ข่าวลือยังคงแพร่สะพัดว่าหวงฝู่ซั่วเป็นพระเอกของเรื่อง ‘หวงเฟยยอดสตรี’ แน่นอนว่าเขายิ่งกว่ายินดีเสียอีกที่จะแสร้งรับบทนี้ เพราะถึงยังไงกองถ่ายทำก็ไม่มีความคิดที่จะเปิดเผยพระเอกตัวจริงและปิดปากเงียบสนิท
เนื่องจากไห่รุ่ยมีสตูดิโอถ่ายทำอยู่หลายแห่ง จึงไม่ใช่เรื่องยากที่จะเก็บทุกอย่างไว้เป็นความลับ ดังนั้นในระหว่างที่ไห่รุ่ยไม่ได้ทำการโปรโมทหรืองานอีเว้นท์อื่น หวงฝู่ซั่วจึงทำหน้าที่โปรโมตให้กับ ‘หวงเฟยยอดสตรี’ ไปโดยปริยาย
หวงฝู่ซั่วยังคงรายล้อมไปด้วยสาวๆ มากมายแม้เขาจะเซ็นสัญญากับ ‘หวงเฟยยอดสตรี’ แล้วก็ตาม เขามักจะแยกเรื่องงานออกจากเรื่องส่วนตัวอย่างชัดเจนเสมอ ดังนั้นเมื่อรวมกับเรื่องที่เขาเพิ่งจะสร้างความขุ่นเคืองให้ไป๋อวี๋แล้ว เขาจึงอยู่ในอารมณ์ดีแบบสุดๆ ส่งผลให้เมื่อไหร่ก็ตามที่นักข่าวพยายามจะสัมภาษณ์เขา เขาจึงแทบไม่พูดถึง ‘หวงเฟยยอดสตรี’ เลย นี่เป็นวิธีที่เขาใช้แสดงความรับผิดชอบในฐานะนักแสดงและเป็นการแสดงความซาบซึ้งใจที่เขามีต่อโม่ถิงที่ให้โอกาสเขาได้สร้างความอับอายแก่ไป๋อวี๋
อันที่จริง หลังจากที่ไห่รุ่ยประกาศว่าหวงฝู่ซั่วจะร่วมงานกับละครเรื่องนี้ ก็ผ่านมาเป็นเวลาหนึ่งเดือนแล้ว แต่เขาก็ยังไม่เห็นวี่แววของนักแสดงบทพระเอกเลย
เพราะการถ่ายทำในช่วงวันแรกๆ เน้นไปที่ฉากของบรรดาตัวประกอบ…
แม้แต่ถังหนิงเองก็ยังไม่เคยปรากฏตัวอย่างเป็นทางการในกองถ่ายเลยสักครั้ง อาจเป็นเพราะลูกทั้งสองของเธอซึ่งอยู่ที่บ้าน เธอจึงไม่ออกมาปรากฏตัวโดยไม่จำเป็น
แต่หวงฝู่ซั่วไม่ได้ใส่ใจ เขากลับค่อนข้างชอบตัวละครของเขาและสนุกกับการเข้าฉาก เสื้อคลุมลายมังกรสีเงินที่ถูกปักอย่างประณีตและมงกุฎหยกบนศีรษะทำให้เขาดูทรงอำนาจและดูเผด็จการจนน่าประทับใจ
เมื่อเทียบกับบทพระเอกแล้ว ตัวละครของเขานั้นเรียบง่ายกว่ามาก ไม่ต้องเกี่ยวข้องกับปัญหาและเรื่องยุ่งยากซับซ้อนมากมาย เขาไม่จำเป็นต้องแอบตกหลุมรักนางเอกและปกป้องบัลลังก์ของตัวเองในเวลาเดียวกัน หากมีคนแบบนี้อยู่จริงในโลกใบนี้ คนคนนั้นคงเหนื่อยน่าดู
…
