“หลังจากที่เธอผ่านเข้ารอบหนึ่งร้อยคนสุดท้าย เธอจะได้เจอฉันเองนั่นแหละ” ริมฝีปากถังหนิงยกขึ้นเป็นรอยยิ้ม ด้วยเธอเอ่ยด้วยจังหวะที่ไม่เร็วและช้าจนเกินไป น้ำเสียงเธอจึงปลอบประโลมจิตใจได้ดีไม่น้อย
นั่นเป็นเหตุที่ทำให้ซิงหลานสงบใจลงได้ แม้ว่าคนที่อยู่ด้านหลังเธออย่างหลี่ชั่นจะเป็นอันตรายแค่ไหนก็ตาม
เมื่อเห็นว่าซิงหลานผ่อนคลายบ้างแล้ว หลินเฉี่ยนพิงตัวและส่งยิ้มให้ “ตอนนี้รู้สึกดีขึ้นแล้วใช่ไหม”
“ฉันสงสัยว่าทำไมคุณถึงเลือกฉันคะ” ซิงหลานเอียงศีรษะด้วยท่าทางสงสัยไปทางหลินเฉี่ยน “คนอย่างฉันที่ไม่ได้มีชาติตระกูลมาจากไหนแถมยังมีชงักติดหลัง ทำไมคุณถึงเลือกฉันคะ”
“จุดประสงค์หลักของจู้ซิงมีเดียคือการตามหาศิลปินอย่างคุณที่มีความสามารถแต่กลับไม่ได้รับความสนใจค่ะ” หลินเฉี่ยนส่งสายตามาให้ “ดังนั้นคอยดูคนที่จะมาเข้าร่วมสังกัดของเราอีกในอนาคตได้เลยค่ะ”
เมื่อได้ยินคำตอบของหลินเฉี่ยน ซิงหลานก็อึ้งไปไม่น้อย เธอนึกไม่ถึงว่าจะมีเอเจนซี่อย่างนี้ในวงการบันเทิงด้วย และเธอโชคดีพอที่ได้มาพบกับพวกเขา
“เลิกคิดมากได้แล้วค่ะ ผ่อนคลายและตั้งใจกับการประกวดของคุณเถอะ”
ซิงหลานพยักหน้ารับในขณะที่ความสงสัยต่อบุคคลที่อยู่เบื้องหลังยังคงก่อตัวเพิ่มขึ้น
ทว่าไม่จำเป็นที่จะต้องรีบร้อนไป เพราะเธอกำลังจะได้เจอกับอีกฝ่ายในเร็วๆ นี้
…
อันที่จริงการประกวดร้องเพลงเจอร์นีย์มีชื่อเสียงโด่งดังไปทั่วปักกิ่ง แม้ว่าจะถูกจัดขึ้นไม่กี่ปีครั้งก็ตาม
บนท้องถนน บนหน้าจอโทรทัศน์ และทั่วโลกออนไลน์… ต่างรายงานความคืบหน้าของการประกวดอย่างใกล้ชิด อย่างไรก็ตาม ถังหนิงก็ยังบอกซิงหลานไม่ให้ทำตัวโดดเด่น เจ้าตัวจึงรู้สึกเหมือนยังไม่ได้อยู่ในการประกวดจริงๆ
หลินเฉี่ยนไปงานประกวดรอบคัดเลือกสามร้อยคนสุดท้ายกับซิงหลานเหมือนอย่างเคย หากแต่ก่อนที่การแข่งขันจะเริ่มขึ้น ซิงหลานสังเกตเห็นสาวสวยจากรอบที่แล้ว น่าน่า
“ดูสิคะ คุณไม่ได้มั่นใจว่าเธอจะตกรอบหรอกเหรอ”
“เธอต้องตกรอบแน่ๆ คุณคงไม่ได้ดูรายการย้อนหลังละสิ” หลินเฉี่ยนเอ่ยพลางยกคิ้วขึ้น “จริงๆ แล้ว ระหว่างการแข่งขันคณะกรรมการวิจารณ์เธอรุนแรงไม่น้อยเลยล่ะ”
“จริงเหรอคะ” ซิงหลานหันไปมองหญิงสาวคนนั้นอีกครั้งด้วยความตกใจ
รูปร่างหน้าตาที่ดีช่วยอะไรไม่ได้หรอกเหรอเนี่ย
“การประกวดกำลังจะเริ่มขึ้นแล้วล่ะ…”
ซิงหลานถือโทรศัพท์ไว้ในมืออย่างรู้สึกกังวลเท่าที่เคยเป็นมา ด้วยรู้ว่าหลี่ชั่นมีแผนที่จะหลอกล่อให้เธอตกหลุมพราง
หลินเฉี่ยนสัมผัสได้ถึงความตื่นตระหนกของเธอก่อนรีบเข้าไปเอ่ยปลอบ “ไม่เป็นไรนะ”
