วิวาห์พลิกรัก ฉบับซุปตาร์ – ตอนที่ 847 คุณโกรธเพราะอายเหรอครับ คุณนายโม่

“ซย่าหันโม่ อายุยี่สิบเอ็ดปี นักแสดงสังกัดเชียนหยิ่งมีเดีย ซึ่งทำให้เธอได้แจ้งเกิดในละครโทรทัศน์เรื่องหนึ่งค่ะ เธอโด่งดังอยู่ช่วงหนึ่งเพราะละครเรื่องนี้ แต่หลังจากนั้นเพราะข่าวฉาวที่ว่ากันว่าเธอมีเสี่ยเลี้ยง แสร้งว่าเป็นพ่อบุญธรรม และชอบทำตัวอ่อยไปทั่ว ชื่อเสียงของเธอเลยเสื่อมเสียลงเรื่อยๆ ข่าวพวกนี้ลือกันมาได้สี่ปีแล้ว เพราะฝ่ายประชาสัมพันธ์ของเธอทำพลาด ปล่อยให้เธอโดนข่าวพวกนี้โจมตีอยู่เนืองๆ ต่อให้เธอแค่จิบน้ำสื่อก็สามารถทำให้เป็นข่าวฉาวได้แล้ว นี่อาจจะนับได้ว่าเป็นความสามารถของเธอก็ได้นะคะ

 

 

“แม้ว่าเธอจะดูทำอะไรไม่คิดไปบ้าง แต่เธอก็เป็นคนจิตใจดีค่ะ เรื่องฉาวโฉ่หลายเรื่องของเธอเกิดจากข่าวลือที่ไม่มีมูลและการทรยศจากต้นสังกัดของเธอเอง จริงๆ แล้วเธอไม่เคยทำอะไรที่ผิดศีลธรรมเลยค่ะ”

 

 

หลงเจี่ยรายงานสิ่งที่สืบมากับถังหนิง “เธอก็แค่คนที่ไม่รู้ว่าจะเอาตัวรอดในวงการนี้ได้ยังไงเท่านั้นเอง”

 

 

“เธอไม่เคยคิดจะออกจากวงการบ้างเลยเหรอ”

 

 

“แน่นอนว่าเคยค่ะ แต่ว่าคนคนหนึ่งที่มีรอยด่างพร้อยขนาดนั้นจะซ่อนตัวจากสื่อได้ยังไงล่ะคะ เธอใช้ชีวิตไปโดยไม่โดนใส่ร้ายไม่ได้ด้วยซ้ำ เธอถึงไม่มีทางเลือกนอกจากยอมอยู่ในวงการต่อไปค่ะ” หลงเจี่ยยักไหล่

 

 

“คนมักโดนใส่ความบ่อยๆ เพราะไปขวางทางคนอื่นหรือเป็นที่หมั่นไส้ของชาวบ้าน แต่เธอโดนทำแบบนั้นใส่เพราะว่าเธอรู้ไม่ทันคนอื่น ผู้จัดการของเธอสมคบคิดกับช่างภาพแอบถ่ายหาเงินจากข่าวฉาวของเธอ น่ารังเกียจจริงๆ ”

 

 

ถังหนิงรับข้อมูลของซย่าหันโม่จากหลงเจี่ยและพลิกไปมาด้วยท่าทางสบายๆ “เธอไม่จำเป็นต้องกู้ภาพลักษณ์ของเธอหรอก แค่ต้องเปลี่ยนสมองเท่านั้น”

 

 

“แต่ว่าการแสดงของเธอก็ไม่เลวเลยนะคะ”

 

 

มีคนมากมายที่เจ็บปวดจากความเกลียดชังที่คาดไม่ถึงบนโลกออนไลน์ เพียงแต่ซย่าหันโม่อยู่ในจุดสูงสุดของมัน

 

 

“เราจะทำยังไงกันดีคะ”

 

 

“ก่อนอื่นไปจัดการกับผู้จัดการของเธอกัน” ถังหนิงตอบกลับ “ปกติแล้วถ้าศิลปินโดนเกลียดโดยที่ไม่ได้ทำอะไรผิด ก็มักเป็นเพราะฝ่ายประชาสัมพันธ์ของพวกเขาเข้าใจตัวศิลปินผิด การแก้ไขจุดนี้ถือเป็นขั้นตอนแรก…

