วิวาห์พลิกรัก ฉบับซุปตาร์ – ตอนที่ 984 อย่าปล่อยไอ้สารเลวนั่นรอดไปได้

“เร็วเข้า! ใครก็ได้มาช่วยพยุงประธานฟ่านที” หลินเหว่ยเซินตะโกนเรียกเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย “ส่งตัวเขาไปถึงบ้านอย่างปลอดภัยด้วย”

 

 

ประธานฟ่านได้สติขึ้นมาหลังจากสะดุ้งกับน้ำเย็นเฉียบก่อนลุกขึ้นยืนโดยมีเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยคอยพยุงเอาไว้ เขาชี้ไปทางซย่าหันโม่ทั้งร่างที่สั่นเทา “เธอ… เธอต้องชดใช้ในสิ่งที่ทำลงไปวันนี้แน่!”

 

 

ซย่าหันโม่ไม่ได้สะทกสะท้าน “แล้วฉันจะรอนะคะ”

 

 

ถังหนิงมองทั้งสองฝ่ายก่อนส่ายหน้า หลังจากประธานฟ่านถูกส่งตัวออกไป เธอก็หันมาพูดกับซย่าหันโม่ “นี่เป็นปัญหาของฉัน ไม่อยากให้เธอเข้ามาเกี่ยวข้องด้วย เธอคิดว่าตัวเองเป็นใครกัน”

 

 

ซย่าหันโม่ถึงกับอึ้งไป

 

 

“เธอไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรกับจู้ซิงมีเดียอีกแล้ว เลิกเข้ามายุ่งเรื่องของฉันกับหลินเฉี่ยนสักที

 

 

“ไอ้สารเลวนั่นไม่ใช่คนที่เธอจะมีปัญญารับมือได้หรอกนะ จำเอาไว้ว่าถ้าเจอเขาอีก อยู่ให้ห่างจากเขาเท่าที่จะทำได้ซะ… มันไม่ใช่เรื่องของเธอ

 

 

“ดูเหมือนว่าเธอจะสะใจที่ได้แก้แค้นคืนแล้วนะ ถ้างั้นก็ไม่มีความจำเป็นที่เธอจะนั่งข้างฉันอีกแล้วล่ะ”

 

 

ซย่าหันโม่ได้แต่เงียบขณะที่หันกลับไปนั่งที่เดิม

 

 

เธอรู้ว่าไม่มีทางกลับมาเป็นเหมือนเดิม ไม่ว่าเธอจะพูดหรือทำอะไร เธอก็ถูกไล่ออกจากจู้ซิงมีเดียแล้ว

 

 

“ถิงคะ คุณต้องจับตาดูประธานฟ่านเอาไว้เผื่อว่าเขาจะหาทางแก้แค้นซย่าหันโม่นะคะ”

 

 

โม่ถิงพยักหน้าขณะที่ยืนด้านหลังถังหนิง “ไม่ต้องห่วงครับ ผมจะบอกให้ลู่เช่อจัดการให้ทันทีที่เรากลับถึงบ้าน”

 

 

“แม้ว่าเธอจะไม่ได้เป็นคนของจู้ซิงมีเดียแล้ว ฉันเองก็ไม่ได้อยากให้เกิดเรื่องขึ้นกับเธอน่ะค่ะ”

 

 

โม่ถิงเข้าใจว่าถังหนิงคิดอะไรอยู่ ถึงอย่างไรพวกเขาก็แต่งงานกันมานาน เห็นได้ชัดว่าเธอไม่อยากให้

 

 

ซย่าหันโม่มาติดร่างแหด้วย

 

 

“วันนี้ฉันแค่ทำให้เขาอับอาย แต่ดูเหมือนว่าเขาจะยังไม่ยอมรามือนะคะ”

 

 

โม่ถิงไม่ได้พูดสิ่งใดเกี่ยวกับเรื่องนี้ออกมา เพราะเขาได้แอบวางแผนเอาไว้เรียบร้อยแล้ว หากแต่เรื่องบางอย่างย่อมต้องใช้เวลา

 

 

ไม่นานงานแต่งงานก็กลับมาเป็นปกติสุข หลังจากมื้อเที่ยง ถึงเวลาสำหรับงานเลี้ยงต้อนรับ

 

 

ด้วยตอนนี้เธอท้องอยู่ ไม่อาจเข้าร่วมในการเต้นได้อยู่แล้ว จึงได้แต่นั่งอยู่ข้างๆ โม่ถิง

 

 

เพราะเป็นการรวมตัวของศิลปิน แขกหลายคนจึงสามารถร้องเพลงและเต้นได้

 

 

โดยเฉพาะภรรยาของหลินเหว่ยเซินที่มีความสามารถในการเต้นหลายแบบ อย่างที่เขาว่าไว้ก่อนหน้านี้ว่าเธอมีฝีมือไม่น้อย

 

 

“คุณวางแผนจะให้ผู้หญิงคนนี้เซ็นสัญญาเข้าจู้ซิงมีเดียจริงๆ เหรอครับ”

 

 

