“ผมแสดงละครไม่ได้จริงๆ จวินอี้หลานต่างหากที่ทำได้” โม่ถิงยิ้มอย่างอ่อนโยน
แล้วเหตุผลที่ทำให้ทั้งสองสามารถถ่ายฉากดังกล่าวผ่านในเทกเดียวล่ะ นั่นเป็นเพราะโม่ถิงเคยช่วยถังหนิงซักซ้อมมาก่อนในระหว่างการเตรียมการถ่ายทำละครเรื่องนี้
“ฉันจะให้คุณต้องชดใช้พอเรากลับถึงบ้าน!” ถังหนิงกล่าวด้วยน้ำเสียงไม่พอใจ
โม่ถิงเพียงแค่ยิ้มตอบอย่างรักใคร่
“ฮะๆๆ คราวนี้เราต้องชนะละครอีกเรื่องแน่ๆ!” ทีมงานต่างพากันรู้สึกตื่นเต้น
เมื่อบัดนี้โม่ถิงได้เป็นส่วนหนึ่งของทีมนักแสดง ทุกคนต่างรู้สึกฮึกเหิมและตื่นเต้นอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน ขณะที่นักแสดงคนอื่นๆ ถ่ายทำในส่วนของตัวเองเสร็จแล้ว พวกเขาต่างพากันมายืนออกันเพื่อดูการแสดงของโม่ถิงกับถังหนิง
ความรู้สึกที่เกิดจากการได้เห็นคนที่น่าเกรงขามสองคนสาดอารมณ์ใส่กัน ช่วยให้ทุกคนได้เรียนรู้ศิลปะในการแสดงพร้อมกับรู้สึกใจสลายไปพร้อมกัน
พวกเขาเหมือนกันผู้ชมที่ดูหน้าจอโทรศัพท์ เมื่อได้เห็นฉากหวานชื่นระหว่างถังหนิงกับโม่ถิง พวกเขาจะหัวเราะอย่างบ้าคลั่ง แต่เมื่อทั้งสองเข้าฉากบีบหัวใจ ทั้งคนต่างพบว่าตัวเองกำลังร้องไห้ราวใจสลายด้วยความเศร้า
“พระเจ้าช่วย ฉันรอให้มันตัดต่อเสร็จไม่ไหวแล้ว”
“แต่ละครอีกเรื่องถ่ายทำไปได้ครึ่งเรื่องแล้วนะ”
“แล้วไง พวกนั้นเริ่มงานก่อนพวกเรา ถ้าเราถ่ายทำด้วยความเร็วระดับนี้ ฉันมั่นใจว่าอีกไม่นานเราต้องไล่ตามทันแน่”
“การได้ดูถังหนิงกับโม่ถิงแสดงละครด้วยกันนี่มันฟินจริงๆ”
แน่นอนว่าทุกสิ่งที่เกิดขึ้นภายในกองถ่ายล้วนถูกเก็บเป็นความลับ ไม่มีอะไรรั่วไหลออกไป เมื่อไหร่ก็ตามที่โม่ถิงไม่มีฉากที่ต้องแสดง เขาจะไปปรากฏตัวที่ไห่รุ่ยและสาธารณะราวกับเขาไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ กับการถ่ายทำ แต่ในความเป็นจริงแล้วเขาค่อนข้างสนุกกับการแสดงละครร่วมกันถังหนิง ‘หวงเฟยยอดสตรี’ เป็นละครที่ค่อนข้างสนุกเพราะความรักและความเกลียดชังระหว่างจวินอี้หลานกับชิงหลานทำให้ละครเรื่องนี้ครบรส
ในระหว่างนั้น มีข่าวเกี่ยวกับ ‘ชายาหนิง’ ออกมาไม่หยุดหย่อน
ไป๋อวี๋ไม่อาจหาข้อมูลอะไรเกี่ยวกับ ‘หวงเฟยยอดสตรี’ ได้เลย ทำให้เธอถึงกับกินไม่ได้นอนไม่หลับ
ภาพถ่ายของเธอไม่อาจสู้ภาพของถังหนิงได้ เธอจะแพ้เรื่องอื่นไม่ได้อีก
