จากนั้นถังหนิงจึงได้บอกเรื่องที่ตัวเองส่งเลขาให้ไปทำกับลัวอิงหง
เมื่อได้ยินสิ่งที่ถังหนิงทำ เธออดไม่ได้ที่จะคารวะให้กับความเฉลียวฉลาดของอีกฝ่าย คนธรรมดาที่ไหนจะคิดพลิกแผนให้กลับไปทำร้ายคนวางแผนเองได้กัน แต่ถังหนิงกลับทำสิ่งนั้นได้และทำสำเร็จเสียด้วย
พูดได้อีกอย่างว่าตอนนี้พวกเขาได้ถือไพ่ในมือเหนือกว่าฝ่ายตรงข้ามอย่างชัดเจน
จากนี้ไปลัวอิงหงจะไม่ต้องทนกับเฝิงจิ้งอีกต่อไปแล้ว
…
ไม่นานเฝิงจิ้งได้มาปรากฎตัวที่จู้ซิงมีเดียด้วยตัวเอง แต่แน่นอนว่าถังหนิงไม่ปล่อยให้เธอเข้ามาได้อย่างที่เธอต้องการ กลับให้รอด้านนอกอยู่หลายชั่วโมงก่อนจะบอกให้เลขาไปเจรจากับเธอ
เฝิงจิ้งมองสำรวจไปรอบๆ จู้ซิงมีเดียพลางเหยียดยิ้มขณะเอ่ยกับเลขา “ฉันว่าเธอเรียกประธานถังออกมาจะเป็นการดีที่สุดนะ”
“ขอโทษด้วยค่ะคุณเฝิง ตอนนี้ประธานถังกำลังพักผ่อนอยู่และไม่ต้องการพบแขกคนไหนทั้งนั้นค่ะ” เลขาตอบกลับอย่างใจเย็น
“แล้วลัวอิงหงล่ะ เรียกเธอออกมาคุยกับฉันซะสิ!”
“ขอโทษด้วยค่ะคุณเฝิง แต่คุณต้องทำการนัดถึงจะพบกับพี่หงได้ค่ะ”
เมื่อได้ยินดังนั้น เห็นได้ชัดว่าเฝิงจิ้งโกรธจัดจนหอบตัวโยน ถึงอย่างไรเธอก็มีคนรู้จักในวงการมากมาย และไม่เคยมีใครปฏิบัติกับเธอด้วยท่าทีหยาบคายขนาดนี้มาก่อน “ประธานถังของเธอนี่ไม่ใช่เล่นๆ เลยนะ”
เลขาไหวไหล่ก่อนหันหลังเดินจากไป ทว่าอยู่ๆ เฝิงจิ้งก็คว้าข้อมือของเธอเอาไว้ “อย่าบอกฉันนะว่าจู้ซิงมีเดียจงใจวางแผนทำให้ฉันอับอายขายหน้าน่ะ”
“คุณเฝิงคะ กรุณาให้เกียรติกันบ้างนะคะ!” เลขาสาวออกปากเตือน
เฝิงจิ้งจับข้อมือของอีกฝ่ายพลางจ้องเขม็งอย่างเย็นชาก่อนเอ่ยข่มขู่ “เดี๋ยวก็จะถึงเวลาเลิกงานของเธอแล้ว คอยดูแล้วกันว่าฉันจะทำอะไรเธอ…”
เลขาสาวสบตาเธอและสะบัดมือออกแล้วหันเดินออกไป จากนั้นจึงกลับมาที่ห้องพร้อมกับถังหนิง
“พี่เฝิงมาถึงจู้ซิงมีเดียโดยไม่ได้รับเชิญก็แย่พออยู่แล้ว ยังจะต้องพูดจาข่มขู่เลขาของฉันด้วยเหรอคะ” ถังหนิงถาม
เฝิงจิ้งมองถังหนิงด้วยสายตาไม่เป็นมิตรพร้อมว่าเย้ยหยัน “ถังหนิง ไม่คิดว่าวิธีการของเธอมันร้ายกาจไปหน่อยเหรอ”
“พี่เฝิง ทำไมคุณถึงไม่พูดเข้าเรื่องสักทีละคะ” ถังหนิงนั่งลง เธอทนให้เลขาของตัวเองไปเตรียมชาให้เฝิงจิ้งไม่ได้ด้วยซ้ำ
“รูปฉัน…”
เมื่อได้ยินสองคำนี้ ถังหนิงก้มหน้าและนิ่งเงียบไปชั่วครู่ จากนั้นจึงเงยหน้าขึ้นมองพร้อมระบายยิ้ม
“คุณมาที่นี่เพราะเรื่องนั้นเองสินะคะ…” หลังเงียบไปพักหนึ่ง เธอจึงเอ่ยต่อ “ไหนๆ คุณก็รู้ว่าฉันถือไพ่เหนือกว่าคุณแล้ว คิดว่าตัวเองมีสิทธิ์อะไรมาทำท่าจองหองขนาดนี้กันล่ะค่ะ”
