“หลงเจี่ย ฉันรู้ว่าตอนนั้นฉันอาจจะดูไร้เหตุผลไปบ้าง แต่ฉันแค่อยากเจอถังหนิงเฉยๆ ค่ะ”
หลงเจี่ยรู้ว่าตอนนี้ไม่มีคำพูดใดเข้าหูซย่าหันโม่ เพราะจิตใจของเธอเอาแต่นึกถึงโจวชิง เธอคิดว่าทุกคนเข้าใจผิดเธอกับโจวชิงอยู่
หลงเจี่ยก้มหน้าครุ่นคิดครู่หนึ่งก่อนจะต่อสายหาถังหนิง “ซย่าหันโม่อยากพบคุณค่ะ”
“ถ้าเป็นไปได้ฉันก็อยากเจอหลินเฉี่ยนเหมือนกันค่ะ”
ตอนนี้สิ่งที่ซย่าหันโม่ต้องการคือการแก้ต่างให้กับโจวชิง เธอต้องการให้ทุกคนรู้ว่าหลินเฉี่ยนเป็นคนก่อเรื่องวุ่นวายนี้ขึ้นมา
ทุกอย่างเป็นแผนของหลินเฉี่ยน…
บางทีอาจจะจริงอย่างที่ใครพูดกันว่า ผู้ชมมักมองเกมออกมากกว่าผู้เล่นเสมอ
ท้ายที่สุดถังหนิงจึงตกลงที่จะพบกับซย่าหันโม่ หากแต่เมื่อหญิงสาวทั้งสองคนมาเผชิญหน้ากันอีกครั้ง ไม่มีสิ่งใดที่เหมือนเดิมอีกต่อไป ทั้งสองคนไม่มีอารมณ์จะมาสนใจคนอื่นแม้แต่น้อย
“เธอจะพูดอะไรอีกล่ะ” ถังหนิงถามพลางทิ้งตัวลงนั่ง “ฉันพูดทุกอย่างไปหมดตั้งแต่เมื่อคืนแล้วนะ”
“ฉันอยากให้คุณให้โอกาสให้โจวชิงได้พิสูจน์ตัวเองว่าเป็นผู้บริสุทธิ์และหลินเฉี่ยนเป็นคนที่ใส่ร้ายเขาค่ะ”
ได้ยินดังนั้นแววตาของถังหนิงพลันเปลี่ยนเป็นเย็นชากว่าเดิม
“เธอทำอย่างนั้นเพราะเธอไม่สามารถคอยบงการฉันได้ค่ะ”
“เธอเชื่ออย่างที่พูดออกมาจริงๆ เหรอ” ถังหนิงถามอย่างใจเย็น “เธอก็รู้ว่าหลินเฉี่ยนไม่มีเหตุผลอะไรจะไปใส่ร้ายโจวชิง เธอก็แค่ไม่ยอมเชื่อเท่านั้น เรื่องนี้มีพิรุธมากมายที่เธอปฏิเสธที่จะยอมรับมัน เธอกลับเลือกที่จะเชื่อใจโจวชิงแล้วหันปลายดาบมาทางพวกของตัวเองเนี่ยนะ…
…เป็นเพราะเธอ หลินเฉี่ยนถึงได้ตกอยู่ในอาการหวาดกลัวและหวาดระแวงอย่างนี้ ตอนนี้เธอก็ยังอยู่ที่โรงพยาบาล ฉันมั่นใจว่าเธอรู้ว่าหลินเฉี่ยนเป็นคนยังไง แต่เพื่อคนรักของตัวเอง กลับปั้นคำโกหกเพื่อใส่ร้ายเธอแทนที่จะไว้ใจเธอ ทั้งหมดนี้เป็นเพราะเปลือกนอกของโจวชิงดูไม่มีที่ติสินะ”
“ไม่ค่ะ คุณเข้าใจผิดแล้ว…”
“เลิกหนีความจริงสักที ซย่าหันโม่ ขนาดฉันแค่คิดถึงท่าทางของหลินเฉี่ยนที่เกือบจะเป็นเหยื่ออันโอชะให้ฝูงสุนัขเมื่อคืนนะ จากนี้ต่อไป เธอไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับจู้ซิงมีเดียอีกแล้ว”
