วันเบาๆ ของมือเก๋าจากต่างโลก 0014
บทที่ 6 ฉันจะสอนให้รู้จักต่างโลกเอง (3)
* * *
จองจีฮุนที่กำมือลงบนด้ามจับประตู เกิดความลังเลชั่วขณะ
‘ถ้าบุ่มบ่ามเข้าไป มีหวังโดนโจมตีแน่’
ไม่มีทางรู้เลยว่าข้างในเกิดอะไรขึ้นบ้าง เหตุการณ์ดำเนินไปในทิศทางที่ไม่ได้ถูกจำลองไว้ล่วงหน้า
เมื่อผิดแผนโดยสิ้นเชิง หลังจากเค้นสมองไตร่ตรอง จองจีฮุนตัดสินใจเปิดเผยตัวตนอย่างซื่อตรง
“ผมคือหัวหน้าแผนกยุทธศาสตร์ของ OWIC ทางเราไม่มีเจตนาทำร้ายคุณคังซอนฮู ได้โปรดอย่าเข้าใจผิด”
“เข้ามาสิ”
หลังจากประเมินว่าตนถ่ายทอดข้อมูลเพียงพอแล้ว จองจีฮุนเปิดประตูด้วยความระมัดระวัง
“สุภาพกับเป้าหมายให้มากที่สุด”
มันไม่ลืมหันไปกำชับเจ้าหน้าที่ด้านหลัง
แอ๊ด~
เมื่อเปิดประตู จองจีฮุนได้เห็นฉากด้านใน
“อา…”
ไม่ห่างจากหลังประตู ชายลึกลับสามคนที่บุกเข้ามา กำลังนอนครวญครางอยู่บนพื้น
เห็นภาพดังกล่าว จองจีฮุนค่อยๆ เดินเข้าไปในกระท่อม
“แรงสั่นสะเทือนที่ประตู เกิดจากอะไรกันแน่?”
มันเคยคิดว่ามีบางสิ่งกระแทกประตูอย่างแรง เช่นการชกหรือขว้างปาสิ่งของใส่
ตัดการชกไปได้เลย คังซอนฮูอยู่ไกลเกินไป และหน้าประตูไม่มีวัตถุใดหล่นจากการขว้าง
“…?”
หลังจากชำเลืองตรวจสอบอาวุธในมือคังซอนฮู จองจีฮุนอดไม่ได้ที่จะสับสน
สายตาของมันเลื่อนขึ้นมาจ้องหน้าเจ้าของบ้าน
ในท่าไขว่ห้าง คังซอนฮูกำลังนั่งบนเก้าอี้ ถือกระถางดอกไม้พลางจ้องหน้าผู้มาเยือนรายใหม่
“…ทุกคนหันไปทางอื่น!”
ดอกไม้ที่คังซอนฮูกำลังถือ คือสิ่งที่ห้ามมองด้วยตาเปล่า
วัตถุก่ออาการทางจิตระดับ C ไนท์แมร์รูต (Nightmare Root)
หากจ้องไปที่แสงจากกลีบดอก ผู้จ้องจะเห็นภาพหลอนและฝันร้าย อาจหมดสติหรือคลุ้มคลั่งตามแต่ละบุคคล
อย่างไรก็ดี ดอกไม้ชนิดนี้จะออกฤทธิ์แค่ตอนกลางคืน และหลีกเลี่ยงได้ไม่ยากแค่รีบเบือนหน้าหนี
กล่าวคือ ถ้ารู้ว่ามันคืออะไรก็ไม่ใช่ปัญหา
แต่ปัญหาอยู่ตรงที่ วัตถุชนิดนี้เพิ่งถูกค้นพบได้ไม่นาน แม้แต่ OWIC ก็ยังวิจัยได้ไม่ถึงสัปดาห์
หากไม่ใช่เบื้องบนของบริษัทหรือองค์กรใหญ่ คนส่วนมากจะยังเข้าไม่ถึงข้อมูล
พิจารณาจากปัจจัยข้างต้น มีโอกาสสูงที่คังซอนฮูกำลังเห็นภาพหลอน
จนถึงเมื่อครู่ เขาพูดกับตัวเองเพราะภาพหลอน?
