วิวาห์พลิกรัก ฉบับซุปตาร์ – ตอนที่ 969 ถังหนิง คุณนี่มันเลือดเย็นจริงๆ

“เพื่อแก้แค้นแล้ว คุณถึงกับยอมทิ้งภรรยากับลูกสาวของตัวเองเลยสินะ ประธานฟ่าน คุณนี่มันโหดเ**้ยมจริงๆ …” ถังหนิงเย้ย

 

 

“ผมก็อยากจะเห็นเหมือนกันว่าคุณจะปกป้องหลินเฉี่ยนยังไง!”

 

 

ประธานฟ่านดูภาคภูมิใจราวกับเขาคว้าชัยชนะมาได้แล้ว หากแต่ถังหนิงไม่ได้หัวเสีย เธอกลับตอบเสียงเรียบ “อย่าประเมินความสามารถตัวเองสูงและดูถูกฝีมือคนอื่นไปนักเลยค่ะ คุณคิดว่าฉันจะไม่มีทางสู้คุณได้จริงเหรอคะ”

 

 

“และคุณจะทำอะไรได้ล่ะครับ คุณก็ได้แต่พูดอยู่อย่างนี้นี่”

 

 

ถังหนิงหัวเราะก่อนจะยื่นโทรศัพท์ให้ภรรยาประธานฟ่าน

 

 

ทีแรกเธอลังเลใจ แต่หลังจากเงียบไปชั่วครู่ เธอก็รวบรวมความกล้าพูดออกมาในที่สุด “ฉันไม่คิดว่าคุณจะเห็นชีวิตของฉันกับลูกเป็นผักปลาแบบนี้เลยนะคะ”

 

 

เมื่อเขาได้ยินเสียงภรรยาตัวเองก็ออกอาการไม่สบอารมณ์ขึ้นมาเล็กน้อย แต่เขาไม่ยอมรับความพ่ายแพ้ “นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่เราได้รู้จักกันเสียหน่อย ผมจะปล่อยให้คนอื่นมาจี้จุดอ่อนของผมไม่ได้ ผมมีจุดอ่อนไม่ได้ นับตั้งแต่วันที่คุณแต่งงานกับผม คุณเองก็รู้เรื่องนี้ดี อีกอย่างคุณเองก็ไม่ใช่ภรรยาคนเดียวของผมและผมก็ไม่ได้มีลูกสาวคนเดียวด้วย…”

 

 

“พอได้แล้ว…” ภรรยาประธานฟ่านตวาดลั่น “เดิมทีคุณพยายามตามตื๊อฉันไม่เลิกเพราะชาติตระกูลของฉัน ตอนนี้คุณร่ำรวยและประสบความสำเร็จแล้ว นี่คือสิ่งที่คุณตอบแทนฉันอย่างนั้นเหรอคะ

 

 

“อย่างที่คุณคิดแหละค่ะ ถังหนิงไม่ได้ทำอะไรฉัน เพราะเธอไม่เหมือนคุณ”

 

 

“ฮึ่ม…ว่าแล้วเชียว…” พูดจบประธานฟ่านก็พยายามวางสาย ทว่าภรรยาของเขาพลันว่าบางอย่างที่ไม่คาดฝันจนทำให้ใจของเขาสั่นระรัวด้วยความหวาดกลัว

 

 

“ลูกสาวของคุณกับฉันจะกลับอเมริกา แต่ก่อนจะกลับไป ฉันจะยื่นหลักฐานที่คุณทำผิดกฎหมายทั้งหมดตลอดหลายปีมานี้ให้กับทางตำรวจ”

 

 

ประธานฟ่านถึงกับชะงักอย่างทำอะไรไม่ถูก หากแต่หลังจากตั้งสติได้เขาก็หัวเราะออกมา “คุณจะไปมีหลักฐานได้ยังไง ผมไม่เคยทำให้คุณรู้สักหน่อย…”

 

 

“ถ้าคุณไม่เชื่อฉัน งั้นฉันถามหน่อยค่ะว่าผู้ช่วยคนสุดของคุณตายได้ยังไง”

