“ไม่มีอะไรผิดพลาดครับ” โม่ถิงกุมมือถังหนิงแน่น ทั้งคู่แต่งงานกันมาได้สองปีแล้วและความรักของพวกเขาก็ฝังลึกจนถึงกระดูก ในยามที่ถังหนิงตื่นเต้นถึงขีดสุด ด้วยความเชื่อมั่นของโม่ถิง เธอก็สงบใจลงได้ทันที เพียงมีชายคนนี้ข้างกายก็ไม่สำคัญเลยว่าเธอจะได้รางวัลหรือไม่
ไม่นานโรลส์รอยซ์สีดำก็มาถึง ณ พิธีมอบรางวัลเฟยเทียน ถังหนิงก้าวลงมาที่ด้านหน้าพรมแดงพลางจับมือโม่ถิง บรรดาสื่อมวลชนต่างตื่นเต้นกับการปรากฏตัวของทั้งคู่จนเกือบดันราวกั้นออกมา ทว่าเพราะมีโม่ถิงอยู่ด้วย ต่อให้พวกเขาอยากทำก็ไม่คิดอาจหาญที่จะทำเช่นนั้น
“ถังหนิง… โม่ถิง…”
“ถังหนิง… มองทางนี้ด้วยครับ”
“คุณพ่อถิง โอบกอดหนิงของเราแน่นๆ ดูแลเธอดีๆ นะคะ” แฟนๆ บางส่วนที่ถือป้ายไฟตะโกนบอก ถังหนิงอดไม่ได้ที่จะหันไปส่งยิ้มให้ โม่ถิงดึงถังหนิงเข้ามาในอ้อมแขนเป็นคำตอบ ประกายความรักใคร่ที่คู่รักแสดงออกมาทำให้กลุ่มแฟนๆ ส่งเสียงร้องด้วยความตื่นเต้น
ถังหนิงพึงพอใจกับการใช้ชีวิตอย่างสันโดษ และหลังจากที่เธอผันตัวมาเป็นนักแสดงก็ไม่ค่อยปรากฏตัวในรายการโทรทัศน์เว้นเสียแต่การให้สัมภาษณ์บางรายการ เธอมักปรากฏตัวด้วยเรื่องส่วนตัวเท่านั้นจึงเป็นเรื่องแปลกที่แฟนๆ จะได้เห็นเธอ ไม่รวมถึงการได้เห็นเธออยู่ด้วยกันกับโม่ถิง
พิธีกรพิธีมอบรางวัลเฟยเทียนยืนอยู่ด้านหน้ากำแพงเซ็นชื่อ ทันทีที่เขาเห็นทั้งคู่ก็ทักทายอย่างลื่นไหล เพราะเห็นโม่ถิงอยู่ด้วยเขาจึงไม่กล้าเล่นมุกตลกกับเธอแม้แต่น้อย โดยเฉพาะท่าทีของเธอที่ดูเหมือนจะไม่ได้มาเพื่อรับรางวัลแต่เพื่อร่วมงานเท่านั้น
“เห็นได้ชัดว่าประธานโม่รู้วิธีการเอาใจใส่ภรรยาของเขาแน่นอนครับ ถึงได้คอยดูแลเธอตลอดเวลาเลย อย่างไรก็ตามในฐานะพิธีกรของงานผมขออนุญาตถามสักหนึ่งข้อนะครับ คุณช่วยบอกอาการของลูกของคุณให้เราทราบได้ไหมครับ”
“ตอนนี้เขาสบายดีค่ะ ขอบคุณทุกคนที่เป็นห่วงนะคะ” ถังหนิงตอบด้วยท่าทีจริงจัง “ฉันทราบว่าอาการป่วยของลูกชายของฉันสร้างความสับสนวุ่นวายใหญ่ขึ้นในปักกิ่ง ฉันต้องขอโทษถ้าทำให้ใครไม่พอใจด้วยนะคะ”
คำพูดของถังหนิงฟังแล้วเป็นการขอโทษที่ซื่อสัตย์และจริงใจเป็นพิเศษ ทั้งเธอยังดูรู้สึกผิดเล็กน้อย
นั่นทำให้พิธีกรเอ่ยตอบ “ผมเชื่อว่าในฐานะแม่คุณได้ทำเท่าที่ทำได้แล้วล่ะครับ ผมรู้ว่าคุณพยายามทำให้ดีที่สุดมาตลอดไม่ว่าจะอยู่ในบทบาทไหน ดังนั้นการเป็นแม่คงไม่แตกต่างไปแน่ครับ”