ทำยังไงดี? พาเขากลับไปรักษาตัวที่บริษัท?
‘ถ้าทำแบบนั้น เราจะบรรลุเป้าหมายในการสร้างหนี้บุญคุณ…’
ขณะกำลังครุ่นคิด
“…ดูเหมือนว่านายจะไม่รู้อะไรเลยสินะ”
ได้ยินเช่นนั้น จองจีฮุนรีบจ้องหน้าอีกฝ่าย และพบว่าคังซอนฮูดูไม่เหมือนคนเห็นภาพหลอน
และไนท์แมร์รูตที่กำลังถืออยู่ในมือ
“สีฟ้า…”
ดอกไม้ที่จะเปล่งแสงสีเขียวน่าขนลุกยามค่ำคืน ปัจจุบันกำลังส่องแสงสีฟ้าอบอุ่น
จองจีฮุนเพิ่งตระหนักได้เมื่อสาย ไนท์แมร์รูตมิได้ทำให้ตนประสาทหลอน
ตรงกันข้าม ยิ่งจ้องมอง ความสับสนก็ยิ่งถูกบำบัด มันรู้สึกสบายใจอย่างบอกไม่ถูก
คังซอนฮูผู้ก้มหน้ามองกระถางดอกไม้อย่างเงียบงัน ใช้มือข้างหนึ่งป้องดอกไม้ ราวกับประคบประหงมเทียนไขท่ามกลางลมพายุ
— โมห์สmohs
เสียงแผ่วเบาจนไม่มีใครได้ยิน จองจีฮุนจึงไม่ได้เอะใจ
ลูกไฟกลุ่มหนึ่งโผล่ขึ้นรอบๆ ดอกไม้
ซ่า—
ประหนึ่งราดไวน์ลงบนกระทะร้อนฉ่า กลุ่มเปลวไฟลุกท่วมดอกไม้จนแสงสีฟ้าทวีความเข้มข้น
ไฟมาจากไหน? กระท่อมหลังนี้มืดจนเราคลาดสายตา?
มันครุ่นคิดหลายสิ่ง แต่นั่นยังไม่ใช่ประเด็นสำคัญ
ประเด็นสำคัญก็คือ ในขณะที่ OWIC ยังมืดแปดด้าน คังซอนฮูรู้วิธีรับมือไนท์แมร์รูต
ถึงจะยังไม่ทราบวิธีแน่ชัด แต่การที่อีกฝ่ายนั่งจ้องกลีบดอกด้วยตาเปล่าโดยไม่เห็นภาพหลอน คือเครื่องยืนยันข้อเท็จจริงข้างต้น
“…”
ถึงตรงนี้ จองจีฮุนเริ่มเชื่อว่าสมมติฐานของโกซึงทักนั้นผิด
คังซอนฮูไม่ใช่คนธรรมดาที่เอาตัวรอดในต่างโลกได้นานสองปี
ชายคนนี้เรียนรู้ต่างโลกอย่างทะลุปรุโปร่งเพื่อต่อสู้กับความสิ้นหวัง และกลายเป็นผู้รอดชีวิตในตอนสุดท้าย
กล่าวอีกนัยหนึ่ง คังซอนฮูเข้าใจต่างโลกมากพอที่จะดำรงชีวิตในทุกสถานการณ์
แม้จะมีหลายสิ่งเกิดขึ้น แต่เวลาเพิ่งผ่านไปไม่ถึงหนึ่งนาที
ในที่สุด คังซอนฮูเปิดปาก
“นี่”
“อ๊ะ! ครับ! ผมชื่อจองจีฮุน”
“บริษัทรู้จักดอกไม้นี้มากแค่ไหน”
“จากการศึกษา ทราบเพียงว่ามันจะปล่อยคลื่นหลอนประสาทในตอนกลางคืน แต่ทางเราเพิ่งค้นพบดอกไม้ชนิดนี้ได้ไม่ถึงหนึ่งสัปดาห์…”
คังซอนฮูพยักหน้ารับ ก่อนจะกลับไปมองดอกไม้โดยไม่พูดอะไร
