ความล้มเหลวในการค้นหานักแสดงชาวจีนสำหรับการสร้างภาพยนตร์ไซไฟภายในประเทศถือว่าเป็นหนึ่งในความเสียใจของเฉียวเซิน
หากแต่เมื่อเขาพิจารณาจากนักแสดงทั้งหมดในวงการที่มีอยู่ในปัจจุบัน ตามหาใครบางคนที่มีความสามารถในการแสดงและภาพลักษณ์ที่เหมาะสม สุดท้ายจึงไม่มีหนทางอื่นนอกจากเลือกนักแสดงหญิงชาวฝรั่งเศส
ในไม่ช้านักแสดงชาวฝรั่งเศสก็เดินทางมาถึงปักกิ่ง และถังหนิงกับเฉียวเซินได้ไปพบกับนักแสดงหญิงชั้นแนวหน้าดีกรีรางวัลในระดับนานาชาติคนนี้
รูปร่างหน้าตาของเธองดงามไม่แพ้ใคร ทั้งยังแผ่รังสีเย้ายวนและน่าหลงใหลอย่างที่หญิงสาวต่างชาติเป็นกัน
นักแสดงฝรั่งเศสคนนั้นมีชื่อว่า เคท เธอสวยจนตกตะลึง
ปกติแล้วนักแสดงต่างชาติมักจะมีเงื่อนไขและข้อจำกัดเมื่อต้องถ่ายทำภาพยนตร์ในปักกิ่ง ดังนั้นเฉียวเซินและถังหนิงจึงเตรียมใจเอาไว้แล้ว ทว่าเมื่อผู้จัดการของเคทยื่นเงื่อนไขมาให้ เฉียวเซินก็ยังคงอึ้งไปเล็กน้อย เธอแค่ทำการแสดงเพียงอย่างเดียวแต่แม้กระทั่งเครื่องสำอางที่เธอใช้ยังถูกกำหนดมาโดยเฉพาะ…
สุดท้ายแล้วถังหนิงจึงอาจทนได้อีกต่อไป เธอหันไปพูดกับเฉียวเซิน “ฉันรู้สึกไม่ดีเลยค่ะ คุณจัดการเรื่องนี้ไปแล้วกันนะคะ”
เขารู้ว่าถังหนิงไม่พอใจกับสิ่งที่เกิดขึ้น จึงรีบตกลงกับเคทก่อนที่จะตามถังหนิงไปและเอ่ยถาม “คุณสงสัยว่าทำไมเราถึงไม่ให้โอกาสนักแสดงในประเทศแทนที่จะเสียเงินไปกับนักแสดงต่างชาติคนเดียวใช่ไหม”
ถังหนิงนิ่งเงียบไปชั่วขณะก่อนที่จะพยักหน้ารับ
“เราไม่มีทางเลือก” เฉียวเซินไหวไหล่ “ฟังฉันนะ เราต้องการเคท”
ถังหนิงสูดหายใจลึกและไม่ได้พูดอะไรออกมา
ทั้งสองกลับไปที่โรงแรมเพื่อเตรียมตัวเจรจากับผู้จัดการของเคทต่อไป
“ฉันค่อนข้างสนใจในวัฒนธรรมของพวกคุณค่ะ โดยเฉพาะผู้ชายหน้าตาดี…” เคทว่าขึ้นด้วยภาษาอังกฤษที่คล่องแคล่ว “ฉันหวังว่าเราจะทำงานร่วมกันได้ดีนะคะ”
วงการบันเทิงไม่ว่าจะภายในประเทศหรือต่างชาติล้วนไม่ต่างกัน ซึ่งแน่นอนว่าพฤติกรรมของนักแสดงก็เช่นกัน
เมื่อพูดถึงการแสดงเคทเป็นมืออาชีพ แต่แน่นอนว่าเมื่อเป็นเรื่องส่วนตัวเธอชอบที่จะเล่นสนุก แต่เธอก็ไม่ได้สร้างปัญหามากนัก
แม้จะเป็นเช่นนั้น ถังหนิงยังคงมีลางสังหรณ์ถึงความอันตราย
ทว่าในตอนนี้เธอทำได้เพียงรอดูสิ่งที่เกิดขึ้นไปทีละขั้น
…
ในขณะเดียวกันซย่าหันโม่ได้เซ็นสัญญากับ การเดินทางที่ยิ่งใหญ่ และเข้าร่วมเป็นพิธีกรประจำรายการ อย่างไรก็ตามไม่มีใครในวงการตั้งความหวังกับเธอไว้สูงนัก พวกเขากลับคิดว่าโจวชิงบ้าไปแล้วที่เอานักแสดงที่ขึ้นชื่อเรื่องข่าวฉาวเข้ามา