ที่จริงแล้ว สองวันก่อนหน้าที่ถังหนิงจะมุ่งหน้าไปยังกองถ่าย เธอพยายามลองเชิงโม่ถิง แต่โม่ถิงไม่ยอมเปิดเผยข้อมูลอะไรเลย เขาเดินทางไปทำงานเหมือนทุกครั้งและดูแลเด็กๆ หลังจากกลับมาถึงบ้าน เขารู้จักวิธีควบคุมตัวเองได้เป็นอย่างดีจริงๆ …
“เพราะนี่เป็นทีมถ่ายทำของเราเอง เราเลยสามารถยืดหยุ่นได้ คุณจะกลับมาที่บ้านตอนกลางคืนแล้วให้แม่ของพวกเราดูแลเด็กๆ ระหว่างตอนกลางวันได้” โม่ถิงอธิบาย “ถ้าคุณเหนื่อยมากและอยากจะพักที่โรงแรมก็โทรบอกผม ผมจะจัดการให้”
“คุณแน่ใจนะคะว่าไม่มีอะไรจะบอกฉันจริงๆ” ถังหนิงถามเป็นครั้งสุดท้าย
“ผมดูเหมือนมีงั้นเหรอครับ” โม่ถิงก้มหัวลงและช่วยถังหนิงจัดกระเป๋าต่อ “การถ่ายทำคราวนี้จะถูกปิดเป็นความลับทั้งหมดและกองถ่ายจะถูกเก็บทุกครั้ง นักแสดงและทีมงานจะต้องเซ็นสัญญาเก็บความลับทั้งหมด คุณไม่จำเป็นต้องกังวลเรื่องอะไรทั้งนั้น”
“มีคุณอยู่ด้วยแล้วฉันยังต้องกังวลเรื่องอะไรอื่นอีกงั้นเหรอคะ” ถังหนิงรู้สึกผิดหวังเล็กน้อย
“อย่าคิดมากเลย รีบไปดูลูกๆ เถอะครับ คุณจะได้เข้านอน…”
ถังหนิงพยักหน้า เธอกลับมายังห้องนอนหลังอาบน้ำเสร็จ เพราะเธอต้องตื่นตั้งแต่เช้าในวันรุ่งขึ้น เธอจึงไม่อยากเสียเวลาอีกไม่เช่นนั้นเธอจะเหนื่อยล้าเกินไป แต่กระนั้น… หลังจากที่เธอหลับไปแล้ว โม่ถิงเดินทางออกจากบ้านมุ่งหน้าไปยังสตูดิโอถ่ายทำที่ไห่รุ่ยจัดเตรียมไว้
“ท่านประธาน ทุกอย่างถูกเตรียมไว้พร้อมแล้วครับ” ลู่เช่อและทีมงานคนอื่นๆ พร้อมอยู่แล้ว โดยเฉพาะช่างแต่งหน้าและช่างภาพ
“แต่งหน้าได้” โม่ถิงนั่งลงที่โต๊ะแต่งหน้า
“ท่านประธานโม่ดูดีมากๆ เลยค่ะ…” นี่เป็นครั้งแรกที่ช่างแต่งหน้าได้มีโอกาสเห็นโม่ถิงในระยะประชิดเช่นนี้ หลังจากมองดูใบหน้าอันหล่อเหลาของเขาแล้ว ไม่เพียงแค่เธอจะรู้สึกเขินอายเท่านั้น เธอยังไม่อาจควบคุมตัวเองไม่ได้พูดชื่นชมอีกฝ่ายได้
“ตั้งใจทำงาน” โม่ถิงสั่งด้วยน้ำเสียงเย็นชา
ช่างแต่งหน้าคนนั้นพยักหน้าพลางบรรจงวางมงกุฎหยกขาวลงบนศีรษะของโม่ถิง ควบคู่กับชุดเกราะเงินบนร่างกาย ด้วยการมองเพียงครั้ยงเดียวประกอบกับรูปลักษณ์ราวกษัตริย์ก็เพียงพอที่จะทำให้ใครต่อใครถึงกับตาพร่ามัวได้แล้ว อันที่จริงแม้แต่ช่างภาพก็ยังลืมว่าตัวเองกำลังถือกล้องอยู่ในมือจนเผลอทำหล่นลงบนเท้าของตัวเอง
