วิวาห์พลิกรัก ฉบับซุปตาร์ – ตอนที่ 946 กดขี่ข่มเหงฉันต่อไปสิ จู้ซิงมีเดีย!

หลี่จิ่นไม่ชอบที่หลินเฉี่ยนพูดทับถมตัวเองอย่างนั้น เขาโอบไหล่เธอก่อนเอ่ย “ตอนนี้ทุกอย่างผ่านไปแล้วครับ ผมจะคอยปกป้องคุณเองนะ”

 

 

หลินเฉี่ยนพยักหน้ารับ ในคืนก่อนวันแต่งงานอย่างน้อยการกลับมาของหลี่จิ่นก็ทำให้เธออุ่นใจได้

 

 

“ไหนๆ สถานการณ์ก็เป็นอย่างนี้แล้ว ผมว่าถึงเวลาที่เราต้องตอบโต้กลับแล้วล่ะครับ”

 

 

ตระกูลกู้ออกปากเองว่าพวกเขาจะให้ความช่วยเหลืออย่างไม่มีเงื่อนไขใดๆ

 

 

ภรรยาของคุณพ่อกู้มาจากครอบครัวปัญญาชน จึงคอยช่วยเหลือเขาหลังจากที่รู้ว่าเขาผ่านอะไรมาบ้างและยังยอมรับในตัวหลินเฉี่ยนด้วย แต่แน่นอนว่าเธอจะไม่ปล่อยให้เฝิงจิ้งรอดตัวไปได้ง่ายๆ

 

 

เฝิงจิ้งต้องได้สัมผัสกับการแก้แค้นของเธอ!

 

 

หลังจากวันนั้น หลี่จิ่นโทรหาถังหนิง ครั้งนี้ถังหนิงได้เตรียมแถลงการณ์ไว้เรียบร้อยแล้ว ในเมื่อเฝิงจิ้งต้องการสร้างเรื่องนัก เธอจะมอบข่าวใหญ่ให้กับเธอเอง!

 

 

ไม่นานหลังจากบทความหลายเรื่องที่ความเสียหายให้กับหลินเฉี่ยนเริ่มแพร่สะพัดไปทั่ว ในที่สุดจู้ซิงมีเดียก็ออกมาตอบโต้เป็นครั้งแรก “ประการแรก หลังจากที่สืบเรื่องนี้โดยละเอียด จู้ซิงมีเดียพบว่าคนที่โพสต์รูปภาพสมัยวัยรุ่นของหลินเฉี่ยนคือเฝิงจิ้ง แม่ของเธอเอง

 

 

“ประการที่สอง ระหว่างช่วงเวลาที่เฝิงจิ้งทำหน้าที่ผู้ช่วยของลัวอิงหง ศิลปินของจู้ซิงมีเดีย ปรากฏว่าเธอมีส่วนเกี่ยวข้องกับการพนันและชีวิตส่วนตัวของเธอก็ไม่ได้ใสสะอาดนัก เป็นช่วงก่อนที่เธอจะทอดทิ้งหลินเฉี่ยน ดังนั้นรูปพวกนี้จึงมาจากในช่วงที่เฝิงจิ้งไปที่ร้านเหล้าบ่อยๆ ไม่ได้มาจากหลังจากที่เธอหายหน้าไป

 

 

“ประการที่สาม เฝิงจิ้งท้องทั้งที่ยังไม่ได้แต่งงาน เธอจึงปิดบังเรื่องที่เธอมีลูกสาวเอาไว้เพราะไม่ต้องการให้เรื่องถูกเปิดเผย เหตุที่เธอไปที่สถานีตำรวจบ่อยครั้งเพราะกลัวว่าลูกสาวของตัวเองจะปรากฏตัวขึ้นและกล่าวหาเธอ อย่างไรก็ตามเธอไม่อาจยับยั้งการปรากฏตัวของหลินเฉี่ยนได้ในท้ายที่สุด เธอจึงทำตัวน่าสงสารหลอกลวงทุกคนแทน ทั้งที่ความจริงแล้วเธอเป็นคนที่ทอดทิ้งลูกสาวของตัวเอง ไม่ได้เพียงแค่ทำเธอหาย…

 

 

“ประการที่สี เฝิงจิ้งข่มขู่ลูกสาวเพื่อให้ช่วยตัวเองไม่สำเร็จ ดังนั้นเพื่อเป็นการแก้แค้นเธอจึงใช้วิธีร้ายกาจในการตอบโต้ จู้ซิงมีเดียจะดำเนินการตามกฎหมายกับเฝิงจิ้งสำหรับเรื่องที่เกิดขึ้นทั้งหมดนี้

