“การตัดสินอยู่ในมือคุณแล้วนะ…ผมจะให้เวลาคุณคิดสักสองชั่วโมงแล้วกัน”
พูดจบ ประธานฟ่านก็หัวเราะและวางสายไป เพราะเพียงแค่ได้ข่มขู่ถังหนิงก็นับว่าเป็นชัยชนะของเขาแล้ว
ทว่าถังหนิงไม่ได้ทำอย่างที่คาดคิดเอาไว้ ยิ่งสถานการณ์น่าเป็นห่วงมาเท่าไร หญิงสาวก็ยิ่งปิดบังความคิดของตัวเองและนิ่งสงบได้มากขึ้น จึงไม่มีทางที่เธอจะยอมรับข้อเสนอของประธานฟ่าน ความจริงแล้วเธอกำลังจะทำให้เขาต้องชดใช้อย่างถึงที่สุดต่างหาก
ถังหนิงคุยกับประธานฟ่านเสร็จ ก็ต่อสายหาโม่ถิงและเล่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นให้ฟัง รวมถึงความกดดันจากประธานฟ่าน
โม่ถิงนิ่งไป หลังจากนั่งเงียบในห้องทำงานอยู่ครู่หนึ่ง เขาเอ่ยถามขึ้นอย่างไม่มั่นใจนัก “คุณจะไม่ไปช่ไหมครับ”
“ฉันไปแน่นอนค่ะ แต่ฉันจะเตรียมตัวไปอย่างดี” ถังหนิงตอบ “คุณจะช่วยฉันใช่ไหมคะ…
“ถิง คุณก็รู้ว่าฉันเป็นคนยังไง ฉันไม่ชอบถูกข่มขู่ ถ้าไม่ใช่เพราะฉันไม่มีทางเลือกคงไม่ทำอย่างนี้หรอกค่ะ”
เมื่อโม่ถิงได้ยินดังนั้น ทั้งคู่เข้าใจกันและกันทันที
“ผมเข้าใจครับ ฉันจะกลับไปหาคุณภายในสองชั่วโมงนะครับ”
ถังหนิงรู้ว่าเขาเข้าใจว่าเธอคิดอะไรอยู่ ดังนั้นสิ่งที่สำคัญที่สุดตอนนี้คือการให้ลู่เช่อตามหาหลินเฉี่ยนให้เจอ
…
ในขณะนั้นเอง ดวงอาทิตย์เพิ่งโผล่พ้นขอบฟ้า หลินเฉี่ยนและลูกสาวเจ้าของที่พักใช้เวลาพักหนึ่งก็มาถึงบ้านไร่ที่พวกเธอสามารถพักในยามกลางคืนได้ในที่สุด
ชายสองพี่น้องที่บ้านไร่เป็นกันเองกับหญิงสาวทั้งสองคน “ผมละสงสัยว่าทำไมผู้หญิงสองคนอย่างพวกคุณถึงได้มาลงเอยที่หมู่บ้านไกลปืนเที่ยงแบบนี้กันล่ะครับ”
“ฉันมาตามหาใครบางคนที่นี่น่ะค่ะ…”
“คุณมาที่นี่เพราะเหตุการณ์เครื่องบินตกเหมือนกันเหรอ” พี่ชายคนโตถาม “คุณอาจจะไม่เชื่อผมนะว่าในตอนที่เครื่องบินตก ผมก็อยู่แถวๆ นั้นกับแกะของผม เพราะเสียงดังมาก ฝูงแกะเลยวิ่งหนีไปหมดจนผมต้องไล่ต้อนพวกมันอยู่นานเลยล่ะครับ…”
“มีอะไรอีกไหมคะ”
“ผมยังได้เจอกับนายทหารคนหนึ่งด้วยครับ เขาสูงผอม มีแผลเต็มตัวไปหมด และมุ่งหน้าไปทางช่องเขาน่ะ ตอนนั้นผมกลัวเลยไม่ได้เผยตัวออกไป พวกคุณมาตามหาเขาเหรอครับ”
หลินเฉี่ยนได้ยินดังนั้น ก็โผเข้าไปคว้าเสื้อของอีกฝ่ายเอาไว้ก่อนถาม “คุณเห็นอย่างนั้นจริงๆ เหรอคะ”
“ใช่ครับ ผมเห็นจริงๆ ผมจะโกหกเรื่องอย่างนี้ไปทำไมกันครับ”