ดังนั้นเธอจึงจ้างปาปารัสซี่มืออาชีพมาคนหนึ่ง สั่งให้เขาแอบเข้าไปในสตูดิโอถ่ายทำ เพื่อหาให้ได้ว่าใครเป็นพระเอกของ ‘หวงเฟยยอดสตรี’ แต่พวกเธอไม่รู้เลยว่าทีมงานของ ‘หวงเฟยยอดสตรี’ ทุกคนได้รับการคัดเลือกมาเป็นอย่างดีและผ่านการฝึกฝนมาโดยเฉพาะ ดังนั้นเมื่อมีใครบางคนมาหาข้อมูล ทีมงานทุกคนจะแค่ยิ้มและตอบ “เราจ้างนักแสดงหน้าใหม่ที่ไม่เคยแสดงละครเรื่องไหนมาก่อน”
“คุณแน่ใจนะ”
“แน่นอน คุณไม่เชื่อฉันเหรอ ทุกคนในกองถ่ายรู้เรื่องนี้กันทั้งนั้นแหละ”
ปาปารัสซี่คนนั้นกลับไปหาไป๋อวี๋พร้อมข้อมูลที่หามาได้ ก่อนที่ไป๋อวี๋จะตอบสนองด้วยการใช้มือทั้งสองข้างทุบโต๊ะ “เยี่ยมมาก! โม่ถิงนี่มันเจ้าเล่ห์จริงๆ เขากลัวว่าคนจะไม่เห็นด้วยที่เขาจ้างเด็กใหม่อ่อนหัด เขาเลยปกปิดการถ่ายทำทั้งหมดไว้เป็นความลับแล้วบังคับให้คนยอมรับเรื่องนี้หลังจากถ่ายจบแล้วสินะ”
พวกเขาจ้างนักแสดงหน้าใหม่จริงๆ และเขาไม่เคยถ่ายทำละครเรื่องใดมาก่อน…
แต่..
…ไป๋อวี๋ไม่ได้รู้สึกสงสัยเลยว่ามีบางอย่างผิดปกติ
ในไม่ช้า ข่าวลือเรื่อง ‘หวงเฟยยอดสตรี’ จ้างนักแสดงมือใหม่อ่อนหัดและกลัวเกินกว่าจะเปิดเผยเรื่องนี้สู่สาธารณะได้แพร่กระจายไปทั่วโลกภายนอก ซึ่งนี่สร้างกระแสคัดค้านจากบรรดาแฟนคลับนิยายอย่างชัดเจน พวกเขารักจวินอี้หลานอย่างสุดใจ ดังนั้นพวกเขาจะไม่มีวันปล่อยให้มันถูกทำให้เสียหายโดยเด็ดขาด
[ถ้าเป็นนักแสดงที่ไม่มีประสบการณ์มาแสดงจริงๆ ฉันจะไม่ดูเด็ดขาด!]
[ใช่! จวินอี้หลานของเราถึงจะน่าสงสารแต่ก็เป็นชายที่ทรงพลัง ฉันไม่อยากให้ใครมาเล่นเป็นเขาแล้วทำให้เขากลายเป็นเด็กโง่ใสซื่อหรอกนะ]
[ฉันไม่ยอมรับ! ไม่ยอมรับ! ฉันขอเรียกร้องให้ทีมงานออกมาประกาศชื่อนักแสดงที่เล่นเป็นพระเอก]
“แค่ข่าวฉาวเล็กๆ ก็เพียงพอที่จะทำให้ ‘หวงเฟยยอดสตรี’ ต้องย่ำแย่เสียแล้ว ตลกสิ้นดี! แฟนคลับพวกนี้ไร้สมองจริงๆ” ไป๋อวี๋พูดเยาะเย้ยหลังได้อ่านความเห็นที่ปรากฏในหน้าเว็บไซต์ของ ‘หวงเฟยยอดสตรี’ “ประธานโม่อะไรนี่ก็โง่ ต่อให้ไม่มีทางเลือกก็ไม่ควรจะใช้วิธีนี้”
“พี่อวี๋นี่หัวใสจริงๆ ที่สามารถทำให้อีกกองถ่ายหนึ่งตกอยู่ในวิกฤตได้แบบนี้”
แต่มันไม่ใช่เพราะพวกเขาไม่ต้องการประกาศชื่อพระเอก พวกเขากลัวว่าหากประกาศออกไป ทุกคนจะตกใจตายต่างหาก!