“แน่นอนครับ ทันทีที่ท่านประธานเคลื่อนไหว ก็ไม่ใช่ธุระที่นักแสดงหน้าไหนจะมาอยู่ที่นี่อีกแล้ว” ลู่เช่อพยักหน้าเห็นด้วยอย่างมาก
โม่ถิงอยู่ในชุดเกราะเต็มตัวเพราะตัวละครของเขากำลังจะมุ่งหน้าไปยังสนามรบเพื่อนางเอก และเหล่าผู้หญิงมักจะตกหลุมรักชายหนุ่มเมื่อพวกเขาดูเป็นฮีโร่แบบนี้ โดยเฉพาะเมื่อชายคนนั้นดูราวกับราชาเฉกเช่นโม่ถิง หากเขามีตัวตนอยู่จริงในยุคโบราณ ใบหน้าของคนจะต้องเปลี่ยนแปลงโลกได้โดยสิ้นเชิงเป็นแน่
“เขาหล่อมาก! เขาหล่อสุดๆ เลย!”
“ทั้งรูปหน้า ริมฝีปาก จมูก คิ้ว… มันเจิดจรัสไปหมด”
ค่ำคืนนี้พวกเขาเพียงแค่ถ่ายทำรูปสำหรับโปรโมตเท่านั้น แต่ช่างภาพไม่อาจหยุดถ่ายได้ เมื่อได้พบสิ่งที่งดงาม คนเรามักจะไม่อาจควบคุมตัวเองไม่ได้อยากเห็นสิ่งนั้นต่อไปเรื่อยๆ ได้
หลังจากนั้น โม่ถิงก็เปลี่ยนไปอยู่ในชุดจักรพรรดิ…
ทีมงานบางส่วนหลบอยู่ที่มุมห้องด้วยความตื่นเต้น “พระเจ้าช่วย โลกนี้มีผู้ชายที่เกิดมาทั้งดูเย็นชาและเซ็กซี่อย่างท่านประธานโม่ได้ยังไงกันนะ ทันทีที่เขาสวมชุดจักรพรรดิ ฉันรู้สึกอยากจะเป็นหนึ่งในบรรดาสนมของเขาทันทีเลย”
“ให้ตายสิ ฉันไม่อยากจะเชื่อเลยว่าเราไม่สามารถถ่ายรูปเขาแล้วแชร์ให้คนทั้งโลกเห็นได้ น่าเสียดายที่สุด!”
“รอจนกว่ารูปเซตโปรโมตจะได้รับการเผยแพร่ก่อนเถอะ ผู้ชายทุกคนในปักกิ่งจะต้องรู้สึกเป็นรองแน่ๆ”
“แหงละ! พระเจ้า ฉันตื่นเต้นเป็นบ้าแล้ว ฉันอยากรู้จังว่าถ้าถังหนิงเห็นแล้วจะเกิดอะไรขึ้น”
แน่นอนว่าถังหนิงยังไม่ได้เห็นรูปพวกนี้…
ในขณะนั้น เธอกำลังหลับใหลอยู่ที่บ้าน
เช้าวันต่อมา โม่ถิงตื่นขึ้นราวกับเขาลืมเรื่องการถ่ายภาพที่สตูดิโอเมื่อคืนไปจนหมดสิ้น หลังจากเตรียมตัวไปทำงาน เขาก็พาถังหนิงมาส่งที่กองถ่าย
“ถ้าคุณคิดถึงผม ก็โทรหาผมนะ” โม่ถิงย้ำเตือนอีกฝ่ายด้วยความเป็นห่วงเป็นใยตามปกติ จากนั้นก็ตรวจดูทุกอย่างในกองถ่ายก่อนจะเดินทางออกไป
