หลี่ชั่นรอแล้วรอเล่าแต่ก็ยังไม่ได้ความคืบหน้าเรื่องซิงหลานจากพ่อแม่ของเธอ เธอจึงวิเคราะห์สถานการณ์ที่เกิดขึ้นกับผู้จัดการของเธอด้วยความสงสัย “พ่อแม่ฉันมีอิทธิพลกับเธอขนาดนั้น การทำลายซิงหลานน่าจะเป็นเรื่องง่ายๆ ไม่ใช่เหรอ ทำไมพวกเขายังไม่ลงมือทำอะไรอีกล่ะ”
“โทรไปถามพวกเขาสิ”
“แม่โทรมาขออยู่กับฉันสักพักและฉันก็บอกปัดเธอไปแล้ว”
“ตอนนี้เธอต้องการความช่วยเหลือจากพวกเขานะ เธอช่วยเอาใจเขาสักหน่อยไม่ได้หรือยังไง” ผู้จัดการของเธอประหลาดใจเล็กน้อย “สมองเธอเพี้ยนไปแล้วหรือเปล่าเนี่ย”
“ฉันรู้ว่าฉันควรทำอะไร แต่ถ้าใครถ่ายรูปที่เราอยู่ด้วยกันไว้ก็ได้ขายหน้ากันพอดี” หลี่ชั่นตอบกลับ “ฉันไม่สนใจหรอก ฉันจะโทรถามพวกเขาว่าเกิดอะไรขึ้นแล้วกัน”
พูดจบหลี่ชั่นก็หยิบโทรศัพท์ออกมา แต่ในครั้งนี้เธอต่อสายหาพ่อของเธอแทนแม่ของตัวเอง “พ่อคะ… เรื่องของพี่เป็นยังไงบ้างคะ”
“แม่ของลูกกับพ่อกำลังคิดแผนกันอยู่” คุณพ่อหลี่โกหกคำโต “เราเป็นแค่คนธรรมดา ไม่ง่ายที่จะเข้าถึงตัวหลี่ซินได้เลย”
“พ่อคะ อย่าหาว่าฉันโหดร้ายกับหลี่ซินเลยนะคะ ถ้าอดีตของเธอเปิดเผยขึ้นมา ครอบครัวของเราทั้งหมดจะเดือดร้อนไปด้วยนะคะ” หลี่ชั่นจงใจกระตุ้นพ่อของเธอด้วยการเอาศักดิ์ศรีของเขามาล่อ
“เราเข้าใจ” ปลายสายว่าก่อนจะตัดสายไป หากแต่เขากลับโกรธจนแทบปาโทรศัพท์ลงกับพื้น “เด็กนั่นแค่โทรมาเช็กว่าเราจัดการพี่สาวของเธอไปหรือยัง นังเด็กเลือดเย็น”
“ตาเฒ่า ทีนี้เราจะทำยังไงกันดีล่ะ” คุณนายหลี่เอ่ยถาม
“โทรหาคุณหลง”
ตอนนี้หลี่ชั่นได้กลายเป็นหนามตำใจสำหรับคุณพ่อหลี่ไปเสียแล้ว
เด็กที่พวกเขาเคยมองว่าเป็นความหวัง อยู่ๆ กลับกลายเป็นคนโหดร้าย วางแผนทำลายครอบครัวตัวเอง
คุณพ่อหลี่จึงโทรหาหลงเจี่ยและถามว่าต้องทำอย่างไรต่อ
หลงเจี่ยดูออกว่าพวกเขาติดกับเข้าแล้ว เธอจึงตัดสินใจทำให้พวกเขาผิดใจกันมากกว่าเดิม “คุณลุงคะ เดี๋ยวก่อนนะคะ จริงๆ แล้วหลี่ชั่นก็เป็นลูกสาวที่ทำให้คุณอับอายเหมือนกันนี่คะ เพื่อหาเรื่องและกำจัดพี่สาวตัวเองไม่ให้ชนะการประกวด เธอต้องกำลังจะออกมาแฉเรื่องในอดีตด้วยตัวเองแน่ คอยดูได้เลยค่ะ”
“เธอไม่กล้าหรอกน่า!”