 

 

“จู้ซิงมีเดียมีหลักฐานสำหรับเรื่องทั้งหมดที่กล่าวมาข้างต้น และขอให้คุณเฝิงจิ้งโชคดีมา ณ ที่นี้ด้วย”

 

 

ทันทีที่แถลงการณ์ถูกปล่อยออกไป ทั้งวงการบันเทิงก็สั่นสะเทือนกันใหญ่โตด้วยความเด็ดขาดอย่างถึงที่สุดของเนื้อหาด้านใน

 

 

หลายคนที่เห็นแถลงการณ์ต้องอ่านซ้ำอยู่หลายครั้งเพื่อทำความเข้าใจความหมายที่สื่อออกมาทั้งหมด ยิ่งเมื่อได้ยินว่าจู้ซิงมีเดียมีบันทึกเสียงที่เฝิงจิ้งขายรูปของหลินเฉี่ยนให้กับนักข่าว และรูปของหลินเฉี่ยนจากการสืบหาอื่นๆ ของพวกเขา แม้ว่าคำอธิบายทั้งสี่ข้อจะไม่เพียงพอที่จะทำลายเฝิงจิ้งให้ย่อยยับได้ แต่ก็พอที่จะทำให้คนส่วนใหญ่เชื่อว่าเธอโหดเ**้ยมเพียงไหน

 

 

ถังหนิงอดทนมานานและรวบรวมหลักฐานมาสักพักใหญ่ ถึงเวลาที่เธอจะลงมือแล้ว

 

 

ไม่อย่างนั้นความเย่อหยิ่งของเฝิงจิ้งคงน่าเสียดายแย่

 

 

แน่นอนว่าในตอนนี้เฝิงจิ้งถูกแฉแล้ว เธอไม่อาจรีบร้อนพิสูจน์ความบริสุทธิ์ของหลินเฉี่ยนได้ทันที ยังมีอย่างอื่นที่เธอต้องทำเสียก่อน

 

 

การแสดงสนุกๆ ต้องเปิดม่านในครั้งเดียวสิ

 

 

 

 

[จู้ซิงมีเดียพยายามจะบอกว่าเรื่องส่วนตัวของเฝิงจิ้งไม่ได้ใสสะอาดเธอเลยทอดทิ้งหลินเฉี่ยนหลังจากคลอดออกมาน่ะเหรอ เพราะอย่างนี้เธอเลยกลัวว่าหลินเฉี่ยนจะมาตามหาเธอ เลยไปติดสินบนกับตำรวจไว้ แล้วตอนนี้ที่หลินเฉี่ยนโผล่ออกมา ไม่เพียงแต่เธอจะทำตัวน่าสงสารแต่ยังพยายามข่มขู่ให้หลินเฉี่ยนทำงานให้เธออีก แต่พอเธอปฏิเสธที่จะร่วมมือก็เลยหาเรื่องใส่ร้ายใช่ไหม ถ้าฉันเข้าใจอะไรผิดไปบอกด้วยนะ]

 

 

[ตามที่เธอว่าเป๊ะเลย! สุดยอด!]

 

 

[เธอเข้าใจได้ถ่องแท้สุดๆ ไปเลย!]

 

 

[ดูจากหลักฐานแล้ว คงจะเป็นอย่างนั้นจริงๆ แหละ หลินเฉี่ยนถึงได้ทำกับเฝิงจิ้งแบบนั้นไง]

 

 

[ไม่คิดว่านักแสดงที่ฉันชื่นชอบมาตลอดหลายปีจะทำตัวต่ำตมอย่างนี้]

 

 

[ฉันต้องตาบอดไปแน่ๆ]

 

 

[จู้ซิงมีเดียพูดเรื่องจริงเหรอ พวกเขาคงไม่กล่าวหาคนอื่นลอยๆ ใช่ไหม]

 

 

[ได้โปรดเถอะ ก่อนอื่นนะ จู้ซิงมีเดียไม่เคยพยายามปกปิดตัวตนที่แท้จริงของหลินเฉี่ยนเลย สอง ตามปกติของจู้ซิงมีเดีย พวกเขามีเหตุผลอะไรจะไปใส่ความนักแสดงที่ไม่ได้ทำผิดกันล่ะ และสุดท้าย ไม่คิดว่าหลักฐานมันก็เห็นกันอยู่ตำตาเหรอ]

