วิวาห์พลิกรัก ฉบับซุปตาร์ – ตอนที่ 671

ตอนที่ 671 มันไม่ได้ร้ายแรงอย่างที่คุณคิด

 

อีกทั้งเธอยังศึกษาระบบกล้องวงจรปิดที่อยู่โดยรอบ จดบันทึกว่ากล้องแต่ละตัวตั้งอยู่ที่จุดใดและทำความเข้าใจจุดบอดที่ดีที่สุดแต่ละจุด นอกจากนี้ เธอยังแอบอยู่ในห้องแล็บเพื่อการวิจัยและศึกษาการทำปฏิกิริยาของยาอยู่อีกหลายวัน เธอจำเป็นต้องหาวิธีโจมตีที่ไร้ข้อผิดพลาดที่สุด

 

 

 

 

ระหว่างสองสามวันที่ผ่านมา อารมณ์ของถังหนิงกระสับกระส่ายตลอดเวลา รู้สึกราวกับมีคนคอยสอดแนบเธออยู่ในเงามืดอยู่ตลอด จับตาดูเธอทุกฝีก้าว

 

 

ป้าไป๋อธิบายว่านั่นเป็นเพราะเธอกำลังใกล้คลอด ดังนั้นจึงเป็นเรื่องปกติที่จะไวต่อสิ่งรอบตัวมากเป็นพิเศษ ถังหนิงคิดทบทวนคำอธิบายของป้าไป๋อยู่พักหนึ่งและรู้สึกว่ามันค่อนข้างมีเหตุมีผล

 

 

“นับตั้งแต่เหตุการณ์ของฮั่วจิงจิง หัวใจคุณก็ไม่อยู่กับเนื้ออยู่กับตัวเลยสักวัน ถ้ามีอะไรผิดปกติให้คุยกับคุณโม่ด้วยนะคะ อย่าเก็บไว้คนเดียว”

 

 

หลังฟังสิ่งที่ป้าไป๋พูด ถังหนิงก็พยักหน้าและยิ้ม “ฉันบอกเขาเรื่องนี้ได้ แต่… พอผู้หญิงคนหนึ่งท้อง มันมีความรู้สึกที่ผู้ชายไม่มีทางเข้าใจได้”

 

 

“จริงค่ะ” ป้าไป๋พยักหน้า “ตอนที่ฉันท้องเสี่ยวซิง ฉันรู้สึกบ่อยๆ ว่าขี้โมโหอย่างอธิบายไม่ถูก พ่อเสี่ยวซิงไม่เข้าใจว่าเขามาปั่นหัวฉันตอนไหน เขาทำได้แค่ยื่นแขนมาไว้ตรงหน้าฉันแล้วปล่อยให้ฉันกัดระบายความโกรธ”

 

 

เมื่อพูดถึงพ่อของเฉินซิงเยียน ถังหนิงก็จำได้ว่าเขาได้หายตัวไปตั้งแต่เฉินซิงเยียนยังเด็กมาก กระนั้นไป๋ลี่หวากลับไม่เคยพูดถึงผู้ชายคนนี้เลยจนกระทั่งเดี๋ยวนี้

 

 

“พ่อของซิงเยียนเขา…”

 

 

“เขาหายตัวไปตอนที่เขาเป็นตัวประกอบ ตอนนั้นเสี่ยวซิงเพิ่งจะอายุได้หกขวบ นับแต่นั้นเขาก็ไม่เคยกลับมาอีกเลย อย่าพูดถึงเขาเลยนะ”

 

 

ถังหนิงไม่ชอบซักไซ้เรื่องคนอื่น อีกอย่างเธอเข้าใจว่าเรื่องนี้เป็นจุดอ่อนของไป๋ลี่หวา หญิงสาวจึงเปลี่ยนหัวข้อสนทนา

 

 

“คุณจะไปตรวจร่างกายที่โรงพยาบาลพรุ่งนี้ใช่ไหม อยากกินอะไรหรือเปล่า ฉันจะได้ทำให้”

 

 

“ทุกอย่างที่ป้าทำอร่อยหมดนั่นแหละ” ถังหนิงเรียกความมั่นใจกลับคืนมาอย่างรวดเร็ว

 

 

