เมื่อได้ยินหลินเฉี่ยนเอ่ยเสียงเข้มเช่นนั้นทุกคนก็ต่างตกตะลึง
ผู้ช่วยของถังหนิงที่ดูเงียบๆ กลับมีด้านที่คาดไม่ถึง ก่อนหน้านี้เธอเก็บตัวและไม่ได้พูดมากนักเหมือนคนที่อยู่นอกวงการที่ไม่สันทัดในการเข้าสังคมนัก ทว่าดูจากการที่เธอปกป้องถังหนิงแล้วทีมงานรู้สึกว่าพวกเขาต้องใส่ใจถังหนิงให้มากขึ้นและระวังตัวเมื่ออยู่รอบเธอ
“อุบัติเหตุครั้งนี้ต้องมีที่มาที่ไปแน่ คุณจะแค่ต่อว่าไม่กี่คำแล้วปล่อยผ่านไม่ได้นะคะ อีกอย่างมันก็อาจเกี่ยวข้องกับความเป็นความตายด้วย”
“ผู้ช่วยหลินพูดถูก เราต้องสอบสวนเรื่องนี้อย่างละเอียด” ผู้กำกับเห็นด้วย
อย่างไรก็ตามหากคนที่ได้รับบาดเจ็บไม่ใช่นักแสดงหลักคงไม่เป็นเรื่องใหญ่ขนาดนี้ หากแต่คนที่ได้รับบาดเจ็บคือถังหนิง ถ้าไห่รุ่ยวางแผนที่จะไล่บี้ให้พวกเขารับผิดชอบคงไม่มีใครสามารถรับมือได้
“ผู้ช่วยหลิน คืนนี้เราจะไม่ถ่ายทำต่อ พาถังหนิงไปตรวจดูอาการโรงพยาบาลเถอะครับ”
หลินเฉี่ยนพยักหน้ารับ เธอสบตากับถังหนิงด้วยเข้าใจกันและกัน
สำหรับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นที่กองถ่าย นอกเสียจากจะเป็นเพียงอุบัติเหตุยังมีโอกาสกว่าครึ่งที่จะเป็นการจงใจของใครบางคน
“ทุกคนกลับกันได้แล้ว”
สวี่ซินมีท่าทีนิ่งเฉยในขณะที่มองการกระทำของถังหนิงและเหลือบไปที่บาดแผลบนแขนของอีกฝ่าย เธอรู้ว่าแม้พวกเขาจะสืบหาความจริงอย่างละเอียด แต่ก็ไม่สามารถสาวมาถึงตัวเธอได้ เธอทำเรื่องแบบนี้มามากพอจนเข้าใจดี
เธอเกลียดคนที่หยิ่งยโส…
…
หลังจากกลับมาที่ห้องของถังหนิง หลินเฉี่ยนก็รีบตรวจดูแผลของถังหนิง เมื่อเห็นว่ามีเพียงรอยถลอกเล็กน้อยก็ถอนหายใจออกมาด้วความโล่งใจ “โชคดีที่ไม่ได้รับบาดเจ็บที่กระดูกและกล้ามเนื้อ ฉันยังสามารถอแก้ตัวกับประธานโม่ได้บ้าง”
“ที่จริงแล้วมันก็แค่บ่อตื้นๆ เอง” ถังหนิงเหงื่อตกในขณะที่ทนเจ็บจากน้ำยาฆ่าเชื้อที่หลินเฉี่ยนทาให้
หลินเฉี่ยนเอ่ยถามระหว่างที่ช่วยถังหนิงทำแผล “คุณคิดว่าใครเป็นคนทำคะ”
“ตอนนี้ฉันก็ยังไม่แน่ใจ แต่ต่อไปจะระวังตัวมากขึ้นแล้วกัน” ถังหนิงตอบอย่างตรงไปตรงมา เมื่อมองเสื้อผ้าเปียกๆ ที่สกปรกของอีกคนก็พูดขึ้นทันที “เธอไปอาบน้ำเถอะ”