 

 

เมื่อเขาได้ยินดังนั้นก็นิ่งค้างไปด้วยความหวาดกลัว

 

 

“คุณคิดเหรอคะว่าตลอดหลายปีมานี้ ฉันจะไม่ได้เตรียมทางหนีทีไล่เอาไว้ คุณมันคนสารเลวและฉันจะทำให้คุณต้องเสียใจไปจนตาย”

 

 

เธอพูดจบก็ส่งโทรศัพท์คืนให้ถังหนิง

 

 

ถังหนิงเอ่ยถามประธานฟ่านพร้อมโทรศัพท์ในมือ “คุณคิดว่ายังไงล่ะคะ ตอนนี้จะบอกฉันได้หรือยังว่าหลินเฉี่ยนอยู่ที่ไหน”

 

 

ปลายสายโกรธเกรี้ยวจนแทบคว่ำโต๊ะตรงหน้าทันที “ถังหนิงถ้าคุณกล้าทำอะไรไปมากกว่านี้ ผมจะไม่ปล่อยให้คุณรอดไปแน่”

 

 

“ฉันไม่สนใจเรื่องเลวทรามที่คุณเคยทำในอดีตหรอกนะคะ ฉันแค่อยากรู้ว่าหลินเฉี่ยนอยู่ไหนแค่นั้น ส่วนภรรยาและลูกสาวของคุณ ฉันจะช่วยส่งพวกเขากลับอเมริกาให้แล้วกันนะคะ”

 

 

“นังนั่นคงเข้าไปในช่องเขาแล้วล่ะ คุณก็ไปตามหามันเองแล้วกัน” ประธานฟ่านว่าขึ้นอย่างเกรี้ยวกราด “ถังหนิง…คุณนี่มันเลือดเย็นจริงๆ”

 

 

สิ้นคำประธานฟ่านก็กดวางสาย

 

 

ถังหนิงวางโทรศัพท์ลงแล้วหันไปมองหน้าภรรยาและลูกสาวของเขา “คุณมั่นใจว่าจะไม่เป็นไรถ้าฉันส่งคุณไปอเมริกาเหรอคะ”

 

 

“ทันทีที่ฉันเหยียบอเมริกา ฉันก็จะอยู่ในความคุ้มครองของครอบครัวของฉันค่ะ แล้วเขาก็คงทำร้ายฉันไม่ได้อีก เขาคงไม่มีอารมณ์มาก่อเรื่องให้คุณเหมือนกันเพราะต่อไปนี้เขาต้องสนใจกับการหาทางจัดการกับฉันน่ะค่ะ”

 

 

“โอเคค่ะ” ถังหนิงมองแม่ลูกขณะที่นึกถึงเรื่องร้ายกาจที่ประธานฟ่านเคยทำ บางทีทุกอย่างอาจเพียงพอที่จะส่งเขาไปยังขุมนรกลึกได้

 

 

เขาคิดว่าตัวเองยังจะมีปัญญามาสร้างปัญหาได้จริงหรือ

 

 

จากคำพูดของประธานฟ่าน ถังหนิงคาดเดาได้ว่าเขาคงล่อลวงเธอไปยังจุดที่อันตรายแต่ยังไม่ได้ทำอะไรเธอจริงๆ ถึงกระนั้นแค่พาผู้หญิงท้องไปในที่ที่อันตรายขนาดนั้นก็เพียงพอที่จะทำให้ถึงแก่ชีวิตได้แล้ว

 

 

ถังหนิงจึงต่อสายหาลู่เช่อทันที ครั้งนี้อีกฝ่ายพอจะรู้เส้นทางที่หลินเฉี่ยนมุ่งหน้าไปหลังจากตามหามาทั้งคืน อย่างไรก็ตาม คนท้องถิ่นบอกเขาเป็นเสียงเดียวกันว่าแทบไม่มีคนที่รอดออกมาจากช่องเขาได้ และไม่ค่อยมีคนเข้าไปที่นั่นเพราะอันตรายไม่น้อย

 

