วิวาห์พลิกรัก ฉบับซุปตาร์ – ตอนที่ 897 เขาจะพึงพอใจในตัวถังหนิงได้อยู่หรือ

ในคืนที่เฉวียนจื่อเยี่ยหนีออกไปจากงานเลี้ยงฉลองงานหมั้นของเขา หลงเจี่ยได้ต่อสายหาซย่าหันโม่ “ฉันสืบเรื่องที่เธอขอมาก่อนหน้านี้แล้ว คนที่จะมาแทนโจวชิงเป็นลูกชายของผู้จัดการสถานี ดูเหมือนว่าเขาจะตั้งใจยกรายการที่ดีที่สุดให้กับลูกชายของตัวเอง โจวชิงเลยต้องเป็นฝ่ายเสียสละ”

 

 

“ฉันไม่คิดว่าโจวชิงจะต้องถูกแทนที่เลยนะคะ” ซย่าหันโม่เอ่ยด้วยอารมณ์โกรธ

 

 

“ช่วงหลายปีมานี้  การเดินทางที่ยิ่งใหญ่  มีฐานผู้ชมมากมาย ถ้าพวกเขาเปลี่ยนตัวพิธีกร ผู้ชมจะประท้วงเป็นอันดับแรก แต่หลังจากที่พวกเขาแถลงเรื่องนี้ ผู้ชมก็จะลืมคนที่ทำให้รายการเป็นที่นิยมตั้งแต่แรกไป” หลงเจี่ยอธิบายตามความเป็นจริง

 

 

“หลงเจี่ย ถ้าไม่มีโจวชิงอยู่ด้วย ฉันก็ไม่คิดว่าตัวเองจะทำรายการนี้ต่อไปได้นะคะ”

 

 

หลงเจี่ยเข้าใจความรู้สึกของซย่าหันโม่ แต่เธอเพิ่งเซ็นสัญญากับ  การเดินทางที่ยิ่งใหญ่  ไปได้ไม่นาน หากเธอยกเลิกสัญญาตอนนี้ ไม่เพียงแต่จะทำลายเส้นทางที่สร้างขึ้นมาใหม่แต่ยังต้องจ่ายค่าชดเชยอีกด้วย

 

 

“อย่าทำอะไรบุ่มบ่ามนักเลย”

 

 

“หลงเจี่ย แม้แต่คนอย่างโจวชิงยังถูกเขี่ยทิ้งอย่างง่ายดาย นับประสาอะไรกับฉันละคะ ตอนนี้ฉันเป็นแค่น้องใหม่เพราะมาจากจู้ซิงมีเดียและอยู่ในสังกัดของถังหนิง แต่สักวันหนึ่งฉันก็จะต้องลงเอยแบบพี่โจว”

 

 

เธอว่าขึ้นอย่างตรงไปตรงมา

 

 

“เธอควรพูดเรื่องนี้กับถังหนิง ฉันตัดสินใจเรื่องนี้ไม่ได้หรอก” หลงเจี่ยเอ่ยแนะ

 

 

หลังซย่าหันโม่ได้ยินดังนั้น เธอพยักหน้ารับ อย่างน้อยก่อนที่โจวชิงจะไปเธอก็ต้องควบคุมอารมณ์ของตัวเองเอาไว้ให้ได้

 

 

ความจริงแล้วถังหนิงได้เตรียมการเรื่องนี้ไว้แล้ว ถึงอย่างไรเธอก็ขึ้นชื่อเรื่องสนับสนุนคนที่มีความสามารถอย่างแท้จริง

 

 

ในเช้าวันถัดมา เธอจึงไม่ได้ตรงไปยังกองถ่าย  ราชินีมด  แต่กลับขอให้หลินเฉี่ยนช่วยจัดการนัดพบกับโจวชิงให้แทน

 

 

แน่นอนว่าเธอไม่ได้บอกให้ซย่าหันโม่รู้

 

 

“เป็นเกียรติที่ได้พบกับถังหนิงผู้โด่งดังครับ” โจวชิงยื่มมือไปทักทายถังหนิงอย่างสุภาพ

 

 

“ดูเหมือนว่าพี่โจวจะคิดไว้แล้วว่าจะได้พบฉันสินะคะ” ถังหนิงระบายยิ้ม

 

 

“เพราะผมรู้ว่าคุณชอบคนมีความสามารถครับ ที่สำคัญที่สุด ผมรู้ว่าคุณไม่อยากให้ซย่าหันโม่เสียคะแนนความนิยมที่เธอสั่งสมมาในคืนเดียว” โจวชิงเข้าใจถังหนิงดี ด้วยเหตุนี้ทั้งสองจึงสามารถพูดคุยกันได้อย่างเปิดอก

 

 