จองจีฮุนกลืนน้ำลายอึกใหญ่ เพราะสายตาคังซอนฮูที่ชำเลืองมาเมื่อครู่ คล้ายกับกำลัง ‘เหยียดหยัน’ ชัดเจน
ที่ทำแค่พยักหน้า ก็เพราะไม่อยากเสียเวลาพูดทำนองว่า ‘ไหนว่าเป็นบริษัทวิจัยต่างโลกอันดับหนึ่งในเกาหลี? เรื่องแค่นี้ก็ไม่รู้หรือ? นี่มันความรู้ระดับพื้นฐานเลยนะ’ หรืออะไรทำนองนั้น
“คงเหนื่อยแย่เลยนะ”
“ผมดีใจที่คุณไม่ได้เข้าใจพวกเราผิด ทางเราได้รับรายงานว่าคุณคังซอนฮูกำลังจะถูกจู่โจม ทาง OWIC จึงส่งทีม QRT…”
เมื่อสบโอกาสทอง จองจีฮุนรีบงัดคำพูดที่เตรียมไว้ออกมา
ทว่า
“แล้วทำไม… ในตอนที่ฉันถูกจู่โจม พวกนายถึงเอาแต่ดู?”
“ระ…เรื่องนั้น…”
“ก่อนที่พระอาทิตย์จะตกดิน ทีมของนายมาถึงก่อนพวกฮาวนด์… ฉันพูดไม่ผิดใช่ไหม?”
จองจีฮุนกระจ่างทันที ปฏิบัติการนี้ไม่มีทางสำเร็จตั้งแต่ต้น อีกฝ่ายอยู่นอกเหนือความคาดหมายเกินไป
โชคดีที่คังซอนฮูไม่ใช่พวกอารมณ์ร้าย
“กลับไปเถอะ ก็ตามที่ได้ยิน ฉันไม่อยากเข้าไปพัวพันกับการละเล่นเด็กน้อย… เข้าใจใช่ไหม?”
“ครับ เข้าใจ”
“อย่าลืมกำชับให้เบื้องบนเข้าใจด้วย แล้วก็… อย่าลืมพาไอ้ขยะพวกนี้กลับไปจัดการ”
“จัดการ… คุณหมายถึง?”
“ขึ้นอยู่กับผลลัพธ์การจัดการ บางทีฉันอาจยอมใจอ่อน”
จองจีฮุนเชื่อว่านี่คือ ‘ข้อเสนอ’ ของคังซอนฮู
ความนัยที่แฝงมาด้วยก็คือ หาก OWIC จัดการกับเรื่องนี้ได้ดี อีกฝ่ายอาจยอมให้ความร่วมมือ
ถ้าเป็นเช่นนั้นจริง ยังเร็วเกินไปที่จะยอมแพ้
ฉวยโอกาสดังกล่าว จองจีฮุนหยิบนามบัตรยื่นให้คังซอนฮู
“ทางเราจะจัดการกับฮาวนด์พวกนี้เป็นอย่างดี นอกจากนั้น ผมขอรับปากว่าจะไม่ทำให้คุณคังซอนฮูรู้สึกรำคาญใจอีก”
“ถ้าทำได้จริงจะซึ้งใจมาก”
จองจีฮุนโค้งศีรษะให้คังซอนฮูที่ยื่นแขนมารับนามบัตร
“ทางเราขออภัยกับสิ่งที่เกิดขึ้นในวันนี้ และหวังว่าจะได้สานสัมพันธ์กับคุณซอนฮูในอนาคต”
คังซอนฮูพยักหน้า
“จริงสิ ผมมีคำถาม”
“ได้ครับ ถามได้ทุกเรื่อง”
“พวกคุณค้นพบดอกไม้นี้ที่ไหน”
“รอบนอกป่าเบอร์มิวด้า ทางบริษัทคาดว่า ภายในป่าอาจมีมากกว่านี้”
“ป่าเบอร์มิวด้า…”