เป็นอย่างที่คาดไว้ เสียงโทรศัพท์ของซิงหลานดังขึ้นในอีกไม่กี่นาทีถัดมา เธอเหลือบมองรายชื่อคนปลายสายและบอกกับหลินเฉี่ยน “ฉันจะออกไปรับสายนะคะ”
“อย่านานนักล่ะ”
ซิงหลานพยักหน้ารับก่อนเดินออกไปที่บริเวณทางเดินเพื่อรับโทรศัพท์ หลังจากฟังสิ่งที่คนปลายสายบอก เธอก็ผลักประตูกระจกออกไปโดยที่ไม่ได้บอกอะไรหลินเฉี่ยน ในเวลาเดียวกันนั้น ไม่ห่างออกไป หลี่ชั่นเฝ้าดูเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทั้งหมดด้วยตาของตัวเอง
“พี่สาวที่รัก เธอนี่มันใสซื่อจริงๆ ” หลี่ชั่นเหยียดยิ้มก่อนที่จะสวมแว่นกันแดดและเดินจากไป
ซิงหลานลงมาโบกแท็กซี่และก้าวขึ้นไปอย่างรวดเร็ว ทว่าก่อนที่แท็กซี่คันนั้นจะไปได้ไกลนักก็ถูกรถอีกคันมาขวางตัดหน้าไว้ก่อน คนขับรถทั้งสองคนจอดรถไว้ข้างทางและเริ่มไกล่เกลี่ยกัน หากแต่ไม่มีใครรู้ว่าเกิดอะไรขึ้นต่อจากนั้น
ขณะเดียวกันหลินเฉี่ยนรู้ว่าซิงหลานกำลังทำอะไรอยู่… แต่การประกวดกำลังจะเริ่มขึ้น มีเวลาเหลืออีกไม่กี่นาทีเท่านั้น หากเธอกลับมาไม่ทันทางผู้จัดจะต้องตัดสิทธิ์เธอแน่
โชคดีที่ไม่นานหลังจากนั้นซิงหลานรีบกลับมาในห้องโถงจากทางประตูหลังและนั่งลงข้างหลินเฉี่ยน
หลินเฉี่ยนหันมาซบศีรษะลงบนไหล่ของซิงหลานพร้อมกระซิบบอก “หลี่ชั่นเพิ่งออกไปเมื่อกี้นี้เอง”
ซิงหลานกำลังอยู่ในเสื้อผ้าชุดใหม่ หมายความว่าใครสักคนคงได้ไป ทักทาย ผู้จัดการของหลี่ชั่นแทนเธอแล้ว
“ฉันรู้ค่ะ” ซิงหลานตอบลับ “ฉันจะทำให้หลี่ชั่นรู้ว่าการร้องเพลงของเธอมันห่วย”
“ถึงเวลาขึ้นเวทีแล้ว ทำให้ดีที่สุดนะคะ”
ครั้งนี้ถังหนิงไม่ได้กำชับอะไรไว้ เธอต้องการให้ซิงหลานตัดสินใจเองว่าจะทำให้ผลออกมาดีที่สุดได้อย่างไร
เพื่อผ่านรอบสามร้อยคนสุดท้ายไปสู่รอบหนึ่งคนสุดท้าย ผู้เข้าแข่งขันจะถูกแบ่งเป็นกลุ่มละสามคน จะมีเพียงหนึ่งคนจากสามคนที่จะผ่านเข้ารอบ ส่วนอีกสองคนจะถูกคัดออก
เมื่อเทียบกับรอบก่อนๆ แล้ว คนที่ผ่านเข้ารอบสามร้อยคนสุดท้ายไม่เพียงแต่มีความสามารถแต่ยังมีพื้นฐานมาแล้วอีกด้วย
ดังนั้นวิธีที่ใช้ก่อนหน้านี้จึงไม่ได้ผลอีกต่อไป หากแต่ครั้งนี้เธอไม่มีทางเลือกมากนักเพราะฝ่ายกรรมการจะเป็นคนเลือกเพลง ทุกคนจึงก้าวขึ้นไปบนเวทีด้วยความตื่นเต้น
ไม่นานก็ถึงเวลาที่ซิงหลานต้องขึ้นเวที ในจังหวะที่เวทียกขึ้นสูงท่ามกลางบรรยากาศที่ตึงเครียดขึ้นเรื่อยๆ ซิงหลานดูออกว่าความคาดหวังของคณะกรรมการนั้นยิ่งเอาจริงเอาจังขึ้น
“หมายเลขหนึ่งร้อยสิบห้าก่อนที่คุณจะเริ่ม บอกเราได้ไหมครับว่าทำไมคุณถึงเข้าร่วมการประกวดนี้”
กรรมการทั้งสี่มีท่าทีเข้มงวดและไม่นิยมคำสอพลอ