กระนั้นถังหนิงไม่รู้เลยว่าการไปตรวจร่างกายในครั้งนี้จะเกิดผลร้ายแรงเพราะคนที่คอยสะกดรอยตามเธอได้เตรียมการจู่โจมเอาไว้แล้ว

 

 

 

 

บ่ายวันต่อมา กลิ่นควันคละคลุ้งไปมาจากสวนหย่อม จนไปทำให้สัญญาณเพลิงไหม้ทำงานและกระตุ้นบรรดาเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย เจ้าหน้าที่รีบค้นหาแหล่งที่มาของควันทันทีและรีบเคาะประตูหน้าบ้านของถังหนิงและโม่ถิง

 

 

ใช้เวลาสักครู่ก่อนป้าไป๋จะเดินมาเปิดประตู ทันทีที่เธอเห็นเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย เธอก็มองพวกเขาด้วยความสับสน “มีอะไรงั้นเหรอคะ”

 

 

“คุณผู้หญิงครับ สวนหย่อมในบ้านของคุณเกิดไฟไหม้ เพื่อความปลอดภัย คุณช่วยอพยพออกไปในที่ปลอดภัยเดี๋ยวนี้ได้ไหมครับ”

 

 

ไป๋ลี่หวาเว้นวรรคไปครู่หนึ่ง เธอกลัวไฟไหม้มากเป็นพิเศษ “ถ้างั้น… รอฉันล็อกประตูก่อนนะ”

 

 

“คุณผู้หญิงช่วยเปิดไว้ก่อนครับ เราต้องประเมินความเสี่ยงของตัวบ้าน” หนึ่งในเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยกล่าวพลางผลักไป๋ลี่หวาไปหาเพื่อนร่วมงานที่อยู่ด้านหลัง

 

 

ไป๋ลี่หวาไม่รู้จะทำอย่างไรขณะที่เจ้าหน้าที่ลากเธอออกไปยังสถานที่ปลอดภัย กระนั้นขณะที่เจ้าหน้าที่กำลังประเมินตัวบ้านอยู่นั้น ร่างในเงามืดได้แอบลอบเข้าไปทางประตูหน้าบ้านและซ่อนตัวอยู่ภายในตู้เก็บของใช้โดยไร้เสียง

 

 

หลังจากเวลาผ่านไปประมาณครึ่งชั่วโมง คนที่ซ่อนอยู่ในตู้เก็บของใช้ก็ได้ยินเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยพูดกับไป๋ลี่หวา “ขออภัยในความไม่สะดวกด้วยครับคุณผู้หญิง เพลิงไหม้ถูกควบคุมไว้แล้ว โชคดีที่มันไม่ได้ลุกลาม ตอนนี้คุณผู้หญิงสามารถกลับบ้านได้แล้วครับ”

 

 

“พวกคุณเจอสาเหตุหรือเปล่าคะ” ไป๋ลี่หวาถาม “ทำไมถึงมีไฟไหม้ที่สวนหย่อมของเรา”

 

 

“ไม่ต้องห่วงครับ เราจะหาสาเหตุอย่างละเอียด ทันทีที่ได้คำตอบเราจะรีบแจ้งให้ทราบ”

 

 

ไป๋ลี่หวาพยักหน้าและไม่ถามอะไรเพิ่มอีก หลังกลับมาที่บ้าน เธอก็สงบสติลงเล็กน้อยแล้วกลับไปเตรียมข้าวและอาหารบำรุงสำหรับถังหนิงอย่างเคย

 

 

สี่โมงเย็น โม่ถิงพาถังหนิงกลับมาที่บ้านก่อนที่เขาจะกลับไปไห่รุ่ย กระนั้นทันทีที่ถังหนิงเข้าผ่านประตูหน้าบ้าน กลิ่นอันไม่พึ่งประสงค์ดึงความสนใจของเธอ

 

 

“ป้าไป๋ มีอะไรในบ้านไหม้หรือเปล่า”

 

 

“ไม่มีค่ะ มีไฟไหม้ด้านนอกเมื่อตอนบ่าย…” ไป๋ลี่หวาเดินออกมาจากห้องครัวและอธิบายพลางตีเตรียมอาหารในมือ “หิวไหม รีบนั่งลงก่อนเถอะ มื้อเย็นเกือบจะเสร็จแล้ว”

