“ซย่าหันโม่ อายุยี่สิบเอ็ดปี นักแสดงสังกัดเชียนหยิ่งมีเดีย ซึ่งทำให้เธอได้แจ้งเกิดในละครโทรทัศน์เรื่องหนึ่งค่ะ เธอโด่งดังอยู่ช่วงหนึ่งเพราะละครเรื่องนี้ แต่หลังจากนั้นเพราะข่าวฉาวที่ว่ากันว่าเธอมีเสี่ยเลี้ยง แสร้งว่าเป็นพ่อบุญธรรม และชอบทำตัวอ่อยไปทั่ว ชื่อเสียงของเธอเลยเสื่อมเสียลงเรื่อยๆ ข่าวพวกนี้ลือกันมาได้สี่ปีแล้ว เพราะฝ่ายประชาสัมพันธ์ของเธอทำพลาด ปล่อยให้เธอโดนข่าวพวกนี้โจมตีอยู่เนืองๆ ต่อให้เธอแค่จิบน้ำสื่อก็สามารถทำให้เป็นข่าวฉาวได้แล้ว นี่อาจจะนับได้ว่าเป็นความสามารถของเธอก็ได้นะคะ
“แม้ว่าเธอจะดูทำอะไรไม่คิดไปบ้าง แต่เธอก็เป็นคนจิตใจดีค่ะ เรื่องฉาวโฉ่หลายเรื่องของเธอเกิดจากข่าวลือที่ไม่มีมูลและการทรยศจากต้นสังกัดของเธอเอง จริงๆ แล้วเธอไม่เคยทำอะไรที่ผิดศีลธรรมเลยค่ะ”
หลงเจี่ยรายงานสิ่งที่สืบมากับถังหนิง “เธอก็แค่คนที่ไม่รู้ว่าจะเอาตัวรอดในวงการนี้ได้ยังไงเท่านั้นเอง”
“เธอไม่เคยคิดจะออกจากวงการบ้างเลยเหรอ”
“แน่นอนว่าเคยค่ะ แต่ว่าคนคนหนึ่งที่มีรอยด่างพร้อยขนาดนั้นจะซ่อนตัวจากสื่อได้ยังไงล่ะคะ เธอใช้ชีวิตไปโดยไม่โดนใส่ร้ายไม่ได้ด้วยซ้ำ เธอถึงไม่มีทางเลือกนอกจากยอมอยู่ในวงการต่อไปค่ะ” หลงเจี่ยยักไหล่
“คนมักโดนใส่ความบ่อยๆ เพราะไปขวางทางคนอื่นหรือเป็นที่หมั่นไส้ของชาวบ้าน แต่เธอโดนทำแบบนั้นใส่เพราะว่าเธอรู้ไม่ทันคนอื่น ผู้จัดการของเธอสมคบคิดกับช่างภาพแอบถ่ายหาเงินจากข่าวฉาวของเธอ น่ารังเกียจจริงๆ ”
ถังหนิงรับข้อมูลของซย่าหันโม่จากหลงเจี่ยและพลิกไปมาด้วยท่าทางสบายๆ “เธอไม่จำเป็นต้องกู้ภาพลักษณ์ของเธอหรอก แค่ต้องเปลี่ยนสมองเท่านั้น”
“แต่ว่าการแสดงของเธอก็ไม่เลวเลยนะคะ”
มีคนมากมายที่เจ็บปวดจากความเกลียดชังที่คาดไม่ถึงบนโลกออนไลน์ เพียงแต่ซย่าหันโม่อยู่ในจุดสูงสุดของมัน
“เราจะทำยังไงกันดีคะ”
“ก่อนอื่นไปจัดการกับผู้จัดการของเธอกัน” ถังหนิงตอบกลับ “ปกติแล้วถ้าศิลปินโดนเกลียดโดยที่ไม่ได้ทำอะไรผิด ก็มักเป็นเพราะฝ่ายประชาสัมพันธ์ของพวกเขาเข้าใจตัวศิลปินผิด การแก้ไขจุดนี้ถือเป็นขั้นตอนแรก…
“แต่ว่าแฟนๆ สมัยนี้ก็จัดการไม่ง่ายเลย ถ้าเธอเงียบพวกเขาก็จะบอกว่าเธอยอมรับ และถ้าตอบโต้พวกเขาก็จะบอกว่าเธอทำเกินกว่าเหตุ พวกเขาไม่อนุญาตให้ใครออกมาอธิบายหรือปฏิเสธอะไรทั้งนั้น แถมยังเอาใจยากด้วย”
ทว่าเพราะเหตุนี้มันเลยยิ่งท้าทายมากขึ้นไม่ใช่หรือ
ถังหนิงกลับมาที่บ้านพร้อมความสับสนในใจ หลังจากเห็นลูกชายทั้งสองของตัวเองดิ้นไปมาในอ้อมแขนของโม่ถิง เธอสาวเท้าไปหาทันทีก่อนนั่งลงข้างสามีตัวเอง “ถ้าซย่าหันโม่ดึงให้จู้ซิงมีเดียให้ล่มจมไปล่ะคะ ฉันจะทำยังไงดี”
“คุณทำอะไรได้บ้างล่ะครับ” โม่ถิงถามขณะที่อุ้มลูกๆ พลางมองข้อมูลในมือของเขา “คุณไม่รู้ว่าจะทำยังไงเหรอ”
“ป๊า…ป๊า…ป๊า!” พอเห็นลูกชายตัวเองเอาแต่เรียกโม่ถิง ถังหนิงก็เคาะหัวเจ้าตัวแสบก่อนออกคำสั่ง “เรียกแม่สิ!”