“ถ้าเธอทำขึ้นมาจริงๆ ล่ะคะ อย่างนั้นคุณลุงก็ควรแสร้งทำเป็นช่วยเธอแล้วเราจะใช้โอกาสนี้ในการล้างมลทินให้ซิงหลานกันค่ะ ถ้าเธอจะชนะการประกวดได้ เธอจะมีชงักติดหลังไม่ได้นะคะ”
หลังจากคุณพ่อหลี่ฟังคำของหลงเจี่ย เขาก็พยักหน้ารับ
หากหลี่ชั่นกล้าลงมือเขาจะล้มเลิกทุกอย่าง รวมถึงตัดขาดกับลูกสาวคนนี้และช่วยหลี่ซินแทน
ในท้ายที่สุดหลี่ชั่นก็ไม่อาจทนได้อย่างที่คาดเอาไว้
รายชื่อผู้เข้ารอบหนึ่งร้อยคนสุดท้ายถูกประกาศออกมาแล้ว หากแต่หลี่ชั่นยังไม่ได้ความคืบหน้าจากคู่รักสูงวัย เธอจึงตัดสินใจติดตามดูพวกเขา และพบว่าพวกเขาไปหาซิงหลานและพยายามก่อเรื่องให้อีกฝ่าย แต่ด้วยอำนาจของผู้จัดการของซิงหลานที่จ้างบอดี้การ์ดมาคุ้มกัน ทำให้ไม่มีทางที่พวกเขาจะเจอเธอได้แม้แต่น้อย
ความจริงแล้วนี่เป็นแผนที่หลงเจี่ยวางเอาไว้ล่วงหน้า
ทั้งหมดนี้เพื่อหลอกล่อให้หลี่ชั่นตกหลุมพราง
คืนนั้นหลี่ชั่นโทรหาพ่อแม่ของเธออีกครั้ง “ถ้าพ่อกับแม่ทำอะไรเธอไม่ได้ ฉันจะลงมือจัดการเรื่องนี้เอง”
“ลูกวางแผนจะทำอะไรเหรอ”
“ฉันจะใช้เส้นสายที่ฉันมีเตือนผู้จัดการประกวดเรื่องที่พี่เคยเป็นหัวขโมย มันจะทำให้พวกเขาต้องจัดการกับเธอเป็นการภายในและตัดสิทธิ์เธอออกจากการประกวด อย่างนั้นเราก็จะไม่พลอยเดือดร้อนไปด้วย”
“แต่ว่ายังไม่มีใครจำพี่สาวของลูกได้เลยนะ!”
“เดี๋ยวต่อไปก็มีคนจำเธอได้อยู่ดีแหละค่ะ” หลี่ชั่นเอ่ยเตือน “หนูต้องวางสายแล้ว หนูจะทำตามแผนของหนูค่ะ”
“ยัยปีศาจ!” ในที่สุดคุณพ่อหลี่ก็เห็นธาตุแท้ของหลี่ชั่น เธอแค่ไม่ต้องการให้พี่สาวของเธอได้ดีไปกว่าเธอเท่านั้น
“ตาเฒ่า ไหนๆ คุณหลงก็จัดการไว้แล้ว ทำตามที่เธอบอกเถอะ”
“โอเค” คู่รักสูงวัยตกลงปลงใจที่จะทำตามหลงเจี่ย “หลังจากเรื่องนี้จบ เราจะไปเอาบ้านของเรากลับคืนมา ฉันยอมให้หมาอยู่ดีกว่าปล่อยให้นังสวะนั่นได้มันไป”
กลายเป็นว่าการร่วมมือกันกลับสำเร็จไปอย่างง่ายดายเลยทีเดียว
ในเวลาเดียวกัน หลี่ชั่นตัดสินใจเปิดเผยเรื่องในอดีตของซิงหลานก่อนการแข่งขันรอบหนึ่งร้อยคนสุดท้ายจะเริ่มขึ้น เธอจึงไม่มีโอกาสได้ขอความช่วยเหลือจากใคร โชคไม่ดีนักที่ทุกคนต่างอยู่ฝ่ายซิงหลานกันหมดเสียแล้ว พร้อมการแสดงเด็ดๆ ที่กำลังจะมาถึง
“เธอจะทำแบบนี้จริงๆ เหรอ” ผู้จัดการของหลี่ชั่นเป็นกังวล เธอยังรู้สึกมีลางสังหรณ์ว่าเรื่องจะจบไม่สวย
“เมื่อเวลานั้นมาถึงฉันจะปฏิเสธว่าไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกับเธอจะได้ไม่พลอยติดร่างแหไปด้วย” หลี่ชั่นพูดเย้ย “ของเธอเหรอ ที่หนึ่งน่ะเหรอ เธอน่าจะรู้ตัวว่ากำลังเล่นอยู่กับใคร!”