“แปลว่าเขายังมีชีวิตอยู่ใช่ไหมคะ”
“ครับ เขาเดินได้อยู่นะครับ แต่แถวๆ ช่องเขานั้นมีสัตว์ป่าอยู่เยอะ ผมเองก็ไม่แน่ใจว่าเขาจะมีชีวิตออกมาได้ไหมเหมือนกัน” เขาเอ่ยอย่างสิ้นหวัง “เราใช้ชีวิตบนภูเขานี้มาทั้งชีวิต ไม่เคยออกไปเห็นโลกภายนอกเลย ผมก็แยกแยะคนดีเลวไม่ออก เลยกลัวที่จะเผยตัวเองต่อหน้าเขาน่ะครับ…”
ทันทีที่หลินเฉี่ยนได้ยินดังนั้น น้ำตาเริ่มไหลรินจากดวงตา เธออยากจะวิ่งตรงดิ่งไปตามหาหลี่จิ่นที่ช่องเขาเสียเดี๋ยวนั้น
อย่างไรก็ตาม ลูกสาวเจ้าของที่พักได้มองสำรวจชายสองพี่น้อง สัญชาตญาณของเธอบอกว่ามีบางอย่างผิดปกติ
“หนิงเซียง…”
“คุณหลิน ฉันรู้ว่าคุณกำลังกังวลใจ แต่ฟ้ากำลังจะมืดแล้ว ไม่มีทางที่เราจะออกไปที่ช่องเขาได้ตอนนี้หรอกนะคะ อีกอย่างก็ไม่มีใครเคยไปลึกเข้าไปในช่องเขาด้วย และฉันก็ไม่แน่ใจว่ามีอะไรข้างในด้วยค่ะ ไม่ว่าคุณจะอยากไปแค่ไหน อย่างน้อยก็ต้องทนเอาไว้ก่อนนะคะ” เธอออกปากเตือนด้วยท่าทีจริงจัง “อย่าเพิ่งทำอะไรบุ่มบ่ามเลยค่ะ”
ได้ยินดังนั้น หลินเฉี่ยนก็พยักหน้ารับ หากเธออยู่เพียงลำพังเธอคงยอมเสี่ยงไปแล้ว หากแต่เธออยู่ที่นี่กับคนอื่นด้วยจึงต้องนึกถึงความปลอดภัยของหญิงสาวข้างกายเช่นกัน
“ถ้าอย่างนั้นก็นอนพักให้เต็มที่ก่อนเถอะค่ะ คุณต้องเก็บแรงเอาไว้สำหรับวันพรุ่งนี้อีก”
หลินเฉี่ยนทำตามที่บอก…
…
เวลาสองทุ่ม
ครบเวลาสองชั่วโมงที่ประธานฟ่านบอกเอาไว้แล้ว ทว่าถังหนิงยังคงรอคำตอบจากโม่ถิง ในที่สุดเสียงโทรศัพท์ของเธอก็ดังขึ้นในนาทีสุดท้าย
“ผมทำตามที่คุณบอกเรียบร้อยแล้วครับ”
“ลูกสาวกับภรรยาของเขาล่ะคะ”
“พวกเธออยู่กับผมครับ” โม่ถิงตอบ
บทสนทนาของทั้งคู่เรียบง่ายและตรงไปตรงมา พูดง่ายๆ คือโม่ถิงตอบโต้กลับโดยการเชิญลูกสาวและภรรยาของประธานฟ่านมายังหนึ่งในโรงแรมในเครือไห่รุ่ย ซึ่งตอนนี้พวกเธอกกำลังดื่มด่ำกับมื้อค่ำแสนอลังการ
จากนั้นถังหนิงจึงต่อสายหาประธานฟ่าน
“ตัดสินใจได้แล้วเหรอครับ คุณจะไปหรือเปล่าล่ะ” ประธานฟ่านถาม
ถังหนิงเหลือบตามองเวลาก่อนออกปากถาม “ประธานฟ่านคะ พอดีตอนนี้ฉันกำลังพาภรรยาและลูกสาวของคุณมาทานอาหารค่ำ หวังว่าคุณจะไม่ถือสานะคะ”
เขานึกไม่ถึงว่าเธอจะตลบหลังเขาด้วยวิธีเดียวกันเช่นนี้
ด้วยไม่คิดว่าถังหนิงจะกล้าทำเรื่องอย่างนี้เขาจึงไม่ทันได้ตั้งตัว!