ถัดมา จองจีฮุนสั่งให้ลูกน้องรวบตัวฮาวนด์ที่นอนครวญครางอยู่บนพื้น ก่อนจะหันหลังกลับพลางครุ่นคิด
‘เท่านี้ก็พอแล้ว ปฏิบัติการสำเร็จครึ่งหนึ่ง’
ปฏิบัติการสร้างหนี้บุญล้มเหลวโดยสิ้นเชิง แต่นั่นก็ไม่ใช่สิ่งที่จะทำสำเร็จตั้งแต่แรก
มันจึงต้องเปลี่ยนความคิด อันดับแรก จองจีฮุนมองว่าตนควรแสดงความจริงใจกับคังซอนฮู เพื่อให้อีกฝ่ายเปิดใจกับ OWIC
แม้จะมีบรรยากาศน่าขนลุก แต่คังซอนฮูก็ไม่ใช่คนปิดกั้นตัวเอง
พวกมันบรรจงปิดประตูกระท่อมอย่างเบามือ
คังซอนฮูมองตามหลัง มุมปากสั่นระริกประหนึ่งกำลังกลั้นขำสุดชีวิต
* * *
“ล้มเหลว…”
หลังจากได้ยินข่าวว่าลูกน้องสามคนถูก OWIC จับตัวไป ซอจีอาเล่นฝาปากกาพลางเหยียดขาพาดบนโต๊ะ
“ผมไม่มีข้อแก้ตัว”
“ไม่ใช่ความผิดของนาย ฉันผิดเองที่มอบโอกาสให้พวกขยะ”
ซอจีอาแทบไม่แสดงอารมณ์ เธอเป็นคนใจเย็นในทุกสถานการณ์ แทบไม่มีสิ่งใดทำให้ตื่นเต้นได้
อาจมีบางครั้งที่เธอโมโห แต่เมื่อลองย้อนนึกกลับไป นั่นก็ยังอยู่ในการคำนวณ
“พวกโง่สามคนที่ส่งไป คว้าน้ำเหลวโดนสิ้นเชิงเลยหรือ? ฮาวนด์สามคนถูกไอ้หน้าใหม่ที่เพิ่งได้รับใบอนุญาตจัดการได้ยังไง?”
“จริงสิ…”
คล้ายกับเพิ่งนึกออก ลูกน้องที่กำลังรายงาน นำเศษกระดาษที่ถูกขยำออกจากกระเป๋าเสื้อและบรรจงวางลงบนโต๊ะทำงาน
“…จะให้ฉันช่วยทิ้งขยะแทนรึไง?”
“ม…ไม่ใช่ขยะครับ เป็นโน้ตที่หนึ่งในผู้ถูกจับกุมแอบส่งให้”
“โน้ตอะไร?”
“จากที่ได้ยิน หมอนั่นเองก็ไม่ทราบ เมื่อได้สติกลับมา โน้ตก็อยู่ในกระเป๋าเสื้อแล้ว… ดูเหมือนจะเป็นของสำคัญ”
จากนั้น ซอจีอาที่เริ่มให้ความสนใจ ทยอยคลี่กระดาษโน้ตยับยู่ยี่ทีละแผ่น
มองผิวเผินก็ทราบได้ทันทีว่า โน้ตเหล่านี้คือเศษกระดาษสิบแผ่น ที่ถูกฉีกมาจากแผ่นใหญ่หนึ่งแผ่น
แต่ละชิ้นมี ‘รูปทรง’ ที่เป็นเอกลักษณ์
ดูเหมือนกับชิ้นส่วนพัซเซิล (Puzzle)
“…พัซเซิล?”
ซอจีอาที่สนใจยิ่งกว่าเดิม บรรจงคลี่กระดาษและนำแต่ละชิ้นมาประกอบกัน
ใช้เวลาไม่นานเพราะมีจำนวนชิ้นไม่มาก
กระดาษทั้งสิบแผ่นถูกประกอบเข้าด้วยกันอย่างรวดเร็ว
“…วงแหวนเวท?”