 

 

“แต่ว่าแฟนๆ สมัยนี้ก็จัดการไม่ง่ายเลย ถ้าเธอเงียบพวกเขาก็จะบอกว่าเธอยอมรับ และถ้าตอบโต้พวกเขาก็จะบอกว่าเธอทำเกินกว่าเหตุ พวกเขาไม่อนุญาตให้ใครออกมาอธิบายหรือปฏิเสธอะไรทั้งนั้น แถมยังเอาใจยากด้วย”

 

 

ทว่าเพราะเหตุนี้มันเลยยิ่งท้าทายมากขึ้นไม่ใช่หรือ

 

 

ถังหนิงกลับมาที่บ้านพร้อมความสับสนในใจ หลังจากเห็นลูกชายทั้งสองของตัวเองดิ้นไปมาในอ้อมแขนของโม่ถิง เธอสาวเท้าไปหาทันทีก่อนนั่งลงข้างสามีตัวเอง “ถ้าซย่าหันโม่ดึงให้จู้ซิงมีเดียให้ล่มจมไปล่ะคะ ฉันจะทำยังไงดี”

 

 

“คุณทำอะไรได้บ้างล่ะครับ” โม่ถิงถามขณะที่อุ้มลูกๆ พลางมองข้อมูลในมือของเขา “คุณไม่รู้ว่าจะทำยังไงเหรอ”

 

 

“ป๊า…ป๊า…ป๊า!” พอเห็นลูกชายตัวเองเอาแต่เรียกโม่ถิง ถังหนิงก็เคาะหัวเจ้าตัวแสบก่อนออกคำสั่ง “เรียกแม่สิ!”

 

 

“คุณโกรธเพราะอายเหรอครับ คุณนายโม่” โม่ถิงวางสัญญาในมือลงพร้อมระบายยิ้มพลางหันไปมองถังหนิง “คุณช่วยลัวเซิงกับซิงหลานไว้ได้แล้ว อีกสักคนจะเป็นไรไปล่ะ อีกอย่างการกอบกู้ชื่อเสียงเป็นความสามารถพิเศษของคุณอยู่แล้วนี่ครับ”

 

 

แววตาของถังหนิงเปล่งประกายด้วยความแน่วแน่และมั่นใจ โม่ถิงรู้ว่าเธอจะหาทางจัดการได้

 

 

วงการนี้บางทีอาจมีลูกเล่นมากมาย หากแต่ถังหนิงรู้ว่าจะใช้มันอย่างไร นี่เป็นสิ่งที่ไม่ต้องสงสัยแม้แต่น้อย

 

 

ในท้ายที่สุดคนที่เธอต้องไปรบราฆ่าฟันด้วยนั้นไม่ใช่เพียงใครคนใดคนหนึ่งแต่เป็นคนบนโลกออนไลน์ต่างหาก

 

 

จุดด่างพร้อยขนาดใหญ่ของซย่าหันโม่ทำให้เจ้าตัวถูกมองเป็นคนเจ้าชู้ ในสายตาแฟนคลับ เธอไม่ได้มีศักดิ์ศรีสักนิด และนั่นเป็นเพราะผู้จัดการของเธอเอง รูปหลายรูปถูกปล่อยออกมาด้วยเหตุนี้และแทบเป็นไปไม่ได้ที่จะล้างมลทินให้เธอได้เลย

 

 

หลังจากคิดใคร่ครวญสถานการณ์อย่างรอบคอบแล้ว ถังหนิงจึงติดต่อซย่าหันโม่กลับไป เธอตัดสินใจที่จะทำสัญญากับอีกฝ่ายพร้อมนัดพบที่บริษัทในวันถัดมา

 

 

แน่นอนว่าผู้จัดการของซย่าหันโม่ยังคงไม่รู้เรื่องที่เกิดขึ้น ถ้าเธอรู้ว่ากำลังจะเจอกับอะไร เรื่องคงไม่เงียบและราบรื่นอย่างนี้

 

 

เช้าวันถัดมา

 

 

ซย่าหันโม่มาปรากฏตัวที่จู้ซิงมีเดียเช้ากว่าปกติเพราะไม่ต้องการให้นักข่าวจับได้ จากนั้นถัง