“ไห่รุ่ยได้ลงทุนในหลายๆ รายการและมีความสัมพันธ์แน่นแฟ้นกับสถานีโทรทัศน์หลายแห่ง บางคนอาจคิดว่าการเปลี่ยนพิธีกรรายการโทรทัศน์ไม่ได้เป็นเรื่องใหญ่อะไร แต่ฉันรู้ว่าเมื่อใครบางคนคิดแบบนี้ รายการจะดิ่งลงเหวไปอย่างแน่นอน…

 

 

…ตอนนี้ทางช่องมีรายการใหม่ที่กำลังหาพิธีกรที่เหมาะสมอยู่ ไหนๆ เวลาก็เหมาะพอดี ฉันอยากจะถามว่าพี่โจวจะสนใจไหมคะ”

 

 

ทันทีที่โจวชิงมองข้อมูลในมือถังหนิง เขารู้ว่าเธอต้องการให้เขาย้ายไปช่องคู่แข่ง

 

 

“เมื่อพิธีกรชื่อดังออกจากช่องไปและย้ายไปช่องคู่แข่ง คนจะคิดเอาว่ามีปัญหาใหญ่เกิดขึ้น”

 

 

“แล้วหันโม่ละครับ” โจวชิงเอ่ย

 

 

“คุณไปก่อนเถอะค่ะ ฉันมีแผนอย่างอื่นไว้ให้เธอ”

 

 

โจวชิงยิ้มและพยักหน้ารับ เขารู้ว่าถังหนิงเป็นคนเด็ดขาดเมื่อถึงคราวที่ต้องจัดการกับเรื่องเช่นนี้

 

 

ไม่น่าล่ะศิลปินในมือของเธอจึงมีชื่อเสียงโด่งดังตามๆ กันไป

 

 

จากนั้นโจวชิงกลับมาที่สถานีโทรทัศน์ ในตอนนี้ ซย่าหันโม่กำลังรอเขาอยู่

 

 

“พี่โจว คุณจะจากไปอย่างไม่ได้รับความเป็นธรรมอย่างนี้เหรอคะ”

 

 

“ฉันไม่มีทางเลือกนี่” เขาตอบเสียงเรียบ ในเมื่อถังหนิงบอกไม่ให้เขาพูดเรื่องแผนของเขากับซย่าหันโม่ เขาก็ไม่ได้บอกเธอว่าเขากำลังจะย้ายไปช่องคู่แข่ง

 

 

“แต่ฉันจะทำยังไงถ้าไม่มีคุณอยู่ด้วยละคะ”

 

 

“แค่สนใจกับการถ่ายทำรายการก็พอ อย่าทำให้ฉันผิดหวังล่ะ” โจวชิงออกปากแนะ

 

 

ซย่าหันโม่รู้สึกหมดสิ้นหนทาง มันไม่ง่ายเลยที่จะลุกขึ้นมาต่อสู้ได้ขนาดนี้ หากแต่ในตอนนี้เธอกลับต้องทำงานกับสถานีโทรทัศน์เลือดเย็นต่อไป ที่แย่ที่สุดคือเธอต้องแสร้งทำเป็นไม่รู้เรื่องทั้งที่เธอรู้เหตุผลที่แท้จริงเบื้องหลังทุกอย่าง

 

 

โจวชิงมองท่าทีของเธอแล้วยิ้มกับตัวเอง จากนั้นจึงกลับไปที่ห้องรับรองของเขา ทิ้งให้ซย่าหันโม่ยืนอยู่กลางทางเดินเพียงลำพัง

 

 

 

 

ถังหนิงไม่ได้ป่าวประกาศว่าเธอกำลังร่วมมือกับโจวชิงอยู่ด้วยยังไม่ถึงเวลา เพียงแค่รู้สึกว่าผู้จัดการสถานีโง่เง่าที่ทอดทิ้งพิธีกรมากฝีมือและทำให้พวกเขาคว้าตัวเขามาได้ เขาคิดจริงๆ หรือว่าลูกชายของตัวเองจะมีความสามารถทัดเทียมกับโจวชิงได้

 

 

นี่จึงเป็นการตัดสินใจที่ไม่ฉลาดของผู้จัดการสถานีเอาซะเลย บางทีลูกชายของเขาอาจโน้มน้าวเขาด้วยคำพูดสวยหรูก็เป็นได้ อีกอย่างเขาก็ปล่อยให้ใครบางคนได้ผลประโยชน์ไปเสียแล้ว

 

 

ด้วยเหตุนี้ จู้ซิงมีเดียจึงยิ่งเติบโตขึ้นแข็งแกร่งกว่าเดิม…

 

 

หลังจากจัดการเรื่องของโจวชิงเสร็จ ถังหนิงกลับไปที่กองถ่าย ราชินีมด หากแต่บรรยากาศที่กองถ่ายกลับเหมือนเธอกำลังก้าวเท้าเข้าไปในกลุ่มแฟนคลับ เพราะทีมงานแทบทุกคนเป็นแฟนๆ ของโม่ถิง

 

 

แม้แต่เคทเจ้าปัญหายังเงียบไปเมื่อโม่ถิงปรากฏตัวขึ้น

 