ดังนั้นแม้ทุกอย่างจะเกิดขึ้น ‘หวงเฟยยอดสตรี’ ก็ยังคงอดทนและถ่ายทำต่อจนถึงดึก
แต่เป็นเพราะคำยุยงของไป๋อวี๋ ทำให้ทีมประชาสัมพันธ์ของไห่รุ่ยยิ่งนิ่งเฉย ดังนั้นจึงมีข่าวกระจายไปทั่วกองถ่ายว่าสถานการณ์ได้ลุกลามจนถึงขั้นที่บรรดาแฟนๆ ไปโจมตีถังเซี่ยวซึ่งเป็นผู้เขียน
โม่ถิงรีบโทรติดต่อฟังอวี้ทันที “จัดการให้พวกแฟนคลับสงบซะ”
หลังหวงฝู่ซั่วได้ยินว่าไป๋อวี๋ต้องมีส่วนเกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เขาเดือดดาลไปทั้งตัวด้วยความโกรธ แค่ผู้หญิงคนนั้นทำตัวอวดเบ่งก็แย่พอแล้ว นี่ยังพยายามทำร้ายคนอื่นอีก เขาอยากจะฉีกหน้ากากของผู้หญิงคนนี้ออกจริงๆ
ขณะเดียวกัน ฟังอวี้ยังไม่ได้ติดต่อไปยังบรรดาแฟนคลับของนิยายเรื่องนี้ เพราะเขาไม่มีอะไรจะไปปรามคนเหล่านั้น และต่อให้เขาทำ แฟนคลับแต่ละคนก็มีจวินอี้หลานในจินตนาการของตัวเองที่แตกต่างกันออกไป ทางเลือกเดียวที่เขามีคือการเปิดเผยความจริง ไม่เช่นนั้นมันจะเป็นเรื่องยากเกินไปในการทำให้บรรดาแฟนคลับสงบลง
แต่หากเขาไม่สามารถปรามบรรดาแฟนคลับธรรมดาได้ เขาก็ไม่ใช่ฟังอวี้
ดังนั้นเขาจึงไม่ได้เป็นคนพูดถึงบทพระเอกด้วยตัวเองแต่เลือกที่จะใช้ถังเซี่ยวเป็นคนพูดกับแฟนๆ แทน “’ หวงเฟยยอดสตรี’ ต้องพบกับอุปสรรคมากมาย ด้วยฝีมือของใครบางคนทำให้นักแสดงที่เป็นตัวเลือกในบทพระเอกทุกคนปฏิเสธบทนี้ เรื่องนี้ทำให้ฉันรู้สึกล้มเหลวแล้ว แต่ฉันไม่เคยคาดคิดเลยว่าแฟนคลับของฉันจะถูกศัตรูใช้เป็นเครื่องมือด้วย
“ฉันมีความเชื่อมั่นในไห่รุ่ยและทีมงาน ดังนั้นทำไมทุกคนถึงไม่เชื่อมั่นในตัวฉันล่ะ
“ฉันได้สร้างจวินอี้หลานขึ้นมาจากถ้อยคำที่ละคำ พวกคุณไม่คิดบ้างเหรอว่าฉันจะรักเขามากกว่าพวกคุณแค่ไหน ในเมื่อนี่คือนักแสดงที่แม้แต่ฉันยังยอมรับ นั่นหมายความว่าความจริงไม่ได้เป็นอย่างที่ข่าวลือว่าไว้ ส่วนแฟนคลับของฉัน พวกคุณไม่เคยคิดถึงจุดของฉันบ้างหรือ พวกคุณคาดหวังให้ฉันทำอะไรกับความวุ่นวายที่พวกคุณสร้างขึ้นอย่างนั้นหรือ เพราะทุกสิ่งที่พวกคุณทำ พวกคุณคิดว่าสุดท้ายใครกันที่จะได้รับประโยชน์จากเรื่องพวกนี้