“เราเองก็เชื่อในตัวคุณ” แฟนคลับของถังหนิงตะโกนให้กำลังใจมาจากด้านหลัง “คุณเป็นราชินีในคืนนี้อย่างไม่ต้องสงสัยเลย”
อันที่จริงในค่ำคืนนี้นอกจากความน่าสนใจของการที่ถังหนิงและโม่ถิงปรากฏตัวแล้วยังมีบุคคลที่เปรียบดั่งราชาอีกคนซึ่งเพิ่งกลับมาต่างประเทศอีกด้วย ชายผู้ครั้งหนึ่งเคยมีชื่อเสียงลือลั่นในปักกิ่ง
ในไม่ช้าช่วงเวลาของการเดินพรมแดงหนึ่งชั่วโมงก็จบลง ถังหนิงและโม่ถิงเดินตามทางไปยังที่นั่งของตัวเอง มีผู้คนที่คุ้นหน้าคุ้นตาหลายคน รวมถึงหลินเซิงและนักแสดงคนอื่นๆ ซึ่งถังหนิงเคยทำงานร่วมกันก่อนหน้านี้ด้วย เป่ยเฉินตงเป็นหนึ่งในแขกที่ได้รับเชิญเช่นกันแต่เขามักทำตัวเป็นเด็ก การเข้าร่วมงานแบบนี้จึงขึ้นอยู่กับอารมณ์ของเขา
พิธีกรชื่อดังในวงการเปิดเวทีอย่างน่าสนใจตามด้วยเพลงเปิดและการเต้นที่แสดงโดยกลุ่มนักแสดงละครเวทีที่มีชื่อที่สุด
ถังหนิงได้ยินผู้คนรอบข้างพูดถึงผู้มีอิทธิพลที่กำลังจะกลับมาวันนี้เธอจึงเขย่ามือโม่ถิง “ดูเหมือนจะมีบางอย่างในวงการที่เรายังไม่รู้นะคะ”
“คุณหมายถึงผู้ชายที่จะกลับมาวันนี้เหรอ” โม่ถิงถาม
“อือฮึ”
“เดี๋ยวผมจะเล่าให้คุณฟังหลังจากที่เรากลับบ้านครับ” โม่ถิงเอ่ยขึ้นเบาๆ ข้างหูถังหนิง “มาดูพิธีมอบรางวัลกันก่อนเถอะ”
พิธีมอบรางวัลปีนี้ค่อนข้างตื่นตาตื่นใจเพราะนักแสดงน้ำดีที่มีผลงานในปีที่ผ่านมา ท่ามกลางนักแสดงเหล่านั้นหมายรวมถึงคนที่ถังหนิงรู้จัก เฉินซิงเยียนยังกลับบ้านไปพร้อมกับรางวัลนักแสดงหน้าใหม่ดีเด่น ตอนนั้นเองที่ถังหนิงสังเกตเห็นว่าอันจื่อเฮ่าและเฉินซิงเยียนนั่งอยู่ถัดไปสองแถวด้านหลังพวกเขา
ในขณะที่เฉินซิงเยียนขึ้นรับรางวัล เธอก็มองมาที่ถังหนิงและโบกมือขวาให้
“นับจากนี้ไป เราจะประกาศรางวัลเฟยเทียนที่สำคัญที่สุดครับ เป็นอีกครั้งสำหรับรางวัลนักแสดงนำชายยอดเยี่ยมและนักแสดงนำหญิงยอดเยี่ยมแห่งปี เพื่อคัดเลือกนักแสดงที่มีผลงานโดดเด่นที่สุดคณะกรรมการของเราเกือบจะทะเลาะหลังเวทีทุกปีเลยครับ
“ขอเสียงปรบมือดังๆ ต้อนรับแขกรับเชิญพิเศษของเราขึ้นมาบนเวทีเพื่อมอบรางวัลด้วยครับ”
แขกผู้มอบรางวัลคนแรกเคยเป็นนักเขียนบทที่ก่อนหน้านี้ได้รับรางวัลใหญ่ๆ ในระดับนานาชาติมามากมาย เขามาพร้อมกับแขกคนที่สองซึ่งเป็นนักวิจารณ์ภาพยนตร์ที่ชื่อดังไปทั่วโลก
คนหนึ่งมีอายุในขณะที่อีกคนยังอายุน้อย คนหนึ่งร่างท้วมในขณะที่อีกคนผอมแห้ง ชายทั้งสองคนประคองกันและกันและก้าวขึ้นมาบนเวที ก่อนที่อดีตนักเขียนบทจะเริ่มกล่าวก่อน