ลูกน้องที่ยืนมองพูดขึ้น ซอจีอาก็คิดแบบเดียวกัน
ในอีกแง่หนึ่ง อักขระของวงแหวนเวทดูคล้ายข้อความหรือประโยค แต่ไม่มีใครเข้าใจความหมาย
หากจะมีสิ่งใดพิเศษ ก็คงเป็นพัซเซิลแผ่นใจกลางที่มีรูปร่างคล้ายเปลวไฟ
『Fartaso. mohstes』
ซอจีอาไม่รู้ว่านี่คือภาษารูน
และไม่ทราบว่าภาษารูนมีพลังในตัวเอง
เพียงพริบตา เปลวไฟลุกไหม้จากกระดาษ ก่อนจะลามไปทั่วห้องทำงานประหนึ่งฝูงตั๊กแตนบุกนาข้าว
“ท…ท่านประธาน! เฮ้! ใครก็ได้เอาถังดับเพลิงมาเร็วเข้า!”
ซ่า—
ซอจีอาที่เนื้อตัวเปียกปอนไปด้วยน้ำสกปรกจากสปริงเกอร์และถังดับเพลิง กะพริบตาถี่ขณะยืนจ้องเศษกระดาษไหม้
“ไปจับตัวไอ้ระยำที่ส่งกระดาษแผ่นนี้มา”
“แต่ว่าตอนนี้เขา…”
“ไปจับมันมา”
* * *
ลิลี่ที่ซ่อนตัวในห้องมาสักพัก ค่อยๆ โผล่หน้าอย่างระมัดระวัง
เธอเดินไปเก็บกองผ้าที่ร่วงลงมาจากชั้นวาง เดิมที พวกมันจะถูกใช้เป็นผ้าห่ม แต่ภายใต้สภาพแวดล้อมมืดสลัว ดูเหมือนฮาวนด์จะเข้าใจผิดคิดว่าเป็นคนกำลังนอน
ช่างเถอะ ตอนนี้ไม่สำคัญอีกแล้ว
สิ่งสำคัญคือดอกไม้
“มนุษย์ไม่รู้อะไรเลยจริงๆ”
ลิลี่ที่จ้องหน้าฉัน เอียงคอเล็กน้อยด้วยความฉงน คล้ายกับสงสัยว่าทำไมฉันถึงตื่นเต้น ทั้งที่เมื่อครู่เพิ่งจะหงุดหงิด
ใช่แล้ว เมื่อครู่ฉันกำลังหงุดหงิดสุดขีด
ฮาวนด์เป็นพวกระยำของแท้ ตอนแรกได้ยินแค่ข่าวลือ แต่ตอนนี้เข้าใจเหตุผลแล้ว
อย่างไรก็ดี ถึงแม้พวกมันจะน่ารำคาญราวกับยุง แต่ก็ยังไม่มีปัญญาขัดขวางงานของฉัน
ตรงกันข้าม พวกมันยังเป็นฝ่ายมอบดอกไม้ล้ำค่าเป็นของขวัญ
“…เยี่ยมเลย”
เพราะดอกไม้ชนิดนี้ คือหนึ่งในปัจจัยสำคัญของนักสำรวจ
โชคดีที่วัสดุก่อสร้างห้องทดลอง ถูกส่งมาถึงตั้งแต่หลายวันก่อน
มนุษย์ไม่ค่อยมีความรู้เกี่ยวกับต่างโลก?
นั่นเป็นผลดีกับฉัน มนุษย์ไม่รู้คุณค่าที่แท้จริงของดอกไม้และใช้มันเป็นแค่ยาสลบ ฉันอดสมเพชไม่ได้
นี่ไม่ใช่เวลานอน และฉันยังไม่ง่วงเลยสักนิด
ความเคลื่อนไหวแรกเริ่มขึ้นแล้ว
* * *
สามวันให้หลัง ชาโซฮีแวะมาที่กระท่อม
“หือ…”
หลังจากพบความเปลี่ยนแปลงภายในกระท่อมคังซอนฮู ชาโซฮีถึงกับพูดไม่ออก
“นายไม่ได้คิดจะเป็นนักสำรวจหรอกหรือ? เปลี่ยนใจมาเป็นนักแปรธาตุแล้ว?”