“เธอต้องการอะไร” เฝิงจิ้งถามกลับขณะที่กัดฟันกรอดๆ
“ง่ายๆ เลยค่ะ ฉันให้คุณเลิกกับลูกชายของพี่หงและห้ามติดต่อกับเขาอีก ไม่อย่างนั้นฉันคงจะได้เห็นคุณขึ้นพาดหัวข่าวแน่ค่ะ”
“เธอต้องทำความเข้าใจให้ชัดเจนเรื่องหนึ่งนะ ลูกชายของเธอเป็นฝ่ายมาคอยตามติดฉันเอง ไม่ใช่เพราะเรื่องอื่นสักหน่อย!” เฝิงจิ้งยิ้มเยาะ “อะไรกัน เธอไม่เชื่อว่าเรารักกันจริงๆ เหรอยังไง แม้ว่าฉันจะรู้สึกผิดที่พรากลูกชายมาจากเธอ แต่เธอไม่คิดบ้างเหรอว่าการแยกคู่รักให้ห่างกันมันมากเกินไปน่ะ”
ถังหนิงไม่อยากจะเสียเวลากับเฝิงจิ้งอีก เธอจึงหันไปสั่งเลขาของเธอ “เตรียมตัวปล่อยรูปในสื่อได้เลย”
“ถังหนิง! อย่าทำให้ฉันเหลืออดนะ!” เธอขู่คำรามออกมาพร้อมลุกขึ้นยืน “ทำไมคนนอกอย่างเธอต้องเข้ามายุ่งเรื่องระหว่างลัวอิงหงกับฉันด้วย”
“ฉันชอบที่ได้ไล่ต้อนคุณไงคะ! ปล่อยรูปซะ!” ถังหนิงออกปากสั่งเลขาของตัวเอง
เมื่อเห็นว่าการเจรจากับถังหนิงไม่ใช่เรื่องง่ายๆ ท้ายที่สุดเฝิงจิ้งจึงยอมอ่อนข้อและสะกดกลั้นความโกรธเอาไว้ “ถังหนิง เราทั้งคู่ต่างก็เป็นผู้หญิง มันไม่ง่ายสำหรับเราทั้งสองคนเลยนะ ทำไมเธอต้องทำให้ฉันเดือดร้อนด้วย”
“ถ้าอย่างนั้น ทำไมคุณถึงต้องแย่งหน้าที่การงานของคนอื่นและพรากลูกชายของเขาไปด้วยล่ะคะ” พูดจบถังหนิงก็หันหลังออกไป “ถ้าคุณไม่ยอมแพ้ซะ ฉันก็ไม่มีทางเลือกนอกจากปล่อยรูปพวกนี้ออกไปค่ะ คุณคิดว่าจะมารังแกศิลปินของฉันได้ง่ายๆ จริงๆ เหรอคะ แล้วคุณก็รังแกเลขาของฉันไม่ได้ด้วยค่ะ เพราะจากนี้ไปเลขาของฉันจะมีบอดี้การ์ดสองคนคอยประกบอยู่ตลอด
“ถ้าคุณยังอยากจะหาเรื่องอีกก็เชิญเลยค่ะ…”
สิ้นประโยค ถังหนิงหันหลังเดินจากไป ตอนนี้เองที่เฝิงจิ้งเก็บซ่อนความไม่พอใจของตัวเองและโพล่งออกไปในท้ายที่สุด “ฉันจะทำอย่างที่เธอต้องการก็ได้…
“ฉันสัญญาว่าจะเลิกกับลูกชายของลัวอิงหง ทีนี้เธอจะคืนรูปมาให้ฉันได้หรือยัง”
“ฉันต้องได้เห็นว่าคุณจริงใจแค่ไหนก่อนค่ะ”
ทุกคนต่างรู้กันว่าถังหนิงจัดการได้ยากขนาดไหน ทั้งวิธีที่ละมุนละม่อมและรุนแรงต่างใช้ไม่ได้ผลกับเธอ รวมถึงวิธีที่ทั้งถูกกฎหมายและผิดกฎหมายก็เช่นกัน เธอทำเพียงยึดตามกฎเกณฑ์ของตัวเองเท่านั้น
เฝิงจิ้งจึงไม่มีหนทางอื่นนอกเสียจากแยกทางกับลูกชายของลัวอิงหง ไม่ว่าเดิมทีเธอจะต้องการเดินเกมนี้อย่างไรก็ตาม
“แล้วถ้าคุณทำให้ลูกชายของเธอเข้าใจผิดว่าพี่หงทำบางอย่างเพื่อให้คุณเลิกกัน ฉันจะปล่อยรูปพวกนี้ตามแผนเดิมที่วางไว้นะคะ ความจริงแล้วฉันจะทำให้มั่นใจว่าทุกคนจะได้เห็นรูปพวกนี้ด้วยค่ะ”
หลังจากกล่าวเตือนครั้งสุดท้าย ถังหนิงก็เดินออกจากห้องไป