 

 

“ค่อยๆ ทำเถอะ ฉันยังทนได้” ถังหนิงเอนหลังพิงโซฟา ตอนนี้เธอท้องได้เกือบแปดเดือนแล้ว การเคลื่อนไหวในแต่ละวันกลายเป็นเรื่องยากเหลือทน

 

 

ไป๋ลี่หวาสัมผัสได้ถึงความเหนื่อยล้าของอีกฝ่ายและยิ้ม “ท้องแรกก็อย่างนี้แหละค่ะ ท้องสองก็จะง่ายขึ้นเยอะ”

 

 

“ฉันไม่คิดไกลถึงขนาดนั้นหรอก” ถังหนิงพยุงหลังศีรษะของเธอด้วยมือข้างหนึ่งในขณะที่อีกข้างลูบท้อง ระหว่างการตรวจร่างกายวันนี้ ผลออกมาว่าสิ่งที่ฮว่าเหวินเฟิ่งอ้างว่าลูกของเธอไม่แข็งแรงและไม่สมประกอบนั้นไม่ถูกต้องเลยสักนิดเดียว ส่วนเพศของเด็ก โม่ถิงหวังให้เป็นเด็กผู้หญิง… ส่วนเธออยากได้เด็กผู้ชาย

 

 

“ไว้ค่อยคิดเรื่องนี้ทีหลังเถอะ” ไป๋ลี่หวาพูดขณะที่เธอวางชามซุปไก่น่าอร่อยลงตรงหน้าของถังหนิง “ฉันแยกมันออกให้แล้ว ซุปนี้ไม่ทำให้คุณอ้วนหรอกค่ะ…”

 

 

ถังหนิงมองไป๋ลี่หวา เธอรู้สึกดีใจเพราะเธอรู้ว่าไป๋ลี่หวาเป็นแม่ผู้ให้กำเนิดจริงๆ ของโม่ถิง แค่ดูจากความใส่ใจเล็กๆ น้อยๆ นี้ฮวาเหวินเฟิ่งก็เทียบไม่ติดแล้ว

 

 

อย่างน้อยไป๋ลี่หวาก็พยายามทำดีที่สุดเพื่อเธอ

 

 

ถังหนิงชอบความห่วงใยที่ไป๋ลี่หวาแสดงออก หลังรับซุปไก่จากอีกฝ่าย เธอจิบไปสองคำ อย่างไรก็ตามเธอรู้สึกว่ารสชาติของซุปในวันนี้แตกต่างไปจากปกติมาก

 

 

“มีอะไรเหรอ” ไป๋ลี่หวาถามทันทีที่เห็นอีกฝ่ายหยุดกิน

 

 

“ซุปนี่รสชาติแปลกๆ”

 

 

ไป๋ลี่หวารับชามซุปจากมือของถังหนิงและดมดู สีหน้าของเธอเปลี่ยนไปทันที “ไม่นะ นี่มันกลิ่นสารเคมี คุณรู้สึกไม่ดีหรือเปล่า”

 

 

ถังหนิงส่ายหน้า “ไม่”

 

 

“ฉันเป็นห่วงจัง ฉันว่าคุณควรไปตรวจที่โรงพยาบาลดีกว่า” ครั้งหนึ่งไป๋ลี่หวาเคยเป็นนักวิจัยด้านเทคโนโลยีชีวภาพ เธอจึงระแวดระวังเกี่ยวกับสารเคมี เธอรีบช่วยพยุงถังหนิงขึ้นและเอาตัวอย่างของซุปไก่ไปให้บอดีการ์ดเพื่อเขาจะได้เอามันไปตรวจวิเคราะห์ที่โรงพยาบาล

 

 

แรกเริ่มถังหนิงไม่ได้เป็นหวาดวิตกเท่าไป๋ลี่หวา จนกระทั่งเธอได้รับการตรวจที่โรงพยาบาล เธอก็ยังไม่แสดงอาการใดๆ ออกมา กระนั้นเอง หลังจากที่เธอได้รับผลตรวจวิเคราะห์ของซุปไก่นั้น…

 

 