ก่อนช่วงเช้าของวันนั้น ผู้กำกับเฉินเฟิ่งได้รับภาพถ่ายสำหรับการโปรโมต ในเวลานั้นเขาถึงกับอึ้งเกินบรรยาย แต่เขารู้ดีว่าเขาต้องเก็บเรื่องนี้เป็นความลับโดยที่โม่ถิงไม่จำเป็นต้องพูดอะไร เขารู้ดีว่าทุกอย่างจะได้รับการเปิดเผยในที่สุดอยู่แล้ว
“ผู้กำกับเฉินครับ พระเอกของเราอยู่ไหนเหรอ เมื่อไหร่เขาถึงจะมาที่กองถ่าย” หนึ่งในบรรดานักแสดงตัวประกอบถามขึ้น “แม้แต่ถังหนิงยังมาถึงแล้วเลย พระเอกคนนี้จะหยิ่งไปถึงไหนกันนะ”
“คนแสดงเป็นพระเอกจะไม่มาที่กองถ่ายในตอนนี้เพราะตารางงานแน่นมาก เราจะถ่ายฉากประกอบอื่นๆ และไม่เสียเวลาอีกแล้ว” ผู้กำกับเฉินอธิบายเพื่อลดความกังวลของทุกคน
“ก็ดีครับ โชคดีที่ถังหนิงอยู่ที่นี่ ว่าแต่พวกเราไม่เคยเห็นเธอในชุดย้อนยุคมาก่อนเลย! ‘ชายาหนิง’ กำลังจะถ่ายทำเสร็จแล้ว บรรดาแฟนคลับต่างพากันชมว่าไม่เป็นสองรองใคร ผมเป็นคนเดียวหรือเปล่าก็ไม่รู้ที่รู้สึกว่า ‘ใครบางคน’ อาศัยอยู่อเมริกามานานเกินไปจนดูไม่ค่อยเหมาะเท่าไหร่”
“เดี๋ยวนายก็ได้เห็นเองนั่นแหละ” เฉินเฟิ่งยิ้ม
อันที่จริง รูปลักษณ์ของถังหนิงเข้ากับชุดแนวย้อนยุคได้เป็นอย่างดี เธอทั้งสูง สง่าและดูสงบนิ่ง จนบรรดาทีมงานต่างเชื่อมั่นในตัวเธอ เธอเพียงแต่สวมชุดเท่านั้น ไป๋อวี๋ก็ดูเป็นรองไปในทันที
เวลาบ่ายของวันที่ถังหนิงเดินทางมาถึงกองถ่าย บรรดาทีมช่างแต่งหน้าได้เปลี่ยนรูปโฉมของเธอไปหลายครั้ง
ส่งผลให้ถังหนิงใช้เวลาทั้งบ่ายอยู่ในห้องพักนักแสดง
รูปลักษณ์ของถังหนิงนั้นแบ่งออกเป็นสามรูปแบบ รูปแบบแรกคือระหว่างที่เธอเป็นนางสนมของจักรพรรดิองค์ก่อน รูปแบบที่สองคือตอนที่เธอเป็นไทเฮาผู้ทรงอำนาจ และรูปแบบสุดท้ายเมื่อเธอได้กลายเป็นหวงเฟยหรือพระชายาแห่งองค์จักรพรรดิ
เนื่องจากความยั่วยุจาก ‘ชายาหนิง’ ทำให้ช่างแต่งหน้าและช่างแต่งตัวทุ่มเทเวลาและแรงกายไปกับการสร้างรูปโฉมให้กับถังหนิง
แน่นอนว่าไม่ว่าจะในฐานะนางแบบหรือนักแสดง ถังหนิงก็ไม่เคยทำให้ผิดหวัง…
อันดับแรก เธอลองอยู่ในลุกนางสนมที่ดูเรียบง่าบแต่สง่างาม
ทันทีที่ช่างช่วยถังหนิงสวมชุดสีเรียบง่ายจนเสร็จ ทุกคนที่อยู่ภายในห้องพักนักแสดงต่างตกตะลึง เพราะถังหนิงดูราวกับหลุดออกมาจากภาพวาด…