“คุณโกรธเพราะอายเหรอครับ คุณนายโม่” โม่ถิงวางสัญญาในมือลงพร้อมระบายยิ้มพลางหันไปมองถังหนิง “คุณช่วยลัวเซิงกับซิงหลานไว้ได้แล้ว อีกสักคนจะเป็นไรไปล่ะ อีกอย่างการกอบกู้ชื่อเสียงเป็นความสามารถพิเศษของคุณอยู่แล้วนี่ครับ”
แววตาของถังหนิงเปล่งประกายด้วยความแน่วแน่และมั่นใจ โม่ถิงรู้ว่าเธอจะหาทางจัดการได้
วงการนี้บางทีอาจมีลูกเล่นมากมาย หากแต่ถังหนิงรู้ว่าจะใช้มันอย่างไร นี่เป็นสิ่งที่ไม่ต้องสงสัยแม้แต่น้อย
ในท้ายที่สุดคนที่เธอต้องไปรบราฆ่าฟันด้วยนั้นไม่ใช่เพียงใครคนใดคนหนึ่งแต่เป็นคนบนโลกออนไลน์ต่างหาก
จุดด่างพร้อยขนาดใหญ่ของซย่าหันโม่ทำให้เจ้าตัวถูกมองเป็นคนเจ้าชู้ ในสายตาแฟนคลับ เธอไม่ได้มีศักดิ์ศรีสักนิด และนั่นเป็นเพราะผู้จัดการของเธอเอง รูปหลายรูปถูกปล่อยออกมาด้วยเหตุนี้และแทบเป็นไปไม่ได้ที่จะล้างมลทินให้เธอได้เลย
หลังจากคิดใคร่ครวญสถานการณ์อย่างรอบคอบแล้ว ถังหนิงจึงติดต่อซย่าหันโม่กลับไป เธอตัดสินใจที่จะทำสัญญากับอีกฝ่ายพร้อมนัดพบที่บริษัทในวันถัดมา
แน่นอนว่าผู้จัดการของซย่าหันโม่ยังคงไม่รู้เรื่องที่เกิดขึ้น ถ้าเธอรู้ว่ากำลังจะเจอกับอะไร เรื่องคงไม่เงียบและราบรื่นอย่างนี้
เช้าวันถัดมา
ซย่าหันโม่มาปรากฏตัวที่จู้ซิงมีเดียเช้ากว่าปกติเพราะไม่ต้องการให้นักข่าวจับได้ จากนั้นถัง
หนิงจึงพาเธอขึ้นไปที่ห้องทำงานของเธอ หญิงสาวทั้งสองคนนั่งเผชิญหน้ากันเพื่อตกลงทำสัญญาร่วมกัน
“เธอไม่รู้ว่าผู้จัดการทำอะไรกับเธอเลยเหรอ” ถังหนิงถามออกไปตรงๆ
“ผู้จัดการของฉันทำอะไรเหรอคะ” เห็นได้ชัดว่าซย่าหันโม่ไม่ได้รู้เรื่องอะไรแม้แต่น้อย
จริงๆ แล้ว…
ถังหนิงอยากจะเอาสมองของซย่าหันโม่ออกมาล้างเสียด้วยซ้ำ
“ผู้จัดการของเธอถ่ายรูปเธอและเอาไปขายเอากำไรกับพวกแอบถ่าย เธอถึงได้ตกเป็นข่าวฉาวอยู่ตลอดไงล่ะ” ถังหนิงอธิบาย
หลังจากได้ยินดังนั้น รอยยิ้มขมขื่นก็ปรากฏขึ้นบนใบหน้าเธอ “ฉันก็ว่าทำไมเธอถึงเต็มใจที่จะช่วยฉันนัก ที่แท้… เธอก็กำลังหาประโยชน์จากฉันอยู่นี่เอง ทั้งๆ ที่ฉันก็ทำดีกับเธอขนาดนี้…”
ครั้นได้ยินซย่าหันโม่พึมพำขึ้นมา พลันถังหนิงก็ผ่อนน้ำเสียงเพื่อไม่ให้อีกฝ่ายรู้สึกแย่นัก “ไม่ใช่ทุกคนในโลกที่จะยินดีกับความใจดีของเธอหรอกนะ”
ซย่าหันโม่พยักหน้ารับก่อนสูดหายใจลึก “แล้วตอนนี้ฉันต้องทำยังไงคะ”
“เธอควรอยู่บ้านและเพลิดเพลินกับการใช้ชีวิตเป็นเจ้าหญิงมากกว่าที่จะทำงานหนักเพื่อเงิน”