“ตอนแรกที่ผู้จัดเชิญมามอบรางวัลนี้ผมค่อนข้างรู้สึกประหลาดใจ อย่างที่ทุกคนทราบดีว่าผมเป็นคนเถรตรง หากคนที่ผมกำลังจะมอบรางวัลให้ไม่ใช่คนที่เป็นไปตามมาตรฐานของผม ผมคงจะคัดค้านและปฏิเสธที่จะมอบรางวัลนี้…
“ผมจึงดูหนังทั้งหมดของผู้เข้าชิงทั้งหมดก่อนมาที่นี่
“ด้วยเป็นคนที่ให้ความสำคัญกับเส้นเรื่องมากผมจึงคาดหวังกับนักแสดงไว้สูงมากเช่นกัน ผมหมายความว่าจะมีนักเขียนบทคนไหนที่จะปล่อยให้ผลงานของตัวเองสูญเปล่าด้วยน้ำมือของนักแสดงกัน
“โชคดีที่รางวัลเฟยเทียนยังคงรักษาความเป็นธรรมและผู้เข้าชิงในปีนี้ก็ไม่ค้านสายตาเลย ดังนั้นผมจึงเข้าใจแล้วว่าทำไมคณะกรรมการถึงได้ถกเถียงกันอยู่เบื้องหลังอยู่เนืองๆ ”
ในตอนนี้เองที่นักวิจารณ์ภาพยนตร์ได้เริ่มเอ่ย “พูดได้ดีมากเลยครับ ทีมงานที่ดีเป็นสิ่งที่ทั้งวงการต้องการ และนักแสดงที่ดีก็จำเป็นสำหรับบทเพื่อถ่ายทอดศักยภาพของมันออกมาอย่างเต็มที่
“ภาพยนตร์ที่ผมยอมรับเป็นเรื่องที่พึงได้รับความรักจากผู้คนทั่วโลกเพราะมันได้นำเสนอคุณค่าและแสดงให้เห็นอารมณ์ความรู้สึกที่จริงใจที่สุด สามารถเข้าถึงจิตใจของผู้ชมทั่วโลก เป็นผลงานที่ยากที่จะหาที่ติและผมก็รู้มาว่าเป็นเรื่องที่ได้รับผลตอบรับดีจากผู้ชมทั่วโลกด้วย”
“รีบๆ บอกเราว่ากำลังพูดถึงภาพยนตร์เรื่องอะไรเร็วเข้า!”
นักวิจารณ์ภาพยนตร์มองมาที่โม่ถิงและถังหนิงก่อนเอ่ยตอบ “เรื่อง ‘โง่’ ครับ จากที่ผมทราบมาว่าภาพยนตร์เรื่องนี้ได้รับการตอบรับดีในอเมริกาซึ่งมากกว่าเรื่องที่สร้างภายในอเมริกาเองเสียอีก ทั้งยังมีบทที่เป็นต้นแบบล่าสุดให้กับนักเขียนบทด้วย สร้างมาตรฐานของการเขียนบท นี่เป็นครั้งแรกที่เกิดสิ่งเหล่านี้ขึ้นครับ
“ในขณะที่เราพูดถึงประเด็นนี้ ผมต้องขอพูดว่าผมชื่นชมประธานโม่แห่งไห่รุ่ยจากใจจริงครับ”
ได้ยินดังนั้นโม่ถิงจึงพยักหน้ารับน้อยๆ เป็นการขอบคุณชายคนนั้น
“เอาละครับ นอกเรื่องมามากพอแล้ว มาดูว่านักแสดงคนไหนที่จะได้รับรางวัลแห่งปีอันทรงเกียรตินี้กัน เชิญรับชมบนหน้าจอได้เลยครับ” ว่าจบเขาก็พาให้สายตาของทุกคนมุ่งตรงไปยังหน้าจอขนาดใหญ่ด้านหลังพวกเขา
ไม่นานเสียงกังวานก็ดังก้องมาจากบนหน้าจอ
“ผู้ชนะรางวัลเฟยเทียน สาขานักแสดงหญิงยอดเยี่ยมแห่งปีได้แก่…”
ตอนนี้แสงไฟที่สาดส่องไปสลับระหว่างผู้เข้าชิงรางวัลพร้อมบรรยากาศที่เต็มไปด้วยการเฝ้ารออย่างใจจดใจจ่อ