ซิงหลานโค้งให้พวกเขาและหยิบไมโครโฟนขึ้นมา “เพราะความฝันและชีวิตของฉันถูกขโมยไปค่ะ ฉันมาที่นี่เพื่อทวงคืนของที่เป็นของฉันกลับมา”
“ผมคิดว่าคุณกำลังจะบอกว่าเมื่อก่อนคุณเคยชนะรางวัลมามากหรืออะไรทำนองนั้น…” กรรมการสนใจคำตอบของซิงหลาน “คุณดูเหมือนคนที่มีเรื่องราวนะ เริ่มแสดงทันทีที่คุณพร้อมได้เลยครับ ผมมั่นใจว่าคุณจะถ่ายทอดเรื่องราวในอดีตของคุณในการประกวดนี้”
ซิงหลานโค้งให้อีกฝ่ายอีกครั้ง
ไม่ช้าเวทีก็ตกอยู่ในความมืดพร้อมแสงไฟที่ส่องตรงมาที่เธอ ซิงหลานฟังท่อนแรกของเพลงอย่างตั้งใจก่อนรอยยิ้มจะค่อยๆ ปรากฏขึ้นบนใบหน้าของเธอ
…
“พวกเธอได้ยินไหม เดิมทีรายชื่อคนที่ผ่านเข้ารอบร้อยคนสุดท้ายจะประกาศออกมาในสามวัน แต่ผู้เข้าแข่งขันคนหนึ่งเอาเพลงมาร้องใหม่ในแบบของเธอ ทำให้กรรมการประทับใจจนให้ผ่านเข้ารอบต่อไปได้เลย”
“อย่างนั้นก็ได้ด้วยเหรอเนี่ย ฉันคิดว่าพวกเขาต้องเทียบกับการแสดงของนักร้องต้นฉบับแน่ๆ ”
“เธอคิดว่าตัวเองเองเป็นใครกัน จะมีสักกี่คนที่ร้องได้ดีกว่าต้นฉบับกันน่ะ” ผู้เข้าแข่งขันสองคนถกเถียงกันหลังจากการแข่งขันจบลง ในขณะที่พวกเขาเห็นเด็กสาวบ้านๆ คนหนึ่งก้าวออกมาจากห้องน้ำ พวกเขาทำเมินเฉยและพูดคุยกันต่อไป
“นี่ เธอคิดว่าเด็กสาวคนนั้นมาประกวดที่นี่เหมือนกันหรือเปล่า เธอดูไม่ค่อยได้เรื่องเลยนะแล้วยังมาพยายามทำตัวสำออยอีก”
“ฮ่าๆๆ เธอหน้าตาน่าเกลียดขนาดนั้นแต่ยังผ่านเข้ามาได้ถึงรอบนี้ เธอต้องเล่นไม่ซื่อลับหลังแน่เลย”
ในขณะที่หญิงสาวสองคนกำลังหัวเราะ อยู่ๆ หลินเฉี่ยนก็โผล่มาด้านหลังพวกเธอและยืนขวางประตูเอาไว้ “คนที่เธอกำลังหัวเราะเยาะอยู่เป็นคนเดียวที่ผ่านเข้ารอบล่วงหน้าไปในรอบต่อไป ฉันตามหลังพวกเธอมาสักพักแล้ว นังพวกคนปากมาก”
หญิงสาวทั้งสองคนอี้งไปอย่างเห็นได้ชัดพร้อมใบหน้าขึ้นสี
หลินเฉี่ยนยิ้มเย้ยและเดินกอดอกจากไป
หลินเฉี่ยนทึ่งกับการทำให้ตัวเองโดดเด่นเพื่อผ่านเข้ารอบร้อยคนสุดท้ายของซิงหลาน หากแต่มาคิดๆ ดูแล้ว มันเกิดขึ้นได้อย่างไรกัน
คงถึงเวลาที่เหมาะสมแล้ว
อย่างไรก็ตามข่าวของซิงหลานจะแพร่สะพัดไปทั่วประเทศและจู้ซิงมีเดียกำลังจะเป็นที่รู้จัก เป็นเวลาอันเหมาะสมที่พวกเขาจะเปิดเผยตัว ไม่ว่าจะเป็นซิงหลานหรือจู้ซิงมีเดียก็ตาม
ในเวลาเดียวกันหลังจากที่หลี่ชั่นกลับมาถึงบ้าน เธอเปิดแชมเปญเพื่อเตรียมฉลองไว้แล้ว ทว่าโชคไม่ดีนักที่เธอกลับได้รับข่าวว่าซิงหลานผ่านเข้ารอบล่วงหน้าหนึ่งร้อยคนสุดท้ายแทน!
“นังบ้านั่น! เป็นไปได้ยังไงกัน” หลี่ชั่นไม่อยากจะเชื่อขณะที่รีบเปิดดูข่าวในโลกออนไลน์ แต่เธอก็ต้องตกตะลึงเมื่อทุกคนต่างพูดถึงซิงหลานบนอินเทอร์เน็ต