แม้แต่เอเจนซี่ของเอสเอ็มวายเองยังรู้สึกว่าลัวเซิงโง่ที่ไม่ใช่โอกาสนี้ในการเซ็นสัญญากับต้นสังกัดใหม่
“ด้วยหน้าตาของเขาแล้ว ถ้าเขาฉลาดพอคงได้โด่งดังไปทั่วประเทศแล้วและไม่ต้องมาช่วยพ่อขายผักอยู่ที่บ้านหรอก
“โชคดีที่เขาไม่ได้ดัง ไม่อย่างนั้นปัญหาของเราตอนนี้คงสะสางได้ยากกว่านี้ ฉันก็ระวังแล้วนะคะ ทำไมถึงเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นได้” ผู้จัดการของเอสเอ็มวายเอ่ยกับเจ้าของเอเจนซี่
“ในฐานะคนที่อยู่ในระดับล่างของวงการบันเทิง เธอยังคิดว่าจะมีความลับได้เหรอ”
ทุกคนต่างรู้สึกโชคดีที่ลัวเซิงทำงานหนักเหมือนกับคนทั่วไปอยู่ที่บ้านโดยไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ อย่างไรหากศิลปินไม่ได้รู้เรื่องอะไรด้วยและไม่ได้เต็มใจที่จะไปมีส่วนร่วมในการกระทำลับหลัง พวกเขาก็สมควรที่จะยอมแพ้ได้แล้ว
สมาชิกวงเอสเอ็มวายไม่พอใจที่ลัวเซิงเป็นเพียงคนเดียวที่ได้รับการชื่นชม จึงสั่งให้คนไปหาเรื่องที่ร้านเขา
“บอกลูกชายของคุณว่าให้เก็บตัวเงียบๆ และอย่าเสนอหน้าออกมาจะดีกว่า ไม่งั้นเราจะเล่นงานเขาทุกครั้งที่เจอ”
ชายร่างใหญ่ทั้งสามคนมาถึงที่ร้านของลัวเซิง พังทุกอย่างที่ขวางหน้าและข่มขู่พ่อแม่ของลัวเซิงอย่างหนัก
หลังจากนั้นคุณนายลัวก็เก็บเรื่องนี้ไว้กับตัวเองเพื่อไม่ให้ส่งผลกระทบกับลัวเซิง
ดังนั้นลัวเซิงจึงไม่รู้เรื่องนี้แต่อย่างใด ทว่าหลงเจี่ยที่มีแหล่งข่าวอยู่ทุกที่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น เธอจึงลงมือเอาคืนแทนเขา
…
ไม่นานละครโทรทัศน์ที่ลัวเซิงเข้าร่วมแสดงสมทบก็เริ่มออกอากาศในช่วงที่มีผู้ชมมากที่สุดของช่องดัง
แม้ว่าจะมีแต่นักแสดงหน้าใหม่ แต่พวกเขาก็หน้าตาดีอย่างปฏิเสธไม่ได้ นอกจากนี้ตัวละครที่เล่นยังเจ้าเล่ห์ เย็นชา และเฉลียวฉลาด ถึงฝีมือการแสดงจะไม่ได้โดดเด่นมากนักแต่ก็แสดงเข้ากันได้ดี หลังจากผ่านไปสองตอนพวกเขาจึงรับได้รับผลตอบรับจากผู้ชมอย่างล้นหลาม
[นี่! เธอดูละครที่เพิ่งออกมาล่าสุดหรือยัง ใจฉันนี่เต้นแทบบ้าเลยล่ะ]
[โห หน้าตาดีกันหมดทุกคนเลย มองผ่านหน้าจอยังรู้สึกได้ถึงระดับคอลลาเจนที่สูงปรึ๊ด]