…
หลังจากรายชื่อผู้ผ่านเข้ารอบหนึ่งร้อยคนถูกประกาศออกมา ซิงหลานมารวมตัวกับผู้แข่งขันคนอื่นๆ เพื่อรับทราบกฎการแข่งขันใหม่
จากนี้ไปพวกเขาจะคัดจากหนึ่งร้อยคนให้เหลือหกสิบสี่คนโดยไม่มีโอกาสแก้ตัว และการคัดออกจะถูกตัดสินโดยคะแนนความนิยมจากสาธารณชน
ในที่สุดการแข่งขันที่แท้จริงก็ได้เริ่มต้นขึ้น ซิงหลานจึงรู้สึกตึงเครียดขึ้นมาทันที
“อย่างกังวลไปเลยนะคะ อย่างน้อยหลังจาก เรื่องนั้น ของคุณจบลง ก็จะไม่มีเรื่องไหนมาขวางทางคุณได้อีก แล้วคุณก็จะได้ตั้งใจกับการประกวดได้ไงคะ”
“คุณมั่นใจว่าหลี่ชั่นจะทำตามแผนของเธอใช่ไหมคะ”
“ทำไมถึงจะไม่ทำล่ะค่ะ” หลินเฉี่ยนถาม “นี่เป็นโอกาสเดียวของเธอที่จะทำลายคุณค่ะ”
“ถ้าอย่างนั้นเธอก็น่าสงสารมากเลยค่ะ”
ด้วยการเตรียมการของถังหนิง ซิงหลานมั่นใจว่าชื่อของเธอจะได้รับการล้างมลทิน สิ่งที่เธอต้องอดทนคือกระแสตอบรับในช่วงแรก แต่ทันทีที่เธอกลายเป็นผู้บริสุทธิ์ เธอรู้ว่าจะได้รับความเห็นใจกลับมามากมายเช่นกันเหมือนกับความทุกข์ทรมานที่เธอได้สัมผัสในตอนนี้
ไม่นานหลงเจี่ยได้รับข้อมูลมาจากคนรู้จักของเธอก่อนต่อสายหาถังหนิง
นานแล้วที่ถังหนิงไม่ได้เห็นการแสดงเด็ดๆ และเธอกำลังเบื่ออยู่พอดี หากหลี่ชั่นอยากจะออกลวดลายนักเธอก็จะไม่ห้ามเธอ “เตรียมตัวโต้กลับได้เลย โดยเฉพาะดูให้แน่ใจว่าพ่อแม่ของซิงหลานพร้อมแล้ว”
“ไม่ต้องห่วงค่ะ ทุกอย่างอยู่ในเงื้อมมือของเราแล้ว”
“ดีมาก”
“ลัวเซิงเองก็มีข่าวดีเหมือนกันนะคะ ผู้กำกับช่วยเหลือดูแลเขาและพาเขาไปด้วยหลายงานเลยค่ะ ตอนนี้เขาเรียนรู้การทำความรู้จักกับคนอื่นด้วยตัวเองแล้วล่ะค่ะ”
“บอกให้ลัวเซิงรู้ว่าจู้ซิงมีเดียจะสนับสนุนเขาตลอดไปไม่ว่าเขาจะประสบความสำเร็จหรือล้มเหลวก็ตามด้วยนะ” ถังหนิงสั่ง “อีกอย่างอย่าลืมช่วยให้เขาได้เข้าชิงรางวัลเฟยเทียนในปีหน้าด้วยล่ะ”
“โอเคค่ะ”
“อย่างสุดท้ายหลังจากเรื่องของหลี่ชั่นจบลง ถึงเวลาที่จู้ซิงมีเดียจะปรากฏตัวให้โลกรู้ได้แล้ว”
ลูกๆ ของถังหนิงเดินได้แล้ว แม้ว่าจะยังไม่คล่องมากแต่เธอก็รู้สึกว่าถึงเวลาที่ตัวเองต้องกลับไปทวงสิ่งที่เป็นของเธอกลับมาแล้ว ครั้งนี้จะไม่มีใครล้มเธอได้ลงอย่างที่ซู่ซินทำ
นี่เป็นฉากที่หลงเจี่ยรอคอยมาเนิ่นนาน ยิ่งเมื่อนึกถึงว่าแม่สามีของเธอต้องการน้ำเชื้อของลู่เช่อมากแค่ไหน…
เธอไม่เคยลืมความน่าอับอายนั้นเลยแม้แต่น้อย
เธอจึงรู้ว่าเพียงแค่เธอพัฒนาตัวเองขึ้นก็จะทำให้ตัวเองควรค่าที่จะได้รับความเคารพจากคนอื่น!
…
ในเวลานี้เองที่หลี่ชั่นได้ติดต่อช่างภาพแอบถ่ายและปล่อยบทความที่ใครๆ ก็ต้องให้ความสนใจ และคิดแม้แต่หัวเรื่องที่ล่อตาล่อใจ
‘อดีตหัวขโมยก้าวขึ้นเวทีการแข่งขันอีกครั้ง : เปลี่ยนชื่อปกปิดตัวตน’
ความจริงแล้วเธอต้องการจะจู่โจมชี้เฉพาะไปที่ซิงหลานว่าเป็นหัวขโมยไปตรงๆ เสียด้วยซ้ำ
หากแต่ช่างภาพแอบถ่ายกลับคิดว่าเธอควรจะยั้งมือไว้บ้างและไม่ต้อนพี่สาวของเธอให้จนมุมเกินไป
ฮ่าๆ ต้อนเธอให้จนมุมไงล่ะ!
แม้แต่ช่างภาพแอบถ่ายยังรู้ว่าเรื่องแบบนี้สามารถทำลายคนได้เลย!