บีเกอร์ ขวดทดลอง และอุปกรณ์ทำความร้อนอีกหลายชนิด
เป็นกลุ่มเครื่องมือที่ไม่เข้ากับ ‘กิลด์นักสำรวจ’ เลยสักนิด
คังซอนฮูพูดราวกับเป็นเรื่องปรกติ
“เพราะฉันคือนักสำรวจ ไม่ใช่นักท่องเที่ยว การสำรวจคือการศึกษาและวิเคราะห์ผลลัพธ์”
“ก็เคยได้ยินมาบ้าง… ว่าแต่ พวกนายสนิทกันตั้งแต่เมื่อไร?”
ขณะกำลังประกอบฐานวานบีเกอร์ซึ่งอยู่ในตำแหน่งค่อนข้างสูง ลิลี่ช่วยถือบีเกอร์ด้วยมือทั้งสองข้าง
“พวกเราคุยกันไม่รู้เรื่อง สื่อสารได้แค่ภาษากาย ฉันเองก็แปลกว่าทำไมเธอถึงให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี”
“เธอชอบนายรึเปล่า? หรือว่าดูน่าอร่อย?”
“แม้แวมไพร์จะไม่ใช่เผ่าพันธุ์นิสัยเสีย แต่ส่วนมากจะหัวสูง โดยธรรมชาติแล้วจะไม่ร่วมมือกับมนุษย์… ฉันก็ไม่เคยเห็นอะไรแบบนี้มาก่อน”
“ฝั่งที่แปลกคือนายต่างหาก ไปสนิทกับแวมไพร์ได้ยังไง? ตอนที่เห็นเธอครั้งแรก ฉันถึงกับเผลอแหกปากดังลั่น เพราะนึกว่าเธอจะพุ่งเข้ามากัดคอ”
“แวมไพร์ไม่จำเป็นต้องเหมือนกันทุกตัว อย่าเสียมารยาทกับเธอ”
“จ้าจ้า~”
คังซอนฮูแสร้งทำเป็นไม่ได้ยิน เพียงสนใจของเหลวที่กำลังหยดลงบีเกอร์
ในเวลาเดียวกัน ชาโซฮีเพิ่งตระหนักได้ว่าของเหลวดังกล่าวถูกสกัดจากดอกไม้สีขาว ที่เธอได้รับเป็นของขวัญเมื่อสามวันก่อน
หยดของเหลวค่อยๆ ทิ้งตัวลงบนใบไม้แห้ง
คังซอนฮูม้วนใบไม้แห้งด้วยกระดาษ และนำขึ้นมาวางบนมืออย่างระมัดระวัง
“ตัวอย่างแรกเสร็จแล้ว”
“มันคือ?”
“สิ่งจำเป็นสำหรับการสำรวจเต็มรูปแบบ แต่ฉันต้องทดสอบก่อน”
“…นายไปเรียนเรื่องพวกนี้มาจากไหน?”
“สมัยยังอยู่ในเมืองต่างโลก ฉันแอบครูพักลักจำมา… จำได้แม่นเพราะเขียนไว้ในสมุดบันทึก”
คังซอนฮูใช้ริมฝีปากงับ ‘บุหรี่’ ตัวอย่าง
ขณะเห็นอีกฝ่ายซึ่งไม่เคยสูบบุหรี่เลยในชีวิต ทำท่าทางดังกล่าว ชาโซฮีอดไม่ได้ที่จะรู้สึกประหลาด
ในเวลาเดียวกัน เส้นผมของชายหนุ่มค่อยๆ เปลี่ยนเป็นสีขาว
“โมห์สmohs”
คังซอนฮูพึมพำถ้อยคำที่ลิ้นและปากมนุษย์ออกเสียงไม่ได้
พรึบ—
เปลวไฟลุกไหม้ปลายบุหรี่
คังซอนฮูบรรจงสูดลมหายใจยาว
ยังไม่ทันที่ชาโซฮีจะถามว่าเกิดอะไรขึ้น
ฟ้าว—
ท่ามกลางสายลมกระโชก ร่างคังซอนฮูอันตรธานหายไป