 

ลู่เช่อติดต่อตำรวจท้องที่และเริ่มการค้นหาด้วยความหวังว่าพวกเขาจะไม่สายเกินไป

 

 

 

 

ในขณะที่หลินเฉี่ยนกับหนิงเซียงออกเดินไปด้วยกัน หนิงเซียงยังคงรู้สึกว่ามีบางอย่างผิดปกติ

 

 

“คุณหลิน ไม่ใช่ว่าฉันอยากมองโลกในแง่ร้ายหรอกนะคะ แต่มีบางอย่างที่ฉันอยากบอกคุณสักหน่อยน่ะค่ะ”

 

 

หลินเฉี่ยนมองหนิงเซียงและพยักหน้าให้ “มีอะไรก็บอกฉันมาได้เลยค่ะ”

 

 

“ผู้ชายสองพี่น้องเมื่อคืนอ้างว่าตัวเองเป็นชาวไร่ แต่ฉันไม่ได้กลิ่นแกะจากตัวพวกเขาเลย อีกอย่างผิวพรรณของพวกเขาก็เนียนนุ่มเกินกว่าจะเป็นชาวไร่ได้ ยิ่งไปกว่านั้นพี่คนโตยังอ้างว่าเขาเจอนายทหารวิ่งลึกเข้าไปในช่องเขา แต่มันไม่มีเหตุผลเลยที่คนที่กำลังเอาตัวรอดจะวิ่งเข้าไปในป่า คนทั่วไปอาจจะไปผิดทาง แต่เขาเป็นทหารแล้วยังเป็นทหารอากาศด้วย น่าจะรู้ทิศทางเป็นอย่างดีและคุ้นเคยกับสภาพภูมิศาสตร์แถบนี้นะคะ”

 

 

“คุณกำลังจะบอกว่าพวกเขามีเจตนาแอบแฝงเหรอคะ” หลินเฉี่ยนแปลคำพูดของอีกฝ่าย “จริงๆ แล้วฉันเองก็คิดอย่างนั้นเหมือนกันหลังจากนอนคิดมาทั้งคืน แต่ฉันก็ยังอยากจะเชื่อว่ายังมีความหวังรอฉันอยู่ ฉันอยากจะดูว่าสองพี่น้องจะตามเรามาไหม แล้วก็ต้องการหลอกตัวเองเหมือนกันน่ะค่ะ”

 

 

“อย่างน้อยเราก็ยังหยุดทันนะคะ”

 

 

“อย่างนั้นกลับกันเถอะค่ะ”

 

 

“หือ” หนิงเซียงคิดว่าเธอได้ยินอะไรผิดไปหรือเปล่า

 

 

“คุณได้ยินถูกแล้วค่ะ ฉันบอกให้เรากลับกันเถอะ สามีฉันเป็นคนดีที่ยินดีสละชีวิตของเขาเพื่อประเทศชาติ ถ้าฉันยังดื้อแพ่งจะไปต่อ จนเกิดทำให้คุณบาดเจ็บขึ้นมา เขาคงจะไม่ดีใจที่เห็นอย่างนั้น ต่อให้ฉันตามหาเขาเจอเขาก็คงไม่ให้อภัยฉันหรอกค่ะ

 

 

“อีกอย่างถูกของคุณค่ะ เขาไม่ใช่คนที่จะบุกเข้าไปลึกในช่องเขา เรากลับไปตามหาเบาะแสอื่นกันเถอะค่ะ”

 

 

“ดูเหมือนคุณจะยังมีสติอยู่นะคะเนี่ย” หนิงเซียงหัวเราะ “ฉันคิดว่า…”

 

 

“ฉันจะไม่หยุดตามหาหรอกนะคะเพราะฉันยังรู้สึกว่าเขายังมีชีวิตอยู่”

 

 

“ถ้าอย่างนั้น คุณคิดจะทำยังไงกับพี่น้องสองคนนั้นล่ะ”

 

 

“กลับไปที่หมู่บ้านก่อนแล้วเราค่อยวางแผนกันเถอะค่ะ” หลินเฉี่ยนตอบ

 