[ฉันรู้สึกเหมือนตัวเองกลับมาเป็นวัยรุ่นเลย]
[เพิ่งปล่อยมาแค่สองตอน แต่หลังจากดูแล้วฉันรู้สึกว่ามันโอเคเลยและก็ไม่น่าเบื่อด้วย นานๆ ทีจะมีละครแบบนี้ออกมา]
[ตาม! ตาม! มีละครให้ต้องตามแล้วล่ะ]
เพราะออกอากาศมาเพียงสองตอน นักแสดงสมทบชายจึงยังไม่ค่อยได้ปรากฏบนหน้าจอมากนัก แต่ตัวละครอันธพาลเย็นชาประจำโรงเรียนที่ลัวเซิงรับบทนั้นก็ทำให้ผู้ชมสาวๆ กรีดร้องด้วยความตื่นเต้นทันทีที่เห็นเขา
เขาสวมเสื้อเชิ้ตสีขาวสะอาดพร้อมรองเท้าผ้าใบสีเดียวกัน ขณะที่เดินผ่านเพื่อนร่วมโรงเรียน เขาแผ่รังสีความห่างเหินแม้ว่าจะขนาดตัวพอๆ กับอีกฝ่าย
[เด็กหนุ่มคนนี้นี่งานดีจริงๆ]
[ทำไมเขาถึงดูคุ้นๆ หน้านะ]
[โอ๊ะ ฉันดูชื่อนักแสดงมา เขาคือลัวเซิง”
[เขาโคตรหล่อเลย ลัวเซิง มาเป็นพ่อของถูกฉันเถอะ]
เป็นไปอย่างที่ถังหนิงคาดไว้จริงๆ ว่าคนจะตั้งใจไปค้นหาประวัติของลัวเซิงด้วยความตื่นเต้นหลังจากที่ได้ดูละครของเขา
โดยเฉพาะกับเด็กสาววัยรุ่นด้วยแล้ว พวกเธอจะไม่เขินเมื่อเห็นหน้าหล่อๆ ของเขาไปได้อย่างไร
ใช้เวลาไม่นานระดับความนิยมของ “ระวังให้ดี จอมปีศาจกำลังมา” ก็เริ่มพุ่งสูงขึ้น ดังนั้นในคืนที่สามของการออกอากาศ ตัวเลขจึงทะยานขึ้นไปอย่างไม่หยุดยั้ง ในไม่ช้าการดูละครเรื่องนี้ไปพร้อมๆ กับทำการบ้านจึงกลายเป็นสิ่งแรกที่เด็กสาวจะทำหลังกลับมาจากโรงเรียน
แม้แต่พ่อแม่ของพวกเขาที่สังเกตได้ว่าลูกสาวของตัวเองคลั่งไคล้เด็กหนุ่มคนนี้ยังอดไม่ได้ที่จะถอนหายใจออกมา “เด็กหนุ่มคนนี้นี่หล่อเนี้ยบดีนะเนี่ย”
เดิมทีพวกเขาอยากจะปิดละครทิ้ง แต่ท้ายที่สุดก็อนุญาตให้ดูจนได้ จะว่าไปแล้วตอนเด็กๆ ใครจะไม่หลงเสน่ห์คนหน้าตาดีๆ บ้างล่ะ
ในเวลานี้เอเจนซี่เก่าของลัวเซิงได้รับข่าวถึงการปรากฏตัวของเขาในละครโทรทัศน์แล้วในที่สุด
เมื่อเห็นฐานแฟนคลับของลัวเซิงค่อยๆ มากขึ้นทุกวัน อดีตผู้จัดการของเขาก็อารมณ์เสียขึ้นมา “ลัวเซิง! ฉันคิดว่าเขาออกจากวงการไปแล้วซะอีก แต่เขากลับไปถ่ายละครลับหลังเราเนี่ยนะ จริงๆ แล้วละครของเขาเพิ่งออกอากาศไปไม่กี่ตอนเองและก็ดูเหมือนเขาจะดังขึ้นมาซะด้วย หน้าไม่อายจริงๆ!”