หากแต่จนกว่าโจวชิงจะออกจากรายการนี้อย่างเป็นทางการ เขายังคงมีสิทธิ์ที่จะเลือกพิธีกรร่วมของตัวเอง มันเป็นเงื่อนไขที่ทางช่องตกลงไว้ตั้งแต่ทีแรกที่ขอให้เขาอยู่และยังคงมีผลบังคับใช้อยู่
ปัจจุบัน การเดินทางที่ยิ่งใหญ่ มีพิธีกรอยู่ 3 คนพร้อมแขกรับเชิญอีก 3 คน ทุกสัปดาห์รายการจะเปลี่ยนสถานที่ถ่ายทำไปตามที่ต่างๆ พร้อมด้วยภารกิจท้าทายที่หลากหลาย
ด้วยแต่ละภารกิจขึ้นอยู่กับพื้นที่ท้องถิ่นของสถานที่ถ่ายทำนั้นๆ จึงได้รับกระแสตอบรับอย่างท่วมท้น ทีมผู้จัดทุ่มเทกับการคิดสร้างสรรค์และฉลาดในการออกแบบรูปแบบรายการ มากไปกว่านั้นทั้งพิธีกรและแขกรับเชิญต่างมีอารมณ์ขันไม่น้อยซึ่งมันไม่ง่ายนักที่จะทำให้ถึงเครื่องถึงรสในรายการโทรทัศน์
แน่นอนว่าต้องถ่ายทำนอกสถานที่ ดังนั้นซย่าหันโม่จึงต้องเตรียมตัวตามทีมงานไปในทุกที่ที่พวกเขาไป และเมื่อการถ่ายทำเริ่มขึ้นจะต้องทำให้เสร็จสิ้นภายในหนึ่งสัปดาห์ หลินเฉี่ยนนึกถึงเรื่องที่หลี่จิ่นงานยุ่งอยู่บ่อยครั้ง แต่ตอนนี้ตารางงานของเธอกลับเอาแน่เอานอนไม่ได้เช่นกัน ดูแล้วระหว่างพวกเขาคงไม่มีความหวังมากนัก
ดังนั้นเมื่อหลินเฉี่ยนออกจากปักกิ่งไปพร้อมกับซย่าหันโม่เธอจึงไม่ได้บอกให้หลี่จิ่นรู้ ทำเพียงแค่โทรรายงานกับถังหนิงเท่านั้น
โชคดีที่ในครั้งนี้การถ่ายทำไม่ได้ไกลถึงต่างประเทศแต่เป็นหมู่บ้านเก่าแก่บนเขาที่มีคนพื้นเมืองอาศัยอยู่
ขณะที่พวกเขามุ่งหน้าขึ้นไปบนหมู่บ้านอยู่ๆ สายฝนก็เริ่มพรำลงมา
ซย่าหันโม่เป็นน้องใหม่ มันเป็นเรื่องจริงที่ปฏิเสธไม่ได้ ดังนั้นในบรรดาพิธีกรและแขกรับเชิญ นอกจากโจวชิงแล้วก็ไม่มีใครชอบเธอสักคน
แค่ดูท่าทางที่ผู้จัดการมีต่อพวกเธอก็พอจะเห็นแล้วว่าออกอาการรังเกียจจนแม้แต่ผู้จัดการยังทำเมินใส่
เพราะหมู่บ้านบนภูเขามีทรัพยากรจำกัด จึงไม่มีทางที่ทีมผู้ดำเนินรายการและทีมงานจะได้อยู่ในโรงแรม 5 ดาวอย่างในปักกิ่ง ทางเลือกเดียวของพวกเขาคือการอยู่ที่บ้านพักเท่านั้น
ผู้กำกับและโจวชิงปรึกษาเรื่องนี้กันล่วงหน้าและตัดสินใจให้ห้องที่สภาพแย่ที่สุดกับนักร้องคนหนึ่ง
จริงๆ แล้วมันเป็นแค่ห้องที่อยู่ด้านในสุดที่อับชื้นกว่าห้องอื่นเท่านั้น
หลังจากนักร้องคนนั้นทราบเรื่องนี้ เธอแสร้งทำเป็นไม่เรื่องมากหากแต่แอบไปหาซย่าหันโม่และเอ่ยถาม “พี่ซย่าคะ ฉันอยู่ในห้องชื้นๆ ไม่ได้ พี่สลับห้องกับฉันได้ไหมคะ ฉันเป็นผื่นง่ายน่ะค่ะ”
เธอไม่มีทางเลือกนอกจากพยักหน้ารับ “ได้สิ”