มันได้ทำลายทุกความคิดของเฝิงจิ้ง
เดิมทีเธอคิดว่าตัวเองยังสามารถใช้เล่ห์เหลี่ยมเพื่อทำให้ลัวอิงหงสูญเสียลูกชายตลอดไปได้ หากแต่เห็นได้ชัดว่าถังหนิงกลับรู้ทันความคิดของเธอ
เฝิงจิ้งจะเป็นคู่ต่อสู้ที่สมน้ำสมเนื้อกับเธอได้อย่างไร ในเมื่อทุกครั้งที่เข้าจู่โจมถังหนิง ก็มักจะถูกต้อนให้จนมุมอย่างไม่อาจขัดขืนได้ และในครั้งนี้เธอยิ่งไม่มีทางเลือกใดนอกจากเสียสละไม้ตายสุดท้ายเพื่อปกป้องตัวเอง
ดังนั้นเฝิงจิ้งจึงถูกถังหนิงเหยียบย่ำเสียจมดิน ความจริงแล้วเธอถูกเหยียบย่ำยิ่งกว่าที่ลัวอิงหงโดนเสียอีก
…
หลังจากออกมาจากห้องประชุม เลขาของถังหนิงมองมาที่เธออย่างคาดหวัง “ประธานถังคะ คุณจะให้บอดี้การ์ดตามประกบฉันจริงๆ เหรอคะ”
“ใช่ ฉันกำลังคิดอยู่ตอนนี้เนี่ยแหละ” ถังหนิงพยักหน้า
เลขาของเธอทำเพื่อเธอมามาก แม้ว่าจะดูเกินกว่าเหตุไปสักหน่อย หากแต่เธอก็ยังคงต้องการปกป้องคนที่ทุ่มเททำงานอย่างหนัก
“ขอบคุณนะคะ ประธานถัง ถ้าเป็นอย่างนั้นฉันคงจะไม่ต้องกลัวแล้วล่ะค่ะ”
ถังหนิงระบายยิ้มและกลับไปที่ห้องทำงานของตัวเอง ทว่าเมื่อคิดถึงเรื่องของเฝิงจิ้ง เธอคงจะไม่จบเรื่องนี้ง่ายๆ ทั้งเรื่องนี้ยังเกี่ยวข้องกับลัวอิงหงกับหลินเฉี่ยนด้วยแล้ว ถังหนิงต้องทำลายนังนั่นให้สิ้นซากเธอถึงจะพักผ่อนได้อย่างสนิทใจ
ไม่นานลัวอิงหงก็ได้ยินเรื่องการตกลงกันระหว่างถังหนิงกับเฝิงจิ้ง แน่นอนว่าด้วยความแข็งแกร่งของถังหนิงเธอไม่เคยเป็นกังวลว่าเธอจะถูกเฝิงจิ้งกดขี่ข่มเหงแม้แต่น้อย
ดังนั้นสิ่งที่เธอต้องทำในตอนนี้คือการรอให้ลูกชายกลับมาบ้าน
“พี่หงคะ คุณต้องจำเอาไว้ว่าต่อให้ลูกชายของคุณกลับมาหา คุณก็ให้อภัยให้เขาทันทีไม่ได้นะคะ เขาต้องกำลังสงสัยว่าคุณใช้เล่ห์เหลี่ยมบางอย่างทำให้พวกเขาเลิกกันแน่ค่ะ ดังนั้นคุณต้องทำเย็นชากับเขาแล้วปล่อยให้เขาไม่มีที่พึ่ง บังคับให้เขากลับหาเฝิงจิ้ง เขาต้องโดนผู้หญิงคนนั้นทำให้เจ็บปวดจนถึงที่สุด ไม่อย่างนั้นความสัมพันธ์ระหว่างเขากับคุณจะไม่มีทางชัดเจนได้เด็ดขาดค่ะ”
เมื่อได้ยินดังนั้น ลัวอิงหงจึงอดกลั้นความปวดใจเอาไว้และพยักหน้ารับ ถูกอย่างที่ถังหนิงพูด
“อย่าทำตัวเหมือนอย่างที่เฝิงจิ้งต้องการให้คุณเป็นนะคะ”
“ฉันเข้าใจแล้วค่ะ” ลัวอิงหงพยักหน้าให้ด้วยท่าทีจริงจัง
“ทนเอาไว้อีกนิดนะคะแล้วคุณจะได้ลูกชายกลับมาอย่างแน่นอนค่ะ”
เธอเชื่อว่าสิ่งที่ถังหนิงรับปากไว้จะเกิดขึ้นจริง จึงจดจ่อกับการทำงานของเธอต่อไป โดยเฉพาะการร่วมงานกับเซนต์จิวเวลรี่
“ฉันจะนัดสัมภาษณ์ให้คุณค่ะ ตั้งใจใช้ชีวิตใหม่ของคุณเข้านะคะ”