“คุณเองก็รู้พื้นเพของฉันนี่คะ ทำไมคุณต้องจี้จุดอดีตที่เจ็บปวดของฉันด้วย พี่ชายฉันนอนป่วยอยู่ที่โรงพยาบาลและต้องการเงินไปรักษาตัว…” นั่นเป็นเหตุผลที่เธอยอมอดทนแม้ว่าจะถูกใส่ร้ายก็ตาม
ซย่าหันโม่ไม่ได้มาจากครอบครัวที่มีฐานะ อันที่จริงเธอรู้มานานแล้วว่าในฐานะดาราคนหนึ่งตัวเองคงไปไม่ได้ไกลนัก แต่เธอก็ยอมทนเพื่อให้พี่ชายได้รับการรักษาที่ดีขึ้น
“เข้าเรื่องเลยนะ ฉันคิดว่ามันไม่จำเป็นที่เธอจะมาเสียเวลากับคำพูดไร้ประโยชน์พวกนี้เลย”
ซย่าหันโม่เป็นคนรู้คุณคน พ่อแม่ของเธอจากไปตั้งแต่ยังเด็ก และเธอก็ใช้ชีวิตอยู่กับพี่ชายของเธอมาตลอด โชคร้ายที่พี่ชายของเธอติดพนันและให้เธอเป็นผู้ค้ำประกันเงินกู้ เดิมทีเธอคิดว่าจะสลัดพี่ชายของตัวเองทิ้งหลังจากที่เธอมีชื่อเสียง แต่เมื่อเขาตัดสินใจโดดตึกหลังจากโดนเจ้าหนี้ฟ้อง ซย่าหันโม่ก็ไม่สามารถทอดทิ้งญาติเพียงคนเดียวของเธอได้
จุดอ่อนของเธอคือ เธอให้ความสำคัญกับความสัมพันธ์มากเกินไป
“ถังหนิง คุณต้องช่วยฉันนะคะ”
…
ในเวลาเดียวกันนั้นเอง ผู้จัดการของซย่าหันโม่กำลังตามหาตัวเธอด้วยเรื่องธุรกิจของตัวเองและพบว่าเธอไม่ได้อยู่บ้าน ทันทีที่เห็นเธอกลับมาถึงบ้านตัวคนเดียวก็เอ่ยถามอย่างจับผิด “เธอไปไหนมา”
“ไปเดินเล่นค่ะ” ซย่าหันโม่ตอบกลับตามปกติ
“ฉันรู้ว่าเรื่องรูปที่บังเอิญเห็นชั้นในของเธอที่เพิ่งหลุดไปมันกวนใจเธอ แต่เธอก็ผ่านเรื่องพวกนี้มาหลายปีแล้วนี่ ไม่ต้องไปสนใจว่าสื่อจะพูดว่าอะไรหรอกนะ”
“ฉันไม่เป็นไรค่ะ…”
“ดีแล้ว อย่าลืมว่าคืนนี้เธอมีออกงานนะ ฉันไปก่อนล่ะ” ผู้จัดการของเธอเอ่ยก่อนออกไป
อย่างไรก็ตามระหว่างที่ขับรถ เธอก็ได้รับสายจากช่างภาพ “ผมโอนเงินให้คุณแล้วนะ ข้อตกลงเหมือนเดิม”
“เข้าใจแล้ว”
“ผมได้ยินว่าสัญญาของคุณกับซย่าหันโม่กำลังจะหมดแล้ว คุณจะหักหลังเธอได้อีกกี่ครั้งกัน”
“ด้วยความสัมพันธ์ที่เรามีต่อกัน ไม่ยากหรอกที่จะได้รูปเปลือยของเธอหรอก นี่อาจเป็นของขวัญอำลาของฉันก็ได้ คุณคิดว่ายังไงล่ะ”
ปลายสายหัวเราะออกมา “เธออยู่กับคุณมาตั้งสี่ปีแต่คุณก็ยังโหดเ**้ยมพอที่จะทำอย่างนั้นกับเธอ ผู้หญิงนี่น่ากลัวจริงๆ”
“ฉันกำลังช่วยให้หาเงินให้คุณนะ มาพูดมากแบบนี้ได้ยังไงกัน”
ในขณะเดียวกัน ซย่าหันโม่ทำตามคำของถังหนิงและแสร้งทำของตกพื้นบ้าน จากนั้นจึงเปิดไฟฉายโทรศัพท์หาไปทั่วๆ ด้วยตั้งใจจะหากล้องที่ซ่อนไว้
กลับกลายเป็นว่าผู้จัดการของเธอกำลังทำทุกอย่างเพื่อจับตาดูเธอ…