 

 

 

 

ด้วยเหตุนี้ผู้คนบนโลกออนไลน์จึงพุ่งเป้ามารุมประณามเฝิงจิ้งอย่างรวดเร็ว

 

 

แม้แต่ต้นสังกัดของเฝิงจิ้งยังคาดไม่ถึงว่าเธอจะมีความลับอันดำมืดมากขนาดนี้อย่างน่าเหลือเชื่อ อันที่จริงเธอยังโชคดีที่ลัวอิงหงไม่ได้ซ้ำเติมเธอในขณะที่ตกต่ำ ไม่อย่างนั้นชะตากรรมของเธอคงได้ย่ำแย่ไปกว่านี้

 

 

ถึงต้นสังกัดของเธอจะไม่รู้ว่าต้องทำอย่างไร หากแต่เป็นธรรมดาที่พวกเขาก็ต้องออกมาอยู่เคียงข้างศิลปินของตัวเอง ในไม่ช้าจึงออกมาตอบโต้จู้ซิงมีเดีย “เรารู้ดีมาตลอดถึงความสามารถของจู้ซิงมีเดียและรู้ว่าพวกเขาขึ้นชื่อเรื่องการสร้างความจริง เชิญลงมือกดขี่ข่มเหงสังกัดเล็กๆ อย่างเราได้เลย เราสามารถรับมือกับเรื่องนี้ได้อย่างแน่นอน”

 

 

ต้นสังกัดใช้ความสามารถของถังหนิงในการทำให้ทุกอย่างเป็นเรื่องจริงมาทำให้ตัวเองน่าสงสาร

 

 

อย่างไรก็ตามถังหนิงไม่ได้สนใจพร้อมตอกกลับไปทันที “ฉันแค่เปิดเผยครึ่งหนึ่งของเรื่องที่เรารู้เท่านั้นเองนะ ยังมีอีกมากที่จะตามมา อย่าเพิ่งรีบพยายามแก้ต่างว่าตัวเองไม่ผิดสิ”

 

 

คำพูดเหล่านี้ยิ่งน่าหวาดกลัวมากขึ้น

 

 

อย่างไรเสียก็ไม่มีใครรู้ว่าถังหนิงจะมาไม้ไหนอีก

 

 

ดังนั้นทางต้นสังกัดพลันตกอยู่ในความตื่นตระหนก

 

 

หากพวกเขารู้คงจะยอมจำนน ยอมรับความพ่ายแพ้และเสียสละเฝิงจิ้ง แทนที่จะพาตัวเองมาตกที่นั่งลำบากเช่นนี้

 

 

เฝิงจิ้งนึกไม่ถึงว่าจู้ซิงมีเดียจะพุ่งเป้าโจมตีมาที่เธอเพียงเพื่อผู้จัดการคนเดียว

 

 

หลินเฉี่ยนมีค่ากับถังหนิงมากขนาดไหนกัน

 

 

ที่แย่ที่สุดคิดเธอไม่คาดคิดว่าไห่รุ่ยจะขุดคุ้ยอดีตและรู้ทุกอย่างเกี่ยวกับตัวเธอ ยังไม่รวมถึงการที่เธอนึกว่าทุกอย่างคงไม่มีอะไรมากกว่านี้แล้ว

 

 

หากแต่จู้ซิงมีเดียกลับบอกว่ายังมีเรื่องที่จะตามมาอีกมาก

 

 

ในขณะเดียวกันต้นสังกัดของไม่เหลือหนทางใดจนไม่อาจออกมาแก้ต่างในสถานการณ์อย่างนี้ได้ด้วยซ้ำ ด้วยพวกเขาไม่รู้ว่าถังหนิงวางแผนอะไรไว้อีก ทำได้เพียงทิ้งให้เฝิงจิ้งช่วยตัวเองไป

 

 

เดิมทีเฝิงจิ้งมีโอกาสสูงในการคว้ารางวัลเฟยเทียนมาได้ ทว่าถังหนิงเข้ามาขวางทางเธอไว้ หากแต่ในตอนนี้ไม่เพียงแต่เธอจะไม่ชนะรางวัลแล้ว ยังตกเป็นข่าวใหญ่อีก ดังนั้นในฐานะศิลปิน เธอจึงไม่เหลือคุณค่ากับเอเจนซี่ของตัวเองอีกต่อไป จึงเป็นเรื่องสำคัญที่พวกเขาต้องรีบกำจัดเธอให้เร็วที่สุด

 

 