“ค่ะ ว่าแต่เราจะไม่บอกประธานโม่จริงๆ เหรอคะ” หลินเซี่ยนถามซ้ำ
“มันไม่จำเป็นจริงๆ ” ถังหนิงส่ายหน้า “แค่ลูกสองคนที่บ้านก็ทำให้เขายุ่งพอแล้วล่ะ”
“อย่างนั้นถ้าคุณต้องการอะไรก็เรียกฉันได้นะคะ” หลังพันแผลให้ถังหนิงเสร็จเธอก็รู้ตัวว่าเสื้อผ้าของตัวเองมีกลิ่นเหม็นเล็กน้อย
ในตอนที่ถังหนิงมองหลินเฉี่ยนหันเดินออกไป เธอก็อดไม่ได้ที่จะเอ่ย “ต่อไปอย่างเอาชีวิตมาเสี่ยงเพื่อฉันแบบนี้อีกนะ”
“ฉันเป็นคนจริงจังแบบนี้มานานแล้วล่ะค่ะ” หลินเฉี่ยนพูดก่อนจะกลับไปที่ห้องตัวเองในที่สุด ทิ้งให้อีกฝ่ายตกอยู่ในภวังค์ความคิดตัวเอง เดิมทีเธอคิดว่าคงไม่มีใครก่อเรื่องให้เธอหลังจากที่ได้รับรางวัลที่ทรงเกียรติที่สุด ทว่าไม่คิดเลยว่าจะยังมีใครสักคนที่ทำเช่นนั้นกับเธออยู่
ดูเหมือนว่าวงการบันเทิงนี้จะไม่มีที่สิ้นสุดจริงๆ
คิดได้ดังนั้นจู่ๆ ถังหนิงก็รู้สึกรังเกียจวงการนี้ขึ้นมาทันที เธอต้องการทำงานในสภาพแวดล้อมที่ดีซึ่งไม่มีใครจ้องจะทำร้ายเธอและวิธีสกปรก ที่ที่ทุกคนแค่ทำการแสดงไปและไม่มีเรื่องวุ่นวายนัก
ทว่าในเวลานี้ที่สุดทางเดินของชั้นเดียวกันภายในโรงแรม… ได้มีการเล่นสกปรกเกิดขึ้น
“ทำไมเธอถึงถามหาฉันตอนดึกป่านนี้ล่ะ” ผู้กำกับมองไปรอบๆ หลังจากเปิดประตูห้องและเห็นสวี่ซินยืนอยู่หน้าประตูด้วยเกรงว่าคนอื่นจะเข้าใจผิด
“ผู้กำกับคะ… ฉันรู้ว่าวันนี้ฉันทำพลาดเยอะมากเลยคิดว่าจะมาขอคำแนะนำจากคุณสักหน่อยน่ะค่ะ”
“ฉันเป็นผู้กำกับและเธอเป็นนักแสดง ฉันจะไปแนะนำเธอได้ยังไงล่ะ”
“ฉันพูดกับถังหนิงไปแล้วแต่เธอไม่สนใจฉัน…” สวี่ซินพูดเป็นนัย “ทำไมคุณไม่ช่วยฉันล่ะคะ”
เธออยู่ในชุดที่ค่อนข้างมิดชิดอีกฝ่ายจึงไม่ได้ระวังตัวและคิดว่าเธอต้องการมาขอคำแนะนำจากเขาจริงๆ ทว่าทันทีที่เขาอนุญาตให้เธอเข้ามาในห้องเธอก็ถอดเสื้อคลุมตัวนอกและเกือบจะยืนเปลือยเปล่าต่อหน้าเขา
“เธอจะทำอะไรน่ะ”
“ผู้กำกับคะ ไหนๆ คุณก็หนีสถานการณ์นี้ไปไม่พ้นแล้ว คุณก็น่าจะ…” สวี่ซินพิงตัวเข้าหาอีกฝ่ายและวาดนิ้วไปบนอกของเขา “ฉันเหงาค่ะ ไม่ได้ต้องอะไรนอกจากการได้เป็นคนรักของคุณ เราแค่ต้องใกล้ชิดกันให้บ่อยกว่านี้เท่านั้น..”
