“ถังหนิง จากเรื่อง ‘คนรักที่สาบสูญ’ ด้วยการถ่ายทอดบทบาทตำรวจสาวได้อย่างสมจริงของเธอในเรื่อง ‘คนรักที่สาบสูญ’ ผู้ซึ่งทุกข์ทรมานกับสองตัวตนที่ขัดแย้งกัน”
“ยินดีด้วยครับ คุณถังหนิง” ตัวแทนผู้มอบรางวัลว่าขึ้นอย่างยินดีขณะที่ผู้ชมต่างส่งเสียงแสดงความยินดีและปรบมือให้การชื่นชม
ถังหนิงนิ่งค้างไปชั่วขณะ ทันทีที่ได้ยินชื่อของเธอถูกประกาศทำให้เธอรู้สึกประหลาดใจเล็กน้อยได้เป็นอย่างดี
“ทำไมคุณยังนั่งอยู่ตรงนี้อีกล่ะครับ” โม่ถิงส่งยิ้มอยู่ข้างกายเธอ “ได้เวลาที่คุณต้องไปรับรางวัลแล้วนะครับ ที่รักของผม”
ถังหนิงหันไปกอดโม่ถิง ในตอนนี้เธอรู้สึกราวกับเป็นดวงจันทร์ที่รายล้อมด้วยดวงดาว
จากนั้นจึงลุกขึ้นและเดินตรงไปยังเวที ในจังหวะที่นักเขียนบทสูงอายุซึ่งใบหน้าประดับด้วยหนวดเคราเอ่ยสำทับ “จริงๆ แล้วหลังจากเรื่อง ‘คนรักที่สาบสูญ’ ไห่รุ่ยได้ผลิตผลงานน้ำดีออกมามากมาย รวมถึงเรื่อง ‘ฉีฟู’ และละครโทรทัศน์เรื่อง ‘หวงเฟยยอดสตรี’ อีกด้วย ผมต้องขอบอกว่าถังหนิงแสดงได้อย่างสมบูรณ์แบบและเป็นนักแสดงที่ความสามารถรอบด้าน
“ก่อนหน้านี้ไม่นานเธอได้ถ่ายทำเรื่อง ‘ผู้รอดชีพ’ จากที่ได้ยินมานั้นเป็นเรื่องที่ถือเป็นผลงานขึ้นหิ้งเช่นกัน ผมหวังว่าถังหนิงจะยังคงรักษามาตรฐานเช่นนี้และก้าวขึ้นเป็นนักแสดงที่ดีมากขึ้นไปอีกครับ…
“ขณะที่ยืนต่อหน้าทุกคน ณ ที่นี้ ผมจะขอพูดถึงการประสบความสำเร็จของถังหนิงที่ผ่านมาครับ ยอดจำหน่ายตั๋วเข้าชมรวมของภาพยนตร์ทั้งสามเรื่องที่เธอแสดงนำทะยานสู่หกพันล้านหยวนเป็นที่เรียบร้อย ยังไม่รวมถึงความสำเร็จของเธอภายใต้สังกัดไห่รุ่ย และเธอได้กลายมาเป็นสิ่งมหัศจรรย์ของวงการภาพยนตร์ ในส่วนของละครโทรทัศน์ ‘หวงเฟยยอดสตรี’ นั้น ได้ทุบสถิติเรตติ้งสูงสุดที่เคยมีมาด้วยยอดเข้าชมออนไลน์กว่าสองพันล้านครั้ง ทั้งหมดนี้คือสิ่งที่เธอได้ทำภายในหนึ่งปีในฐานะนักแสดงครับ…
“ผมมั่นใจว่าคงมีคนไม่มากที่สามารถทำเช่นเธอได้แม้ใช้เวลาตลอดช่วงชีวิตก็ตาม สิ่งหนึ่งที่แน่นอนคือการที่ถังหนิงทุ่มเทให้กับผลงานเช่นเดียวกับคนอื่นๆ เมื่ออยู่ในฐานะนักแสดงครับ”
ในตอนนี้เองที่ถังหนิงก้าวขึ้นมาบนเวทีและยืนอยู่ข้างผู้แทนมอบรางวัลทั้งสองคน
เป็นจังหวะที่เธอรู้สึกราวกับว่าผู้คนทั้งโลกกำลังแสดงความยินดีกับเธอ
เธอถือรางวัลสำคัญไว้ในมือในขณะที่บทเพลงทรงเกียรติดังก้องไปทั่วโถง ทันใดนั้นน้ำตาก็รื้นขึ้นมา
“คุณถังหนิง ช่วยพูดความรู้สึกในการได้รับรางวัลนี้สักหน่อยครับ” พิธีกรว่าขึ้นพร้อมรอยยิ้ม