“ทำไมถึงมีควินิดีน [1] มากขนาดนี้อยู่ในซุปไก่ได้”

 

 

เมื่อได้ยินชื่อยาดังกล่าว ไป๋ลี่หวาหน้าซีดทันที

 

 

หลายคนอาจไม่รู้ แต่เธอรู้จักมันเป็นอย่างดี ควินิดีนไม่ใช่สิ่งที่จะพบได้ในชีวิตประจำวันของคนปกติทั่วไป มันเป็นยาที่ใช้ในการรักษาอาการเต้นผิดปกติของหัวใจ แต่หากใช้ในหญิงตั้งครรภ์ อาจก่อให้เกิดการแท้งหรือมีผลต่อหัวใจของทารกในครรภ์! แตทว่าสิ่งที่ทำให้เธอประหลาดใจที่สุดคือย่าแบบนี้มาอยู่ในซุปไก่ของเธอได้อย่างไร

 

 

ที่เลวร้ายที่สุดคือถังหนิงจิบซุปไปสองครั้ง!

 

 

เมื่อคิดเช่นนั้น ไป๋ลี่หวาตัวสั่นเทิ่มด้วยความกลัว เธอจะทำอย่างไรดี ถังหนิงจะทำอย่างไรดี

 

 

จะเกิดอะไรขึ้นกับหลานของเธอ

 

 

หลังได้รับผลตรวจวิเคราะห์ ไป๋ลี่หวาเข่าทรุดขณะที่เธอหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาโทรหาโม่ถิง “คุณโม่คะ ฉันขอโทษ ช่วยมาที่โรงพยาบาลเดี๋ยวนี้เลยนะคะ”

 

 

ทันทีที่เขาได้ยินคำว่า ‘โรงพยาบาล’ โม่ถิงคิดถึงถังหนิงโดยไม่รู้ตัว เขาจึงวางงานทุกอย่างในมือและรีบตรงไปทันที

 

 

เมื่อเขามาถึง ถังหนิงกำลังได้รับการตรวจร่างกายอยู่ภายในห้องตรวจ ไป๋ลี่หวาเห็นโม่ถิงและรีบวิ่งมาหาเขาด้วยพร้อมน้ำเสียงสั่นเครือ “ถังหญิงบังเอิญกินยาผิดประเภทเข้าไป… ฉันกลัวว่าจะมีบางอย่างเกิดขึ้นกับเธอ”

 

 

ขณะที่โม่ถิงกำลังจะถามไป๋ลี่หวาถึงเรื่องที่เกิดขึ้น คุณหมอได้เดินออกมาจากห้องตรวจและบอกกับทั้งสอง “มันไม่ได้ร้ายแรงอย่างที่พวกคุณคิด!”

 

 

 

 

——

 

 

[1] ควินิดีน เป็นยาที่ใช้เพื่อรักษาหรือป้องกันความผิดปกติของการเต้นของหัวใจหลายชนิด

วิวาห์พลิกรัก ฉบับซุปตาร์

วิวาห์พลิกรัก ฉบับซุปตาร์

ถังหนิง ผู้กำลังจะก้าวขึ้นไปเป็นนางแบบแนวหน้า แต่เพราะรักจึงสละสิ้นทุกอย่าง ทว่าคืนก่อนวันวิวาห์ที่เธอกำลังจะได้ครองรักดั่งหวังนั่นเอง คู่หมั้นของเธอกลับหนีออกไปกับหญิงอื่น ด้วยความเจ็บช้ำน้ำใจ เธอจึงเดินจ้ำไปหาผู้ชายคนหนึ่งที่ยืนอยู่หน้าสำนักงานเขต “ประธานโม่คะ ในเมื่อเจ้าสาวของคุณยังไม่มาและเจ้าบ่าวของฉันก็หนีไปแล้วอย่างนี้… ฉันว่า… เรามาแต่งงานกันเสียเลยดีไหมคะ” … ก่อนแต่งงานเธอเอ่ยว่า “แม้เราจะนอนร่วมเตียงกัน แต่จะไม่มีอะไรเกิดขึ้นระหว่างเรา” หลังแต่งงานเขาเอ่ยว่า “ถ้าไม่ลองแล้วจะรู้หรือ”

Options

not work with dark mode
Reset