 

“โอเคค่ะ…”

 

 

ชายสองพี่น้องคิดว่าตัวเองทำสำเร็จแล้ว จึงรีบรายงานผลกับประธานฟ่าน อย่างไรก็ตามพวกเขากลับไม่ได้รางวัลจากอีกฝ่ายแต่อย่างใด ด้วยเจ้าตัวกำลังเคร่งเครียดกับการรั้งให้ภรรยาและลูกสาวของตัวเองอยู่ที่ปักกิ่งต่อ

 

 

เมื่อนึกอะไรไม่ออก ประธานฟ่านจึงตัดสินใจโทรหาปู่ของเขาในท้ายที่สุด ปลายสายได้แต่ตวาดกลับมาหลังได้ยินว่าเกิดอะไรขึ้น “ไอ้โง่! แกสูญเสียครั้งใหญ่เพราะเอาแต่สนใจกับเรื่องเล็กๆ น้อยๆ แล้วดูสิว่าครั้งนี้แกจะถอยออกมายังไง!”

 

 

“ปู่ครับ! ปู่ต้องช่วยผมนะ! ไม่อย่างนั้นผมแย่แน่!”

 

 

“แกจะไปต่อกรกับอำนาจของตระกูลโม่กับตระกูลถังในปักกิ่งได้ยังไงกัน ถ้าแกยังทำเรื่องนี้เป็นเรื่องใหญ่โต แกนั่นแหละที่จะเป็นฝ่ายทุกข์ทรมานในท้ายที่สุด พอได้แล้ว!”

 

 

“แต่ผมไม่แน่ใจว่าถังหนิงรู้อะไรบ้าง ผมสงสัยว่าถ้า…”

 

 

“ไอ้เวรนี่! อย่าแม้แต่คิดเรื่องนี้เชียว ไม่รู้เหรอว่าถังหนิงมีอำนวจในปักกิ่งขนาดไหน กล้าดียังไงไปแหย็มกับเธอ ถ้าแค่เรื่องเล็กๆ ก็อาจจะไม่เป็นไร แต่อย่าทำเรื่องให้ใหญ่โตไปมากกว่านี้! ไม่อย่างนั้นโม่ถิงได้ถลกหนังแกทั้งเป็นแน่

 

 

“ปล่อยให้เรื่องในวงการบันเทิงจบแค่ในวงการบันเทิงซะ อย่าให้มันลุกลามไปที่อื่นที่ควบคุมไม่ได้ อีกอย่างอย่าให้ตำรวจเข้ามามีส่วนเกี่ยวข้องเด็ดขาด แกคิดว่าตัวเองจะรอดไปได้สักที่น้ำกัน”

วิวาห์พลิกรัก ฉบับซุปตาร์

วิวาห์พลิกรัก ฉบับซุปตาร์

ถังหนิง ผู้กำลังจะก้าวขึ้นไปเป็นนางแบบแนวหน้า แต่เพราะรักจึงสละสิ้นทุกอย่าง ทว่าคืนก่อนวันวิวาห์ที่เธอกำลังจะได้ครองรักดั่งหวังนั่นเอง คู่หมั้นของเธอกลับหนีออกไปกับหญิงอื่น ด้วยความเจ็บช้ำน้ำใจ เธอจึงเดินจ้ำไปหาผู้ชายคนหนึ่งที่ยืนอยู่หน้าสำนักงานเขต “ประธานโม่คะ ในเมื่อเจ้าสาวของคุณยังไม่มาและเจ้าบ่าวของฉันก็หนีไปแล้วอย่างนี้… ฉันว่า… เรามาแต่งงานกันเสียเลยดีไหมคะ” … ก่อนแต่งงานเธอเอ่ยว่า “แม้เราจะนอนร่วมเตียงกัน แต่จะไม่มีอะไรเกิดขึ้นระหว่างเรา” หลังแต่งงานเขาเอ่ยว่า “ถ้าไม่ลองแล้วจะรู้หรือ”

Options

not work with dark mode
Reset