 

ทันทีที่เชียวเซินเห็นถังหนิงมาถึง เขารีบเข้าไปพูดกับเธอ “มาเยี่ยมเหรอ ฉันนึกไม่ถึงว่าประธานโม่จะแสดงได้ดีอย่างนี้เลย”

 

 

“คุณไม่รู้ซะแล้วว่าเขาเป็นสามีของใคร”

 

 

“ประธานโม่รักคุณมากจริงๆ ตั้งแต่ที่เขาเข้ามาเหยียบกองถ่าย เขาไม่ชายตามองผู้หญิงสักคนเลย ต่อให้เขาเข้าฉากกับเคท เขาก็แค่ทำในสิ่งที่ต้องทำและกลับไปเย็นชาและเข้าถึงยากทันทีที่เขาแสดงจบ” เชี่ยวเซินถอนหายใจออกมา “ดังนั้นคุณไม่ต้องกังวลเลย เขามีแค่คุณในใจคนเดียวเท่านั้นแหละ ไม่ต้องคิดมากนะ”

 

 

“ฉันรู้จักสามีของฉันดีค่ะ” ถังหนิงตอบกลับอย่างมั่นอกมั่นใจ

 

 

ไม่นานเมื่อโม่ถิงเห็นถังหนิง เขาเดินเข้ามาอยู่ข้างเธอ “คุณไม่เห็นต้องถ่อมาไกลขนาดนี้เลยครับ”

 

 

“ไม่เป็นไรค่ะ” ถังหนิงวาดแขนโอบรอบเอวของเขาและกระชับกอดแน่น “ฉันแค่อยากเจอหน้าคุณค่ะ…”

 

 

ไม่ห่างออกไปนัก เคทเห็นการแสดงความรักระหว่างถังหนิงและโม่ถิง ก่อนหันไปถามทีมงานด้านข้างทันที โชคดีที่ทีมงานคนนั้นเข้าใจภาษาอังกฤษ “พวกเขาเป็นอะไรกัน”

 

 

“คุณเคทไม่รู้เหรอคะว่าพวกเขาเป็นสามีภรรยาที่หวานมดขึ้นเลยล่ะค่ะ ถ้าไม่เป็นเพราะพี่หนิงตั้งท้อง บทแสดงนำหญิงของหนังเรื่องนี้อาจไม่มาถึงคุณหรอกค่ะ”

 

 

เคทไม่ได้โกรธกับสิ่งที่ทีมงานพูด แค่สงสัยว่าผู้ชายคนหนึ่งจะมองข้ามสิ่งสวยๆ งามๆ ตรงหน้าและเลือกผู้หญิงท้องแทนได้อย่างไร

 

 

เขาจะพึงพอใจในตัวถังหนิงได้อยู่หรือ

 

 

เธอไม่อยากจะเชื่อว่าจะมีผู้ชายคนไหนที่ยับยั้งอารมณ์ของตัวเองได้

 

 

โดยเฉพาะอย่างยิ่งในต่างประเทศ มีผู้ชายมากมายที่ทำเจ้าชู้ไปทั่วลับหลังภรรยาของพวกเขา

 

 

ดังนั้นทุกคนจึงต่างรอดูว่าเธอจะทำอะไร ถึงอย่างนั้นโม่ถิงก็ยังผ่านหลายเดือนที่กองถ่ายไปได้อย่างสงบสุข

 

 

อย่างไรก็ตามต่อให้โม่ถิงจะต้องเข้ามาถ่ายทำที่กองถ่ายหลายเดือน เขาก็ยังคงกลับบ้านทุกวัน

วิวาห์พลิกรัก ฉบับซุปตาร์

วิวาห์พลิกรัก ฉบับซุปตาร์

ถังหนิง ผู้กำลังจะก้าวขึ้นไปเป็นนางแบบแนวหน้า แต่เพราะรักจึงสละสิ้นทุกอย่าง ทว่าคืนก่อนวันวิวาห์ที่เธอกำลังจะได้ครองรักดั่งหวังนั่นเอง คู่หมั้นของเธอกลับหนีออกไปกับหญิงอื่น ด้วยความเจ็บช้ำน้ำใจ เธอจึงเดินจ้ำไปหาผู้ชายคนหนึ่งที่ยืนอยู่หน้าสำนักงานเขต “ประธานโม่คะ ในเมื่อเจ้าสาวของคุณยังไม่มาและเจ้าบ่าวของฉันก็หนีไปแล้วอย่างนี้… ฉันว่า… เรามาแต่งงานกันเสียเลยดีไหมคะ” … ก่อนแต่งงานเธอเอ่ยว่า “แม้เราจะนอนร่วมเตียงกัน แต่จะไม่มีอะไรเกิดขึ้นระหว่างเรา” หลังแต่งงานเขาเอ่ยว่า “ถ้าไม่ลองแล้วจะรู้หรือ”

Options

not work with dark mode
Reset