ถังหนิงมองรางวัลในมือก่อนเอ่ยขณะที่กลั้นน้ำตา “ด้วยความสัตย์จริง จากประสบการณ์การทำงานที่ผ่านมาของฉัน ฉันไม่ได้หวังว่าจะได้รับรางวัลในวันนี้เลยค่ะ ด้วยรู้สึกว่าได้สิ่งนี้มาง่ายเกินไปและบทที่ไม่ตรงกับนิสัยปกติของตัวเองนัก แต่เมื่อนึกย้อนไปถึงช่วงที่ถ่ายทำฉันก็อดหัวเราะตัวเองไม่ได้ที่ลืมความยากลำบากที่ตัวเองเคยผ่านมา…
“อย่างที่ทุกท่านทราบว่าฉันผันตัวจากนางแบบมาเป็นนักแสดง ฉันมั่นใจว่าหลายคนคงได้เห็นทุกความพยายามที่ฉันได้ทำมาตลอดช่วงเวลานี้
“วันนี้ในที่สุดฉันก็ได้รับรางวัลอันทรงเกียรตินี้ แต่สิ่งที่ฉันก็ยังต้องการจะทำก็คือการกลับบ้านไปให้นมลูกและทำอาหารให้สามีของฉัน และแทบรอที่จะแบ่งปันความยินดีนี้กับคนที่ฉันรักไม่ได้เลยล่ะค่ะ…
“ฉันอยากขอบคุณทุกท่านเช่นกันที่ตัดสินมอบรางวัลนี้ให้ฉันเพราะมันทำให้ฉันรู้สึกมีคุณค่าในวงการภาพยนตร์และโทรทัศน์ค่ะ
“สุดท้ายนี้ฉันอยากจะบอกบางสิ่งกับสามีของฉัน ‘คุณคือราชาของฉันค่ะ!’ ”
โม่ถิงนั่งอยู่ท่ามกลางความมืดและมองขึ้นไปที่ถังหนิงที่กำลังยืนเฉิดฉายอยู่บนเวที เธอเป็นผู้หญิงที่เขาต้องการสนับสนุน เป็นภรรยาที่เขาจะใช้เวลาทั้งชีวิตไปด้วยกัน
และคำพูดของถังหนิงทำให้เขารู้ว่าเธอเทิดทูนเขาเพียงไหน
จากนั้นถังหนิงก้าวลงมาจากเวทีและกลับมาอยู่ข้างโม่ถิง ทั้งคู่จุมพิตกันอย่างรักใคร่ต่อหน้าทุกคน
…
“ว้าว…”
“นี่ ดูสิ!”
“หวานกันจังเลย! ฉันกำลังจะตายเพราะความหวานนี้แล้ว”
“ฉันอยากมีใครสักคนที่จะใช้ชีวิตที่เหลือด้วยกันแบบนั้นบ้างจัง”
รางวัลนักแสดงนำชายยอดเยี่ยมถูกมอบในเวลาถัดมา ทว่าในสายตาของคู่รักโม่พิธีมอบรางวัลได้จบลงเรียบร้อยแล้ว
อย่างไรก็ตาม ยังมีสิ่งที่สร้างความฮือฮาอยู่ อย่างเช่นการที่ ‘หวงเฟยยอดสตรี’ ชนะรางวัลบทภาพยนตร์ยอดเยี่ยมและรางวัลละครโทรทัศน์ยอดนิยม มีการกล่าวถึงการปรากฏตัวของโม่ถิงในละคร ทุกคนต่างแสดงความยินดีกันอย่างคึกคักเพราะคนในวงการบันเทิงรู้ว่ามีเขาน่าทึ่งได้มากกว่านี้
ว่าแต่ใครจะทำให้เขายอมแสดงอีกครั้งได้กันล่ะ
นอกจากถังหนิงแล้วคงไม่มีใครทำได้อีกแล้ว สำหรับคนที่สงสัยและคิดว่าพวกเขาแต่งงานคลุมถุงชนกัน พวกเขาคงไม่มีอะไรต้องพูดอีก ท่อนหนึ่งของเพลงดังเพียงพอแล้วที่จะนิยามความสัมพันธ์ของพวกเขา “หากไม่ใช่ความรักแล้วจะมีสิ่งใดที่ต้องยอมเสียใจอีก”
ไม่นานพิธีมอบรางวัลก็จบลงจากนั้นถังหนิงและโม่ถิงจึงได้ออกจากงาน หากแต่ก่อนที่พวกเขาจะได้ขึ้นรถบรรดานักข่าวก็ได้ตามพวกเขามาด้านหลัง