“ออกไปนะ!” ผู้กำกับผลักเธอออกไป
“ผู้กำกับคะ… อย่าปฏิเสธฉันเลยค่ะ” สวี่ซินเหมือนกับมืออาชีพที่รู้ว่าจะชนะใจของผู้ชายได้อย่างไร ไม่ควรมีใครถูกหลอกด้วยภาพลักษณ์ภายนอกที่สดใสและไร้เดียงสาของเธอ บอกให้รู้ไว้สำหรับคนที่ไม่ทราบเบื้องลึกเบื้องหลังที่ทำให้เธอมาถึงจุดนี้และคว้าโอกาสในการแสดงหนังใหญ่ขนาดนี้ เธอต้องไม่ธรรมดาแน่
ผู้กำกับรู้ตัวว่าได้ตกหลุมพรางของผู้หญิงคนนี้เสียแล้ว แม้ว่าเขาจะอยากแก้ตัวแต่ก็มีผู้หญิงเปลือยเปล่ามายืนอยู่ในห้องของเขาแล้ว เขาจะรักษาชื่อเสียงของตัวเองอย่างไรได้อีกล่ะ
ซ้ำร้าย อันที่จริงเขาไม่สามารถต้านทานการยั่วยวนของสวี่ซินได้
“ฉันก็แค่อยากจะอยู่กับคุณ…”
หลังจากคืนนี้ความเปลี่ยนแปลงมากมายจะเกิดขึ้น
ในเวลาเดียวกันถังหนิงคงได้ประสบกับโชคชะตาที่พลิกผัน หากเธอไม่ได้รับรางวัล หากเธอไม่ได้ปรากฏตัวบนหน้าจอ แฟนๆ คงลืมเธออย่างรวดเร็ว แฟนคลับนั้นเป็นเรื่องที่ไม่แน่นอนและวงการนี้ก็ช่างโหดร้าย
วันถัดมาถังหนิงกลับมาที่กองถ่าย เมื่อเห็นถังหนิงกลับมาพร้อมบาดแผลผู้กำกับก็อดไม่ได้ที่จะพูด “เธอไม่ต้องมาเร็วขนาดนี้ก็ได้”
ไม่ว่าอย่างไรก็ตาม ผู้กำกับชื่นชมถังหนิง เขาชื่นชมในความตั้งใจและทักษะการแสดงของเธอ
นอกจากนั้นเธอยังเป็นตัวการันตียอดเข้าชม ลึกๆ แล้วเขาจึงคำนึงถึงเธอเป็นอันดับแรกๆ
ทว่าหลังจากเหตุการณ์คืนก่อนหน้านี้ความสำคัญของสวี่ซินในใจของผู้กำกับก็ได้มากขึ้น ไม่มีผู้ชายคนไหนที่จะปฏิเสธผู้หญิงที่เชี่ยวชาญเรื่องบนเตียง ผู้หญิงที่น่าดึงดูด วันนี้เขาจึงมองไปที่สวี่ซินด้วยสายตาที่พึงพอใจขึ้นมาก
อันที่จริงสวี่ซินไม่ได้ดึงผู้กำกับมาอยู่ข้างเธอเพราะต้องการแข่งกับถังหนิง เธอรู้ว่าด้วยความสามารถของตัวเองตอนนี้นั้นไม่สามารถเอาชนะอีกฝ่ายได้
แต่อย่างน้อยเธอก็ทำให้ผู้กำกับให้เธอปรากฏตัวบนหน้าจอมากขึ้นและให้ผลประโยชน์อื่นๆ กับเธอ
เพื่อเป็นการสั่งสอนถังหนิงเธอมีบางอย่างที่ต้องทำ ถึงตอนนี้เธอจะไม่ได้ได้รับความนิยมหรือโด่งดัง แต่หากเธอมีโอกาสปูทางให้ตัวเองเธอก็จะทำ
ดังนั้นเธอจึงรู้สึกเปี่ยมสุขเมื่อเห็นถังหนิงได้รับบาดเจ็บ
“ฉากตอนกลางคืนในบ่อน้ำของพี่หนิงอันตรายมาก ทำไมเราไม่เปลี่ยนให้เป็นฉากตอนกลางวันหรือใช้ตัวแสดงแทนล่ะ” ทีมงานคนหนึ่งเอ่ยขึ้น อย่างไรก็ตามทีมงานไม่ได้คิดว่าการบาดเจ็บของถังหนิงเป็นเรื่องเล็ก
“ไม่ต้องหรอก ทำตามแผนเดิมเถอะ ตอนนี้ไม่ควรเกิดปัญหาอะไรแล้วล่ะ” ถังหนิงตอบ
ถังหนิงต้องการแสดงความเป็นมืออาชีพเมื่อเป็นเรื่องของการแสดง
“ตัวละครที่ฉันเล่นต้องสู้ชีวิต แผลจะทำให้มันดูสมจริงขึ้น”
ทางทีมงานไม่มีทางเลือกเมื่อได้ยินดังนั้น
“พี่หนิง อย่าทำให้ทีมงานลำบากจะดีกว่านะคะ พวกเขาแค่เป็นห่วงความปลอดภัยของพี่” สวี่ซินกล่าวพลางเดินเข้ามาหาถังหนิง “มันจะทำให้เราทุกคนทำงานยากนะคะ”
“ถ้าอย่างนั้นฝ่ายอุปกรณ์ช่วยตรวจสอบอุปกรณ์ให้ดีและรับรองความปลอดภัยในฉากได้ไหมคะ” หลินเฉี่ยนพูดกับสวี่ซิน “การหาคนรับผิดชอบเป็นสิ่งจำเป็นนะคะ”