“คุณก็ได้ยินไม่ใช่เหรอคะ หลินเหว่ยเซินมาขอร้องฉันด้วยตัวเอง ฉันจะปฏิเสธเขาได้ยังไงล่ะ” ถังหนิงตอบ “คุณเองก็เห็นการแสดงที่น่าประทับใจของเธอเมื่อกี้แล้วนี่คะ พวกเขาตั้งใจทำให้ฉันเห็นว่าสามารถปั้นเธอให้โด่งดังได้”

 

 

“ผมเข้าใจว่าคุณต้องตอบแทนความช่วยเหลือของเขานะครับ แต่ผมก็รู้ว่าคุณไม่ชอบผู้หญิงคนนั้นเหมือนกัน”

 

 

“คุณโม่ บางทีคุณอาจเป็นพยาธิในท้องฉันก็ได้นะคะเนี่ย” ถังหนิงหัวเราะคิกคัก “คุณรู้ทุกอย่างที่ฉันคิดได้ยังไงกัน”

 

 

โม่ถิงบีบปลายจมูกถังหนิง บางอย่างก็เห็นกันอยู่ชัดๆ

 

 

ในตอนนี้เอง ถังหนิงมองสำรวจไปรอบตัว พบว่าซย่าหันโม่หายตัวไปแล้ว เดิมทีเธอนึกว่าอีกฝ่ายกลับไปเพราะติดงาน แต่เธอไม่รู้ว่าซย่าหันโม่ได้ถูกล่อลวงไปที่อื่นเสียแล้ว

 

 

บรรยากาศด้านนอกงานแต่งงานชื่นมื่นท่ามกลางเสียงเพลงและการเต้นรำ ทว่าในขณะที่ทุกคนกำลังมีความสุขและสนุกสนาน ความน่าขนลุกพลันแผ่ซ่านมาจากที่ไหนสักแห่ง

 

 

เสียงแก้วแตกลั่นดังขึ้นหลังจากนั้นพร้อมกับคนคนหนึ่งที่ตกลงมาบนพื้นหญ้า ใครบางคนรู้ว่าเป็นใครทันที

 

 

“นั่นซย่าหันโม่นี่… ซย่าหันโม่!”

 

 

เมื่อได้ยินชื่อซย่าหันโม่ ถังหนิงก็ลุกขึ้นยืนโดยมีโม่ถิงคอยประคองและพาเธอเดินฝ่าฝูงชน ภาพของซย่าหันโม่ค่อยๆ ปรากฏขึ้นสู่สายตา เธอนอนอยู่บนพื้นพร้อมเลือดที่ไหลทะลักออกมาทางปากและจมูก ถังหนิงทรุดลงข้างๆ เธอในทันใด

 

 

“หันโม่…”

 

 

ซย่าหันโม่ตัวสั่นระริกพลางชี้นิ้วไปด้านบน “ชั้นห้า…ชั้นห้า…”

 

 

ถังหนิงเข้าใจว่าเธอคงตกลงมาจากชั้นห้า

 

 

โม่ถิงที่อยู่ด้านหลังเธอได้โทรเรียกตำรวจและรถพยาบาล

 

 

“ถังหนิง…ประธานฟ่าน…อยู่บนชั้นห้าเขา…ผลัก…ฉัน!”

 

 

ประธานฟ่านไม่ได้ถูกส่งตัวกลับบ้านไปแล้วหรือ อีกอย่างซย่าหันโม่ขึ้นไปชั้นห้าของโรงแรมตั้งแต่ตอนไหนกัน

 

 

“หนิง…ทุกคนมีจุดจบของตัวเอง ฉันว่า…นี่อาจเป็นจุดจบที่ดีที่สุดของฉัน..” หลังจากพูดเช่นนี้ ซย่าหันโม่ก็จับมือถังหนิงไว้แน่น “คุณจะให้อภัยฉันไหม. คุณ…จะ…ยกโทษ…”

 

 

“เลิกพูดได้แล้ว ถ้าเธอมีชีวิตรอดฉันจะอภัยให้เธอ” ถังหนิงว่าขึ้นพลางปิดปากซย่าหันโม่ไว้ “แค่เธอรอดตายก็พอ”

 

 

ซย่าหันโม่จมอยู่ในกองเลือดพร้อมสายตาที่สบมองถังหนิง เมื่อได้ยินคำตอบของอีกฝ่าย เธอก็หลุดหัวเราะออกมา

 

 

หากแต่ถังหนิงกลับสะเทือนใจอย่างรุนแรง

 

 

เมื่อซย่าหันโม่หมดสติไป ถังหนิงกำหมัดแน่น เธอปรานีกับประธานฟ่านเกินไป เขาเลยได้ใจจนถึงขั้นทำร้ายคนที่เธอรักครั้งแล้วครั้งเล่า

 

 

โม่ถิงรู้ว่าถังหนิงโกรธ เขากุมมือเธอเอาไว้ “ไม่ต้องห่วงนะครับ ผมวางแผนทุกอย่างไว้แล้ว”

 

 

“ไม่ค่ะ ฉันต้องการทำให้เขาใช้ชีวิตเหมือนตายทั้งเป็น”