เพราะท่าทีทรงอำนาจของโม่ถิง นักข่าวจึงไม่กล้าเข้าไปใกล้มากนัก ได้แต่ตามอยู่ห่างๆ เพื่อเก็บภาพของคู่รัก ทว่านักข่าวสาวคนหนึ่งกลับเดินไปหาพวกเขาและพูดขึ้น “ฉะ… ฉันมีสูตรลดน้ำหนักที่ส่งต่อมาจากบรรพบุรุษของฉันที่สามารถช่วยฟื้นฟูระบบภูมิคุ้มกันได้ถ้าทำตามอย่างต่อเนื่องค่ะ”
ถังหนิงรับกระดาษจากเธอและส่งยิ้มให้ “ขอบคุณค่ะ ฉันจะลองดูและบอกผลลัพธ์กับคุณนะคะ”
เธอนึกไปถึงว่าถังหนิงจะตอบสนองเช่นนี้จึงเกาท้ายทอยที่สั่นไปมาก่อนตอบกลับไป “ฉันรู้สึกเป็นเกียรติที่รู้ว่าคุณจะลองทำดูค่ะ”
“พวกเราต่างก็เหมือนๆ กันล่ะค่ะ” พูดจบถังหนิงก็ก้าวขึ้นโรลส์รอยซ์ที่จอดรออยู่ด้วยการดูแลจากโม่ถิง ทิ้งความประทับใจไว้ให้กับนักข่าวคนนั้นว่าถังหนิงเป็นนักแสดงที่นิสัยดีที่สุดเท่าที่เธอคยพบมา
ความจริงแล้วสิ่งที่ถังหนิงต้องการสื่อคือเธอยินดีที่จะเผชิญหน้ากับโลกภายนอกด้วยไมตรีจิตตราบใดที่โลกปฏิบัติกับเธอในทางเดียวกัน
หลังจากขึ้นมาบนรถถังหนิงอดไม่ได้ที่จะเอ่ย “ไม่ใช่สื่อทุกคนที่ควรถูกเกลียดชัง จริงๆ แล้วพวกเขาบางคนก็จิตใจดีนะคะ”
โม่ถิงเหลือบมองภรรยาตัวเอง ในจังหวะที่เขากำลังจะตอบกลับ จู่ๆ คนขับรถก็เหยียบเบรกและเอารถเข้าจอดข้างทาง
“ขอโทษด้วยครับคุณโม่”
“เกิดอะไรขึ้น”
“มีคนสลบอยู่ด้านหน้าครับ” คนขับรถตอบ
“เรียกรถพยาบาลที”
….
หลังจากเห็นว่าถังหนิงได้รับรางวัล หลงเจี่ยที่อยู่ที่โรงพยาบาลมีความสุขมากกว่าใครๆ ตอนที่เธอดูแลถังหนิง เธอถูกโม่อวี่โหรวกดขี่ข่มเหงมาหลายปี แต่บัดนี้เธอกลายเป็นราชินีแห่งการแสดงที่เป็นที่รักและมีความสามารถรอบด้านแล้ว
“เลิกดูข่าวได้แล้วครับ ถึงเวลาเข้านอนแล้วนะ” ลู่เช่อเตือน “หลังจากนี้เดือนหนึ่งคุณค่อยไปแสดงความยินดีกับเธอด้วยตัวเองก็ได้”
“บางครั้งฉันก็แอบอิจฉาเธอนะ” หลงเจี่ยวางโทรศัพท์ลงและนอนลงอย่างว่าง่าย อย่างไรก็ตามเธอไม่คาดคิดว่าคนที่นั่งอยู่ข้างเตียงของตัวเองยามที่ตื่นขึ้นมาในวันถัดมาจะไม่ใช่ลู่เช่อแต่เป็นคุณนายลู่
“คุณแม่คะ มาทำอะไร…”
“นอนลงเถอะ” อีกฝ่ายว่าขึ้นด้วยดวงตาแดงก่ำ “เสี่ยวมั่น จริงๆ ฉันมีบางอย่างอยากจะบอกเธอ”
“คุณแม่คะ มีอะไรก็พูดเถอะค่ะ” หลงเจี่ยตอบขณะที่นอนลง แม้ว่าสัญชาตญาณของเธอจะบอกว่าคำพูดของคุณนายลู่ต้องทำให้เจ็บปวดไม่น้อย
“ทำไมเธอกับเสี่ยวเช่อถึงไม่ใช้โอกาสนี้มีลูกอีกคนล่ะ มีลูกชายน่ะ… ฉันไม่หวังอะไรนอกจากการได้มีหลานชาย”
คนฟังคาดไม่ถึงว่าคุณนายลู่จะชื่นชอบเด็กผู้ชายมากกว่าผู้หญิงแม้ว่าเธอจะมาจากครอบครัวปัญญาชนก็ตาม
อย่างไรก็ตาม สิ่งต่างๆ ก็ไม่ง่ายดายขนาดนั้น