 

 

หนิงจึงพาเธอขึ้นไปที่ห้องทำงานของเธอ หญิงสาวทั้งสองคนนั่งเผชิญหน้ากันเพื่อตกลงทำสัญญาร่วมกัน

 

 

“เธอไม่รู้ว่าผู้จัดการทำอะไรกับเธอเลยเหรอ” ถังหนิงถามออกไปตรงๆ

 

 

“ผู้จัดการของฉันทำอะไรเหรอคะ” เห็นได้ชัดว่าซย่าหันโม่ไม่ได้รู้เรื่องอะไรแม้แต่น้อย

 

 

จริงๆ แล้ว…

 

 

ถังหนิงอยากจะเอาสมองของซย่าหันโม่ออกมาล้างเสียด้วยซ้ำ

 

 

“ผู้จัดการของเธอถ่ายรูปเธอและเอาไปขายเอากำไรกับพวกแอบถ่าย เธอถึงได้ตกเป็นข่าวฉาวอยู่ตลอดไงล่ะ” ถังหนิงอธิบาย

 

 

หลังจากได้ยินดังนั้น รอยยิ้มขมขื่นก็ปรากฏขึ้นบนใบหน้าเธอ “ฉันก็ว่าทำไมเธอถึงเต็มใจที่จะช่วยฉันนัก ที่แท้… เธอก็กำลังหาประโยชน์จากฉันอยู่นี่เอง ทั้งๆ ที่ฉันก็ทำดีกับเธอขนาดนี้…”

 

 

ครั้นได้ยินซย่าหันโม่พึมพำขึ้นมา พลันถังหนิงก็ผ่อนน้ำเสียงเพื่อไม่ให้อีกฝ่ายรู้สึกแย่นัก “ไม่ใช่ทุกคนในโลกที่จะยินดีกับความใจดีของเธอหรอกนะ”

 

 

ซย่าหันโม่พยักหน้ารับก่อนสูดหายใจลึก “แล้วตอนนี้ฉันต้องทำยังไงคะ”

 

 

“เธอควรอยู่บ้านและเพลิดเพลินกับการใช้ชีวิตเป็นเจ้าหญิงมากกว่าที่จะทำงานหนักเพื่อเงิน”

 

 

“คุณเองก็รู้พื้นเพของฉันนี่คะ ทำไมคุณต้องจี้จุดอดีตที่เจ็บปวดของฉันด้วย พี่ชายฉันนอนป่วยอยู่ที่โรงพยาบาลและต้องการเงินไปรักษาตัว…” นั่นเป็นเหตุผลที่เธอยอมอดทนแม้ว่าจะถูกใส่ร้ายก็ตาม

 

 

ซย่าหันโม่ไม่ได้มาจากครอบครัวที่มีฐานะ อันที่จริงเธอรู้มานานแล้วว่าในฐานะดาราคนหนึ่งตัวเองคงไปไม่ได้ไกลนัก แต่เธอก็ยอมทนเพื่อให้พี่ชายได้รับการรักษาที่ดีขึ้น

 

 

“เข้าเรื่องเลยนะ ฉันคิดว่ามันไม่จำเป็นที่เธอจะมาเสียเวลากับคำพูดไร้ประโยชน์พวกนี้เลย”

 

 

ซย่าหันโม่เป็นคนรู้คุณคน พ่อแม่ของเธอจากไปตั้งแต่ยังเด็ก และเธอก็ใช้ชีวิตอยู่กับพี่ชายของเธอมาตลอด โชคร้ายที่พี่ชายของเธอติดพนันและให้เธอเป็นผู้ค้ำประกันเงินกู้ เดิมทีเธอคิดว่าจะสลัดพี่ชายของตัวเองทิ้งหลังจากที่เธอมีชื่อเสียง แต่เมื่อเขาตัดสินใจโดดตึกหลังจากโดนเจ้าหนี้ฟ้อง ซย่าหันโม่ก็ไม่สามารถทอดทิ้งญาติเพียงคนเดียวของเธอได้

 

 

จุดอ่อนของเธอคือ เธอให้ความสำคัญกับความสัมพันธ์มากเกินไป

 

 