“ผมคิดว่าประธานถังจะเป็นคนดีจนไม่ลงมาใช้วิธีสกปรกขนาดนี้เสียอีกนะครับ”
“ฉันจัดการสถานการณ์ไปตามสมควรอยู่ตลอดนั่นแหละค่ะ ฉันปฏิบัติกับคนเหมือนอย่างที่ปฏิบัติกับสัตว์ ทีนี้จะบอกฉันได้หรือยังคะว่าหลินเฉี่ยนอยู่ที่ไหน” ถังหนิงถาม “ไหนๆ เราก็ประกาศสงครามกันแล้ว ฉันก็ไม่คิดจะยั้งมืออีกต่อไปแล้วค่ะ ถ้าเรื่องมันจะพังไปมากกว่านี้ งั้นเราก็มาลงพนันไปด้วยกัน ฉันจะทำกับลูกสาวและภรรยาของคุณเหมือนกับที่คุณทำกับหลินเฉี่ยน…”
ประธานฟ่านกัดฟันกรอดๆ อย่างไม่อยากจะเชื่อว่าเกมจะพลิกได้
“ถังหนิง! คุณจะต้องตายอย่างทรมาน…”
“ตั้งแต่ฉันได้มาข้องเกี่ยวกับคุณ ฉันก็ไม่ได้หวังจะเห็นจุดจบที่ดีหรอกค่ะ แต่อย่ามาแข่งเรื่องความโหดเ**้ยมกับฉันเลยค่ะ คุณสู้ฉันไม่ได้หรอก”
แน่นอนว่าประธานฟ่านคงไม่ยอมรามือ จึงโต้กลับ “ถ้าคุณเก่งนัก งั้นก็เอาเลยสิครับ ขังพวกเธอเอาไว้ แล้วมาดูกันว่าคุณจะอธิบายเรื่องนี้กับทางตำรวจยังไง”
“ฉันไม่ต้องอธิบายอะไรหรอกค่ะ ต่อให้ฉันติดคุกฉันก็ยังมีโม่ถิง ยังมีลูกชายอีกสองคน รวมถึงตระกูลถังและตระกูลโม่ด้วย ฉันมั่นใจว่าคนของฉันจะทำลายทุกอย่างที่คุณมีและทำให้คุณเหมือนตายทั้งเป็นได้ค่ะ
“โอ๊ะ แล้วฉันก็มั่นใจว่าคุณรู้ว่าโม่ถิงไม่ชอบที่จะถูกลองดีด้วย ฉันจะให้เวลาคุณคิดสักคืนหนึ่ง พรุ่งนี้จะมาเอาคำตอบแล้วกันนะคะ”
พูดจบ ถังหนิงก็วางสาย ครั้งนี้เธอถือไพ่เหนือกว่าเขาแล้ว
ความจริงแล้วหลังจากที่โม่ถิงพาภรรยาและลูกสาวของประธานฟ่านมาที่โรงแรม เขาได้อธิบายเรื่องทุกอย่างกับพวกเธอแล้ว ที่แท้ภรรยาของประธานฟ่านก็เป็นคนที่มีเหตุผล เพื่อหลีกเลี่ยงไม่ให้สามีของตัวเองทำเรื่องเลวร้ายไปมากกว่านี้ เธอตกลงที่จะอยู่ที่โรงแรม เขาจึงเลี้ยงอาหารและดูแลพวกเธอเป็นอย่างดี อย่างไรเสียเขาก็ไม่ได้เหมารวมพวกเธอเป็นคนประเภทเดียวกับประธานฟ่านอยู่แล้ว
ในท้ายที่สุดทั้งสองฝ่ายจึงตกอยู่ในความกังวลเพราะไม่มีใครยอมเลิกราก่อน
ในขณะเดียวกันลู่เช่อได้ทำการค้นหาต่อไป
…
ระหว่างนั้นหลินเฉี่ยนไม่รู้ว่าถังหนิงและประธานฟ่านได้ประกาศสงครามกันเพราะเธอ
ตอนนี้เธอกำลังเห็นหลี่จิ่นในห้วงความฝัน
ในฝันของเธอเขาดูสูงกว่าที่เคย
“เฉี่ยนเฉี่ยน อย่าตามหาผมเลยครับ…อย่าเลย”
หลินเฉี่ยนสะดุ้งตื่นขึ้น ในขณะที่เธอลุกขึ้นนั่งนัยน์ตาของเธอคลอไปด้วยน้ำตา
โชคดีที่เข้าสู่ช่วงกลางวันแล้ว ไม่อย่างนั้นเธอคงไม่รู้ว่าจะผ่านค่ำคืนที่เหลือไปได้อย่างไร
ไม่นานเธอกับหนิงเซียงก็เก็บข้าวของเตรียมออกเดินทาง ในเวลาเดียวกันถังหนิงก็ได้รับสายจากประธานฟ่าน “ผมจะไม่บอกคุณว่าหลินเฉี่ยนอยู่ที่ไหนหรอกนะ ถ้าคุณอยากจะได้ชีวิตภรรยาและลูกสาวของผมไปก็เอาเลย เอาไปได้เลย”