ทำให้บริษัทอื่นไม่กล้ารับเข้าไว้! เจี่ยงซือเฟยที่เคเอสเอนเตอร์เทนเมนต์ดึงตัวไปถือว่าเป็นกรณียกเว้น! เธอมีคนหนุนหลังให้ ตู้เผิงเซิ่งถึงไม่กล้ายุ่งกับเธอ!”
ตัวตัวพูดเสริมต่อ “แน่นอนว่าพี่โดนแอนตี้ซะขนาดนี้แล้วคงไม่ต้องห่วงอะไรอีก แค่กลัวว่าพวกเขาจะไม่ยอมปล่อยพี่หลิงไปด้วย”
หลินเยียน “…” ถึงตอนนี้แล้วยังไม่ลืมเหน็บแนมอีกเหรอเนี่ย
“อื้ม พูดได้สมเหตุสมผล งั้นฉันก็ไม่ต้องกลัวพวกเขาแล้วน่ะสิ!” หลินเยียนเอ่ยปากขึ้น
จ้าวหงหลิงส่ายหน้าแล้วพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงกังวล “หลินเยียน เรื่องไม่ได้ง่ายเหมือนที่เธอคิด ตอนนี้เธออยู่ในสภาพกึ่งโดนแบน หลังจากยกเลิกสัญญาไปแล้ว หนทางจะยากขึ้นกว่าเดิม ไม่มีบริษัทไหนยอมรับเธอเข้าไปหรอก ส่วนสถานการณ์ของฉันก็จะเอาตัวเองไม่รอดอยู่แล้ว ฉันคงจะช่วยอะไรเธอไม่ได้แล้วสินะ…”