พูดจบถังหนิงก็ก้มหน้าและตะโกนลั่น “ออกไปซะ”
“ฉันต้องทำยังไงให้คุณเชื่อว่าโจวชิงไม่ใช่คนผิดคะ”
“แล้วฉันต้องทำยังไงให้เธอเชื่อว่าโจวชิงตั้งใจทำร้ายคนอื่นล่ะ”
“ถังหนิง ฉันรู้ว่าคุณมักทำตามสิ่งที่ตัวเองต้องการตลอด ถ้ามีคุณอยู่ โจวชิงกับฉันคงไม่สามารถอยู่รอดในวงการนี้ได้หรอกค่ะ ถ้าคุณอยากจะแก้แค้น ช่วยมาลงที่ฉันคนเดียวเถอะค่ะ อย่าไปทำโจวชิงเลยนะคะ เขาไม่ได้ทำอะไรผิดสักหน่อย”
เมื่อได้ยินดังนั้น ถังหนิงหลุดขำออกมา “สำหรับคนนอกจู้ซิงมีเดีย ฉันก็ปฏิบัติกับพวกเขาอย่างเป็นธรรมมาตลอดนะ แต่กับคนที่พยายามใช้จู้ซิงมีเดียเพื่อผลประโยชน์ของตัวเอง ฉันจะทำลายพวกเขาซะ ทุกอย่างที่เขาได้จากจู้ซิงมีเดียไป ฉันจะทำให้พวกเขาต้องชดใช้คืนมาให้หมด…
“ส่วนเธอ ฉันไม่มีอะไรจะพูดกับเธออีกแล้ว ไหนๆ ฉันก็ตัดขาดกับเธอต่อหน้าทุกคนแล้ว ไม่มีเหตุผลอะไรที่ฉันจะต้องมาเกี่ยวข้องกับเธออีก
“ตราบใดที่ฉันยังอยู่ วันนี้เธอมั่นใจมากเท่าไหร่ ต่อไปเธอจะต้องเสียใจมากเท่านั้น
“เธอใจกว้างนักก็หาทางอื่นช่วยโจวชิงเองแล้วกันนะ
“แล้วก็อย่าเข้ามาเหยียบที่จู้ซิงมีเดียอีก”
“ถังหนิง คุณต้องใจร้ายขนาดนี้เลยเหรอคะ”
“เธอยังไม่เห็นความโหดเ**้ยมที่แท้จริงของฉันเลยนะ” สิ้นคำ ถังหนิงบอกให้เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยมาลากตัวซย่าหันโม่ออกไปจากจู้ซิงมีเดีย
หากแต่นับจนถึงบัดนี้ ซย่าหันโม่ยังคงไม่เข้าใจว่าทำไมถังหนิงถึงไม่ยอมให้โอกาสเธอ เธอไม่อาจรู้ได้ว่าตัวเองทำอะไรผิดไป
หากแต่มันไม่ใช่เรื่องสำคัญเพราะถังหนิงไม่ได้รีบร้อนและหลินเฉี่ยนจะไม่มีทางเสียเวลาไปอีกเป็นอันขาด
อย่างไรเสียโจวชิงก็ช่วยให้พวกเขาได้สั่งสอนบทเรียนให้กับซย่าหันโม่ ตอนนี้ซย่าหันโม่ไม่มีประโยชน์แล้ว โจวชิงยังจะทุ่มเทใส่ใจดูแลเธออยู่หรือไม่
ถังหนิงล่ะสงสัยจริงๆ!
…
หลังจากนั้น ซิงหลานกับลัวเซิงได้แยกกันไปเยี่ยมหลินเฉี่ยน ด้วยซิงหลานสนิทสนมใกล้ชิดกับหลินเฉี่ยน เมื่อเห็นว่าเธอได้รับบาดเจ็บหนักเพียงไหน เธอก็โกรธจนแทบจะกัดใครบางคนได้
“ฉันไม่อยากจะเชื่อเลย เพื่อผู้ชายคนเดียว ซย่าหันโม่ยอมทรยศพวกเราทุกคนที่จู้ซิงมีเดียจริงๆ!”