“ฉันเสนอบทละครเรื่องนี้โดยไม่เรียกร้องเงินทองอะไรเลย ดังนั้นอย่ามาหาว่าฉันได้เงินจากเรื่องพวกนี้
“ส่วนถังหนิงเองก็รับบทนี้ในฐานะเพื่อน พวกเราเพียงแค่ต้องการทำให้ ‘หวงเฟยยอดสตรี’ มีชีวิต ฉันไม่เคยคิดเลยสุดท้ายว่าแฟนคลับของตัวเองจะมาต่อต้านตัวฉันเองแบบนี้
“พวกคุณควรจะรู้อยู่แล้วไม่ใช่เหรอว่าใครกันแน่ที่เป็นปริปักษ์ที่แท้จริงของฉัน”
นั่นคือทีมงานของ ‘ชายาหนิง’ !
หลังการเตือนสติของถังเซี่ยว ในที่สุดแฟนคลับส่วนใหญ่ก็ได้สติและตระหนักได้ว่าพวกเขาไม่ควรปล่อยให้ตัวเองถูกใช้เป็นเครื่องมือ ไห่รุ่ยมีเหตุผลในการกระทำอย่างแน่นอน อีกทั้งการได้รู้ว่าทุกคนทุ่มเทให้กับการสร้างละครเรื่องนี้มากแค่ไหนทำให้ทุกคนตระหนักได้ว่าพวกเขาไม่ควรทำตัวเป็นเครื่องกีดขวางเช่นนี้หากยังเรียกตัวเองว่าเป็นแฟนคลับตัวจริงอยู่
“เมื่อถึงเวลาที่เหมาะสม ไห่รุ่ยก็จะออกมาประกาศตัวนักแสดงพระเอกเอง ฉันสามารถบอกอะไรได้นิดหน่อยว่า ผู้ชายคนนี้ดีกว่าพระเอกของละครคู่แข่งและดีกว่านักแสดงชายสองคนที่เป็นตัวเลือกในตอนแรกด้วย ถ้าผลลัพธ์ไม่ออกมาอย่างที่ฉันพูด ฉันจะถอนตัวออกจากวงการนิยายออนไลน์แล้วจะไม่เขียนนิยายอีกเลย!”
ด้วยคำรับรองของถังเซี่ยว ทำให้บรรดาแฟนคลับกลับมามีความมั่นใจในละครเรื่องนี้อีกครั้ง
ที่จริงพวกเขาเริ่มเยาะเย้ยละครอีกเรื่องด้วยซ้ำ [อีกฝ่ายนี่ชั่วร้ายแถมยังหน้าด้านจริงๆ ถึงขนาดพยายามเสี้ยมให้แฟนคลับกับทีมงานเป็นศัตรูกัน]
[ไม่ใช่ว่า ‘หวงเฟยยอดสตรี’ ของเราทำให้พวกนั้นประสาทเสียหรอกเหรอ ถึงได้ทำเรื่องน่ารังเกียจแถมยังไร้ยางอายแบบนี้]
[ช่างมันเถอะ ฉันเชื่อมั่นในละครเรื่องนี้ ในเมื่อเซียวเซียวออกมาพูดว่าคนเล่นเป็นเพราะเอกคือชายในฝัน งั้นคนคนนี้ก็ต้องเพอร์เฟกต์แน่นอน…]