“พี่จิง รีบคิดบางอย่างเข้าสิคะ จู้ซิงมีเดียกำลังโจมตีคุณอย่างไม่ยั้งมือเลยนะคะ ถ้าคุณไม่สู้กลับ ทางเอเจนซี่จะทิ้งคุณนะคะ” ผู้จัดการของเฝิงจิ้งเอ่ยอย่างหวั่นใจ เธอเป็นกังวลขนาดนี้แล้ว ผู้หญิงคนนี้ยังมีอารมณ์มานั่งดื่มไวน์ในเวลาแบบนี้ได้อีก

 

 

“แล้วฉันจะไปทำอะไรได้ล่ะ” เฝิงจิ้งตอบพลางทำทีแสร้งเป็นสงบนิ่งและไม่สะทกสะท้าน

 

 

“ถ้าคุณยอมแพ้อย่างนี้ ก็ไม่มีใครช่วยคุณได้นะคะ”

 

 

“ฮ่าๆๆ ช่วยฉันเหรอ ไม่ว่าพวกเขาจะทำอะไรก็ไม่มีทางเปลี่ยนอดีตและพื้นเพครอบครัวของหลินเฉี่ยนได้หรอก”

 

 

เมื่อเห็นสีหน้าของเฝิงจิ้ง ผู้จัดการนึกยอมแพ้กับการหว่านล้อมเธอ

 

 

บางทีนี่อาจเป็นการแก้แค้นของเธอก็เป็นได้!

 

 

“หลินเฉี่ยนเป็นนังหน้าด้าน นังแรด! ฮ่าๆ”

 

 

ในเมื่อพวกเขามาถึงจุดนี้แล้ว เฝิงจิ้งไม่ปิดบังตัวตนที่แท้จริงอีกต่อไป เธอจึงเริ่มพล่ามออกมา “พวกเขาบอกว่าฉันทอดทิ้งลูกสาวของตัวเองงั้นเหรอ ฉันเสียใจที่เคยคลอดเธอออกมาด้วยซ้ำ ฉันเป็นแม่ของเธอนะ แล้วดูสิ่งที่เธอทำกับฉันสิ ลูกสาวของฉันกำลังเหยียบย่ำซ้ำเติมฉันแม้ว่าฉันจะเป็นคนที่ให้ชีวิตเธอเนี่ยนะ!

 

 

“ฮ่าๆๆ ต่อให้เรื่องมาถึงขนาดนี้แล้วก็มีสิ่งหนึ่งที่ฉันต้องยอมรับว่าหลินเฉี่ยนเกิดมาจากเบื้องหลังอันดำมืด เธอฝันว่าจะได้แต่งงานเข้าครอบครัวที่ร่ำรวยด้วยประวัติแบบนี้ได้ยังไงกัน น่าขำสิ้นดี! นี่จะเป็นชะตากรรมของเธอตลอดไป

 

 

“กดขี่ข่มเหงฉันต่อไปสิ จู้ซิงมีเดีย ยังไงพวกแกก็รังแกคนอื่นกันเป็นประจำนี่นา

 

 

“จู้ซิงมีเดียเก่งเรื่องสร้างข่าวที่สุดอยู่แล้วนี่…”

วิวาห์พลิกรัก ฉบับซุปตาร์

วิวาห์พลิกรัก ฉบับซุปตาร์

ถังหนิง ผู้กำลังจะก้าวขึ้นไปเป็นนางแบบแนวหน้า แต่เพราะรักจึงสละสิ้นทุกอย่าง ทว่าคืนก่อนวันวิวาห์ที่เธอกำลังจะได้ครองรักดั่งหวังนั่นเอง คู่หมั้นของเธอกลับหนีออกไปกับหญิงอื่น ด้วยความเจ็บช้ำน้ำใจ เธอจึงเดินจ้ำไปหาผู้ชายคนหนึ่งที่ยืนอยู่หน้าสำนักงานเขต “ประธานโม่คะ ในเมื่อเจ้าสาวของคุณยังไม่มาและเจ้าบ่าวของฉันก็หนีไปแล้วอย่างนี้… ฉันว่า… เรามาแต่งงานกันเสียเลยดีไหมคะ” … ก่อนแต่งงานเธอเอ่ยว่า “แม้เราจะนอนร่วมเตียงกัน แต่จะไม่มีอะไรเกิดขึ้นระหว่างเรา” หลังแต่งงานเขาเอ่ยว่า “ถ้าไม่ลองแล้วจะรู้หรือ”

Options

not work with dark mode
Reset