“เธอไม่ได้เป็นส่วนหนึ่งของจู้ซิงมีเดียแล้วนะ” หลินเฉี่ยนว่าขึ้นพร้อมเสียงหัวเราะ
“ทำไมจะไม่ใช่ละคะ ฉันเกิดมาเพื่อเป็นส่วนหนึ่งของจู้ซิงมีเดียแล้วก็จะตายไปพร้อมกับมันด้วยค่ะ” ซิงหลานกล่าวฟึดฟัด “ฉันจะคอยดูนังคนไร้ค่านั่นถูกทิ้ง เมื่อวันนั้นมาถึงเธอจะได้รู้เสียทีว่าใครกันแน่ที่เป็นคนดี”
“มันไม่สำคัญอีกต่อไปแล้วล่ะ” หลินเฉี่ยนส่ายหัว แม้ว่าจะเจ็บปวดเมื่อนึกถึงเรื่องซย่าหันโม่ แต่มันถึงเวลาที่ปล่อยอีกฝ่ายไปอย่างไม่ต้องลังเลแล้ว
“ส่วนโจวชิงคนนั้น ฉันไม่อยากจะเชื่อว่าเขามีชื่อเสียงดีๆ ขนาดนั้น แต่จริงๆ แล้วเขากลับเป็นพวกจอมปลอม เขานี่ทำตัวได้แนบเนียนจริงๆ ”
“ตอนนี้คนว่ายังไงกับเรื่องนี้เหรอคะ” สิ่งที่หลินเฉี่ยนกังวลที่สุดคือความคิดเห็นจากคนภายนอก เธอเป็นห่วงว่าถังหนิงจะต้องมาเดือดร้อนเพราะเรื่องของเธออีก
“คุณคิดว่าพวกเขาจะคิดยังไงล่ะคะ พวกเขาก็ได้แต่สงสัยและรอดูการแสดงเด็ดๆ น่ะสิ ทุกคนต่างก็อยากรู้กันทั้งนั้นว่าทำไมถังหนิงถึงแตกหักกับศิลปินของตัวเอง”
หลินเฉี่ยนก้มหน้าลงเมื่อได้ยินคำตอบของซิงหลาน
เธอคงจะไม่มีทางลืมการกระทำของถังหนิงในคืนก่อนได้
“ตอนนี้ซย่าหันโม่ไม่เหลืออะไรแล้ว ฉันสงสัยว่าโจวชิงวางแผนจะใช้เธอยังไง”
…
แม้ว่าเรื่องไปเลยเถิดไปไกลเกินการควบคุมของเขา โจวชิงเองก็ไม่ได้เดือดร้อนหนักหนาอย่างที่ทุกคนคาดการณ์ ถึงอย่างไรกิตติศัพท์ของเขาที่มีมาตลอดหลายปีนี้ก็ไม่เสียเปล่า ดังนั้นในขณะที่ซย่าหันโม่อยู่ที่จู้ซิงมีเดีย เขาไปที่โรงพยาบาลเพื่อเยี่ยมลูกชายผู้จัดการสถานีโทรทัศน์ด้วยตัวเอง ดูผ่านๆ อาจเหมือนการเจรจาขอสงบศึก หากแต่ความจริงแล้ว…
“คุณต้องการอะไร คุณเพิ่งเข้าสังกัดช่องคู่แข่งไปแล้วตอนนี้ยังพยายามจะมาประจบประแจงผมอีกเหรอ”
“ผมรู้ว่าใครเป็นคนทำร้ายคุณ” โจวชิงเอ่ยอย่างใจเย็นพลางมองไปที่แขนของอีกฝ่าย “ที่ผมมาวันนี้เพื่อขอความช่วยเหลือสุดท้ายจากพ่อของคุณ”
ชายหนุ่มมองแขนที่พิการสนิทของตัวเองและพลันระเบิดอารมณ์ออกมา “บอกผมมา มันเป็นใคร”
“จู้ซิงมีเดียไงครับ ผมมาวันนี้เพื่อขอความเมตตาให้หันโม่ ถึงยังไงเธอก็มีเรื่องบาดหมางใหญ่โตกับเอเจนซี่ของเธอเพราะเรื่องนี้ ถังหนิงต้องการจะใส่ความผมแต่หันโม่ไม่ยอม ถึงได้มีเรื่องกันเมื่อวานไงครับ”
ลูกชายผู้จัดการเหลือบมองโจวชิงและคว้าคอเสื้อของเขาคล้ายจะข่มขู่ “ถ้าผมรู้ว่าสิ่งที่คุณพูดวันนี้เป็นเรื่องโกหก ผมจะทำให้คุณย่อยยับ”
“ไหนๆ จู้ซิงมีเดียก็พยายามจะใส่ร้ายผมอยู่แล้ว คุณจะทำลายผมตอนนี้เหมือนกันเลยก็ได้ครับ” โจวชิงยิ้มเยาะ “จำไม่ได้เหรอครับว่าก่อนหน้านี้ก็มีนักแสดงหญิงคนหนึ่งที่ตายเพราะถังหนิง คุณไม่เคยได้ยินว่าเธอโหดร้ายขนาดไหนเหรอครับ”
ชายหนุ่มคิดชั่วครู่และยังรู้สึกว่าเรื่องทุกอย่างน่าสงสัย “แล้วทำไมจู้ซิงมีเดียต้องพยายามทำร้ายผมด้วยล่ะ”