หลังจากเห็นข่าว สมาชิกวงเอสเอ็มวายถึงกับตกตะลึงไปเช่นกัน “ลัวเซิงต้องวางแผนไว้แน่ๆ เขาเลยทิ้งเราไปเล่นละครแบบนี้”
“มีเจี่ย เราจะปล่อยให้เขาทำแบบนี้ไม่ได้นะ ไม่อย่างนั้นเราจะเป็นยังไงกันล่ะ”
“ใช่ครับ เราเริ่มต้นมาจากวงเดียวกัน เขาจะเหยียบเราขึ้นไปโด่งดังไม่ได้”
“ไม่ต้องห่วง ฉันจะติดต่อเอเจนซี่ปัจจุบันของเขา อยากจะรู้นักว่าเอเจนซี่ไหนที่ยอมให้โอกาสที่สองกับคนอย่างลัวเซิง”
หากแต่ไม่ว่าพวกเขาจะปฏิเสธเพียงไหน ลัวเซิงก็มีชื่อเสียงขึ้นมาแล้ว
ชื่อเสียงอันฉาวโฉ่ของเอสเอ็มวายเป็นที่เลื่องลือไปทั่วประเทศ ในขณะที่ลัวเซิงได้รับสัญญาใหม่ในชีวิต อยู่ดีๆ เขาก็ได้มาอยู่บนเส้นทางสู่การมีชื่อเสียง
“เมื่อก่อนเขาเคยโดนชวนไปมีเซ็กส์หมู่ ฉันละสงสัยว่าถ้าเราเปิดเผยเรื่องนี้ แฟนคลับของเขายังจะชอบเขาอยู่ไหม”
“เขายังดูเหมือนเป็นคนขี้เมาอีกด้วย”
“ไอ้พวกโง่!” ผู้จัดการของเอสเอ็มวายตบโต๊ะเมื่อเห็นความคิดตื้นๆ ของพวกเขา “ถ้านายแฉเรื่องของลัวเซิงตอนนี้ นายจะกลายเป็นแค่ตัวปัญหาที่ใส่ร้ายเขา ที่แย่ไปกว่านั้นคือคนอื่นจะคิดว่านายพยายามจะเกาะลัวเซิง อยากจะมีภาพลักษณ์แย่ๆ หรือยังไง”
เด็กหนุ่มทั้งสามคนสงบเสงี่ยมลงอย่างเงียบๆ
“ฉันจะจัดการเรื่องนี้เอง นายสามคนไม่ต้องกังวลไปหรอก” ผู้จัดการเหลือบมองพวกเขา พวกเขาจะรู้ได้อย่างไรว่าที่ลัวเซิงโด่งดังขึ้นมาเป็นความตั้งใจหรือเรื่องบังเอิญ
ทุกอย่างเกิดขึ้นได้ด้วยการตัดสินใจที่เฉียบขาดของถังหนิง การดำเนินการของหลงเจี่ย และการจัดการของหลินเชี่ยน
คนภายนอกคลั่งไคล้ในรูปร่างหน้าตาของลัวเซิง แต่เจ้าตัวกลับไม่ได้เตรียมใจกับการให้ความสนใจที่อยู่ๆ ก็ถาโถมเข้ามา
เมื่อเห็นรอยยิ้มที่หาได้ยากบนหน้าลัวเซิง หลงเจี่ยก็เอ่ยเตือน “ต่อไปนายจะมีชื่อเสียงมากขึ้นอีก ฉะนั้นเอเจนซี่เก่าของนายจะต้องมาตามหานายแน่ พวกเขาอาจจะพยายามใส่ความนาย ติดสินบน หรือพยายามเล่นไม่ซื่อกับนายได้”
“ไม่ต้องเป็นห่วงครับ พี่หลงเจี่ย ผมจะทำตามที่พี่บอก”
“มีเรื่องหนึ่งที่ฉันยังไม่ได้บอกนาย” หลงเจี่ยคิดอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะเล่าเรื่องของคุณนายลัวและคุณพ่อลัวให้ท้ายที่สุด “ฉันรู้ว่าอะไรจะเกิดขึ้นหลังจากบอกเรื่องนี้กับนายแต่ก็เลือกที่จะทำ เพราะฉันอยากรู้ว่าถ้านายเกิดใจร้อนขึ้นมา นายจะเชื่อใจว่าเราจะแก้แค้นให้นายหรือเปล่า หรือนายจะหุนหันทำอะไรด้วยตัวเองและทำลายชีวิตที่เพิ่งจะได้สร้างขึ้นมาใหม่”
หลังได้ยินดังนั้น ลัวเซิงก็กำหมัดแน่นจนส่งเสียงดัง
“มันยังไม่ถึงเวลา”
ได้ยินหลงเจี่ยพูดแบบนี้ เขาก็สูดหายใจลึกและพยายามสงบใจลง “ไม่ต้องห่วงครับ ผมจะไม่ทำอะไรบุ่มบ่าม”
“ดี นายรู้ไหม ขนาดละครยังออกอากาศไปไม่ถึงครึ่งเรื่องแต่ก็มีงานโฆษณาเริ่มติดต่อนายมาแล้ว อีกอย่างยังถูกเชิญไปเล่นละครวัยรุ่นเรื่องอื่นด้วยนะ เส้นทางของนายเพิ่งเริ่มต้นขึ้นเอง
“สำหรับพวกสิ่งมีชีวิตที่ชอบเล่นไม่ซื่อ พวกเขาทำได้แค่อิจฉาไปวันๆ นายแค่ต้องสนใจทำหน้าที่ของตัวเองให้ดีและปล่อยให้เราจัดการเรื่องของพวกเขา”