จากนั้นหลินเฉี่ยนเข้ามาหาและมองเธอ “ฉันทิ้งคุณไว้แป๊บเดียวแล้วคุณก็เสียห้องของตัวเองไปเนี่ยนะคะ ความพยายามของพี่โจวช่างสูญเปล่าจริงๆ ”
“แค่เรื่องเล็กๆ เองค่ะ” ซย่าหันโม่ระบายยิ้ม “ตราบใดที่แขกรับเชิญให้ความร่วมมือกับการถ่ายทำ ฉันยินดียกห้องของตัวเองให้ค่ะ”
“แต่ที่นี่มันอับชื้นเกินไปนะคะ!” หลินเฉี่ยนขมวดคิ้วมุ่น
“ฉันคิดอะไรบางอย่างออกค่ะ” พูดจบซย่าหันโม่จึงไปหาหินมาวางเอาไว้รอบห้อง “น่าจะช่วยได้นะคะ”
“ฉันล่ะเหนื่อยใจกับคุณจริงๆ เลย” หลินเฉี่ยนส่ายหน้าก่อนเดินเข้าอาบน้ำในห้องน้ำ ตอนนี้เองที่อยู่ๆ โจวชิงก็มาเคาะประตูห้อง
ซย่าหันโม่นึกไม่ถึงว่าเขาจะมาที่ห้องของเธอ แต่เมื่อเห็นหน้าเขา เธอสังเกตเห็นว่าเขาดูไม่ค่อยพอใจนัก
“พี่โจว…”
“ทำไมเธอถึงให้ห้องของตัวเองไปล่ะ การวางตำแหน่งของห้องมีผลต่อเกมที่เราจะเล่นกันพรุ่งนี้นะ การตัดสินใจด้วยตัวเองทำให้ทีมงานต้องเสียเวลาเพราะพวกเขาต้องมาจัดการเรื่องนี้กันใหม่…
…ถ้าแขกรับเชิญเป็นคนร้องขอ เธอก็ควรจะต้องแก้ไขปัญหาสิ ไม่ใช่ยอมแบบนี้”
ซย่าหันโม่ตกใจเล็กน้อย ทว่าก็ก้มหน้าสำนึกผิด “ขอโทษด้วยค่ะ ฉันทำผิดไปแล้ว”
“ฉันเข้มงวดกับเธอเพราะเธอจำเป็นต้องโตขึ้นนะ ศิลปินของถังหนิงไม่ควรเป็นแบบนี้สิ”
สิ้นประโยค โจวชิงหันเดินกลับไป ทิ้งให้เธอตกอยู่ในอาการนิ่งอึ้งเพียงลำพัง
เธอยอมรับคำตำหนิของเขา หากแต่ประโยคสุดท้ายฟังดูเหมือนว่าเขาจะมีข้อกังขาในตัวถังหนิง
หลินเฉี่ยนได้ยินบทสนทนาทั้งหมดระหว่างพวกเขาและตบบ่าเธอ “ตอนนี้คุณอยู่เฉยๆ จะเป็นการดีที่สุดค่ะ คุณแค่ต้องเข้าใจว่าคนในรายการนี้ก็มีวิธีการทำงานเป็นของตัวเอง อย่าโดนหลอกง่ายๆ แบบนี้อีกนะคะ”
ซย่าหันโม่พยักหน้ารับ
เช้าวันถัดมาทุกคนมารวมตัวกันทานอาหารเช้า แต่ซย่าหันโม่และหลินเฉี่ยนกลับมาถึงช้ากว่าคนอื่นๆ
ทุกคนมองไปที่หญิงสาวทั้งสองคนรวมถึงโจวชิงด้วย
“ทำไมเธอถึงมาสายนักล่ะ”
ซย่าหันโม่ส่ายหน้าและอธิบายขึ้น “ห้องของเรามันชื้นมากน่ะค่ะ ตอนที่เราตื่นมาตอนเช้า เจอว่ามีแมลงอยู่ในห้องเยอะมากกลัวว่ามันจะทำให้พวกคุณตกใจกลัวกัน เลยไปบอกเจ้าของที่พักให้มาตรวจดู เราเลยมาสายกันนิดหน่อยค่ะ”
“ใช่ค่ะ เมื่อคืนฉันกลัวแทบตายแน่ะ”
“ฉันเผลอไปโดนมันตัวหนึ่งด้วย!”
แขกรับเชิญว่าขึ้นทันทีพลางมองไปที่ซย่าหันโม่อย่างขอบคุณ
“รีบๆ นั่งลงได้แล้ว” โจวชิงสั่งหลังจากซย่าหันโม่พูดจบ
เธอทำให้แขกรับเชิญรู้สึกซาบซึ้งในตัวเธอ ไม่ใช่เพราะต้องการให้พวกเขามาชื่นชอบตัวเองแต่เพราะอยากให้พวกเขารู้สึกผิดที่จะพยายามมาขอร้องบางอย่างกับเธอในครั้งหน้าต่างหาก