 

 

ไม่นานตำรวจก็เดินทางมาถึงที่เกิดเหตุ ตามมาด้วยรถพยาบาล ในขณะที่เจ้าหน้าที่ตรวจสอบที่เกิดเหตุ ซย่าหันโม่ก็ถูกส่งตัวไปที่โรงพยาบาล

 

 

ถังหนิงและโม่ถิงเดินทางไปยังโรงพยาบาลเช่นกัน พลันรู้สึกในตอนนั้นว่าความขัดแย้งทุกอย่างก่อนหน้านี้ได้เลือนหายไป

 

 

ซย่าหันโม่ผิด แล้วถังหนิงล่ะ

 

 

ถังหนิงเริ่มโทษตัวเอง ยิ่งเมื่อมาถึงโรงพยาบาลและเห็นคำว่า ฉุกเฉิน เขียนไว้บนห้องรักษาพยาบาล เธอได้แต่นั่งรออยู่ด้านนอกด้วยท่าทีนิ่งสงบจนน่าหวั่นใจ

 

 

อย่างไรก็ตามไม่นานโม่ถิงก็สังเกตเห็นรอยเลือดที่ชายกระโปรงของเธอ…

 

 

เห็นได้ชัดว่าไม่ใช่เลือดของซย่าหันโม่เพราะมันไหลมาจากทางต้นขาของเธอ

 

 

“หมอครับ…หมอ!”

 

 

ด้วยเหตุนี้ถังหนิงจึงถูกส่งตัวเข้ารักษาที่แผนกสูตินรีเวชก่อนที่เจ้าหน้าที่ทางการแพทย์จะรีบมาดูอาการของเธอและลูกในท้อง หมอส่ายหน้าในขณะตรวจดูอาการของถังหนิง “ผู้หญิงท้องควรรักษาอารมณ์ให้คงที่เอาไว้ค่ะ อารมณ์ที่แปรปรวนแบบนี้จะส่งผลอันตรายต่อลูกในท้องได้

 

 

“คุณแม่และเด็กควรพักผ่อนบนเตียงอย่างน้อยสักครึ่งเดือนนะคะ แล้วก็จะให้อารมณ์ของคุณแม่แปรปรวนมากไม่ได้ด้วยค่ะ”

 

 

ถังหนิงฟื้นขึ้นมาและได้ยินคำสั่งของหมอ เธอหันไปมองโม่ถิงและถามทันที “ซย่าหันโม่เป็นยังไงบ้างคะ”

 

 

“เธอพ้นขีดอันตรายแล้วครับ” โม่ถิงตอบพลางนั่งลงข้างเตียงของเธอ “ต่อไปนี้คุณไม่ต้องห่วงอะไรแล้วนะ ให้ผมรับผิดชอบเรื่องที่เหลือเอง”

 

 

“ถิงคะ…”

 

 

“ฟังผมนะ ไม่อย่างนั้นผมจะรู้สึกผิดที่ทำให้คุณเป็นอย่างนี้มากนะครับ”

 

 

ถังหนิงเข้าใจว่าเขาจริงจังขนาดไหน จึงพยักหน้ารับ

 

 

“นับจากนี้ไป กลับบ้านแล้วพักผ่อนซะนะครับ ผมจะจัดการเรื่องทุกอย่างเอง”

 

 

เธอดูออกว่าประธานโม่กำลังโกรธ…

 

 

อันที่จริงเขากำลังโกรธอย่างถึงที่สุด…

 

 

“ถิงคะ…อย่าปล่อยไอ้สารเลวนั่นรอดไปได้นะคะ” ถังหนิงขอร้องขณะกุมมือเขาไว้

 

 

“ตามใจคุณเลยครับ” โม่ถิงตอบรับ

วิวาห์พลิกรัก ฉบับซุปตาร์

วิวาห์พลิกรัก ฉบับซุปตาร์

ถังหนิง ผู้กำลังจะก้าวขึ้นไปเป็นนางแบบแนวหน้า แต่เพราะรักจึงสละสิ้นทุกอย่าง ทว่าคืนก่อนวันวิวาห์ที่เธอกำลังจะได้ครองรักดั่งหวังนั่นเอง คู่หมั้นของเธอกลับหนีออกไปกับหญิงอื่น ด้วยความเจ็บช้ำน้ำใจ เธอจึงเดินจ้ำไปหาผู้ชายคนหนึ่งที่ยืนอยู่หน้าสำนักงานเขต “ประธานโม่คะ ในเมื่อเจ้าสาวของคุณยังไม่มาและเจ้าบ่าวของฉันก็หนีไปแล้วอย่างนี้… ฉันว่า… เรามาแต่งงานกันเสียเลยดีไหมคะ” … ก่อนแต่งงานเธอเอ่ยว่า “แม้เราจะนอนร่วมเตียงกัน แต่จะไม่มีอะไรเกิดขึ้นระหว่างเรา” หลังแต่งงานเขาเอ่ยว่า “ถ้าไม่ลองแล้วจะรู้หรือ”

Options

not work with dark mode
Reset