“ถังหนิง คุณต้องช่วยฉันนะคะ”

 

 

 

 

ในเวลาเดียวกันนั้นเอง ผู้จัดการของซย่าหันโม่กำลังตามหาตัวเธอด้วยเรื่องธุรกิจของตัวเองและพบว่าเธอไม่ได้อยู่บ้าน ทันทีที่เห็นเธอกลับมาถึงบ้านตัวคนเดียวก็เอ่ยถามอย่างจับผิด “เธอไปไหนมา”

 

 

“ไปเดินเล่นค่ะ” ซย่าหันโม่ตอบกลับตามปกติ

 

 

“ฉันรู้ว่าเรื่องรูปที่บังเอิญเห็นชั้นในของเธอที่เพิ่งหลุดไปมันกวนใจเธอ แต่เธอก็ผ่านเรื่องพวกนี้มาหลายปีแล้วนี่ ไม่ต้องไปสนใจว่าสื่อจะพูดว่าอะไรหรอกนะ”

 

 

“ฉันไม่เป็นไรค่ะ…”

 

 

“ดีแล้ว อย่าลืมว่าคืนนี้เธอมีออกงานนะ ฉันไปก่อนล่ะ” ผู้จัดการของเธอเอ่ยก่อนออกไป

 

 

อย่างไรก็ตามระหว่างที่ขับรถ เธอก็ได้รับสายจากช่างภาพ “ผมโอนเงินให้คุณแล้วนะ ข้อตกลงเหมือนเดิม”

 

 

“เข้าใจแล้ว”

 

 

“ผมได้ยินว่าสัญญาของคุณกับซย่าหันโม่กำลังจะหมดแล้ว คุณจะหักหลังเธอได้อีกกี่ครั้งกัน”

 

 

“ด้วยความสัมพันธ์ที่เรามีต่อกัน ไม่ยากหรอกที่จะได้รูปเปลือยของเธอหรอก นี่อาจเป็นของขวัญอำลาของฉันก็ได้ คุณคิดว่ายังไงล่ะ”

 

 

ปลายสายหัวเราะออกมา “เธออยู่กับคุณมาตั้งสี่ปีแต่คุณก็ยังโหดเ**้ยมพอที่จะทำอย่างนั้นกับเธอ ผู้หญิงนี่น่ากลัวจริงๆ”

 

 

“ฉันกำลังช่วยให้หาเงินให้คุณนะ มาพูดมากแบบนี้ได้ยังไงกัน”

 

 

ในขณะเดียวกัน ซย่าหันโม่ทำตามคำของถังหนิงและแสร้งทำของตกพื้นบ้าน จากนั้นจึงเปิดไฟฉายโทรศัพท์หาไปทั่วๆ ด้วยตั้งใจจะหากล้องที่ซ่อนไว้

 

 

กลับกลายเป็นว่าผู้จัดการของเธอกำลังทำทุกอย่างเพื่อจับตาดูเธอ…

วิวาห์พลิกรัก ฉบับซุปตาร์

วิวาห์พลิกรัก ฉบับซุปตาร์

ถังหนิง ผู้กำลังจะก้าวขึ้นไปเป็นนางแบบแนวหน้า แต่เพราะรักจึงสละสิ้นทุกอย่าง ทว่าคืนก่อนวันวิวาห์ที่เธอกำลังจะได้ครองรักดั่งหวังนั่นเอง คู่หมั้นของเธอกลับหนีออกไปกับหญิงอื่น ด้วยความเจ็บช้ำน้ำใจ เธอจึงเดินจ้ำไปหาผู้ชายคนหนึ่งที่ยืนอยู่หน้าสำนักงานเขต “ประธานโม่คะ ในเมื่อเจ้าสาวของคุณยังไม่มาและเจ้าบ่าวของฉันก็หนีไปแล้วอย่างนี้… ฉันว่า… เรามาแต่งงานกันเสียเลยดีไหมคะ” … ก่อนแต่งงานเธอเอ่ยว่า “แม้เราจะนอนร่วมเตียงกัน แต่จะไม่มีอะไรเกิดขึ้นระหว่างเรา” หลังแต่งงานเขาเอ่ยว่า “ถ้าไม่ลองแล้วจะรู้หรือ”

Options

not work with dark mode
Reset