วิวาห์พลิกรัก ฉบับซุปตาร์ – ตอนที่ 1025 เธอแค่ต้องการแก้แค้นให้หลงเจี่ย

“หันซิวเช่อคนนั้นบ้าไปแล้ว” หลินเฉี่ยนเอ่ยหลังจากหลงเจี่ยจากไป “ฉันละอายใจกับความคิดข้างเดียวของเขาจริงๆ ”

“ฉันทำอะไรกับเรื่องนั้นไม่ได้หรอก เจอคนอย่างนั้นเข้าไปฉันจะทำอะไรได้ล่ะ” ถังหนิงถาม “เขามั่นใจว่าวิธีของเขาจะทำให้จู้ซิงมีเดียตกต่ำในตอนที่ฉันไม่อยู่ ความจริงที่เกิดขึ้นก็พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่าฉันคิดถูกที่ไม่สนใจเขา ฉันก็แค่รู้สึกแย่ที่หลงเจี่ยต้องถูกจ้องทำร้ายมานานน่ะ”

“ถ้าอย่างนั้นต่อไปคุณวางแผนว่าจะทำยังไงล่ะคะ”

“หลงเจี่ยทุ่มเทกับการฝึกเอสเอเจมาก แล้วสุดท้ายดูสิ่งที่เกิดขึ้นสิ เพื่อผลประโยชน์ของตัวเอง ทั้งสี่คนเอาแต่มองหลงเจี่ยถูกทำร้าย ในสายตาของฉันพวกเขาไม่มีความเป็นมนุษย์เลยสักนิด ดังนั้น…ก่อนที่ฉันจะเล่นงานกับหันซิวเช่อ ฉันต้องจัดการกับพวกเขาก่อน

“วงการบันเทิงไม่เคยไร้คนดี

“รวมถึงพวกคนไม่รู้สำนึกด้วย!

“ในเมื่อหันซิวเช่อใช้คนพวกนี้ในการข่มขู่หลงเจี่ย อย่างนั้น…ฉันก็ต้องใช้พวกเขาเพื่อแสดงให้เขาเห็นว่าเขาคิดผิดแค่ไหน”

หลังจากคลอดเหยียนเอ๋อร์ ร่างกายของถังหนิงกลับมาแข็งแรงเหมือนเดิม อีกทั้งยังดูมีเรี่ยวแรงมากขึ้นกว่าแต่ก่อนด้วยซ้ำ

“เธอยังท้องอยู่ อย่าเข้ามายุ่งเลยดีกว่านะ… ถ้ามีอะไรเกิดขึ้นกับเธอ คุณป้าหลี่คงจะบ่นฉันแน่ๆ ”

หลินเฉี่ยนพยักหน้าให้ พอเป็นเรื่องของหันซิวเช่อและวง ขี้ขลาด  เธอรู้ว่าการเข้าไปเกี่ยวข้องกับพวกเขาคงไม่ได้มีผลดีกับตัวเธอแต่อย่างใด

“ถ้าอย่างนั้นก็ระวังตัวด้วยนะคะให้บอดีการ์ดตามประกบคุณตลอดเวลาเราจะได้ไม่ต้องเป็นห่วง…” หลินเฉี่ยนออกปากเตือน

“เธอคิดว่าฉันกำลังจะทำอะไรล่ะ” ถังหนิงหัวเราะ “ดูเหมือนว่าฉันจะต้องแวะไปเมือง Z สักหน่อยแล้วล่ะ”

เธอจะไปที่นั่นทำไมกันน่ะหรือ แน่นอนว่าเธอกำลังจะไปกำจัดวงนั้นให้หายไปกับตา

กล้าดีอย่างไรมากดขี่ข่มเหงหลงเจี่ย คิดว่าจู้ซิงมีเดียไม่มีคนหนุนหลังอยู่อย่างนั้นหรือ

ด้วยเส้นสายที่เขามี หันซิวเช่อรู้อย่างรวดเร็วว่าความแอบพบกันของเขากับหม่าเวยเวยถูกเปิดโปงแล้ว ทว่า…เขารู้ว่ามันจะเกิดขึ้นไม่ช้าก็เร็วอยู่แล้ว เขาจึงไม่ได้สนใจว่าจู้ซิงมีเดียจะรู้เรื่องนี้ อย่างไรเสียมันก็ไม่ได้เป็นของหลงเจี่ยอีกแล้ว

หากแต่เขานึกไม่ถึงว่าถังหนิงจะกลับมาปักกิ่งแล้ว!

และไม่ได้คาดคิดว่าเธอจะมาถึงเมือง Z ด้วยตัวเอง!

หันซิวเช่อพยายามติดต่อหม่าเวยเวย แต่อีกฝ่ายถูกขังเอาไว้และโทรศัพท์ของเจ้าตัวก็แบตเตอรี่หมดมานานแล้ว

เขาจึงตัดสินว่าว่าหลังจากเอสเอเจถ่ายทำเสร็จจะพาพวกเขากลับปักกิ่งไปกับเขาทันที อย่างไร…เขาเองก็รับปากกับหลงเจี่ยเอาไว้แล้วว่าจะไม่ทำรุนแรงกับจู้ซิงมีเดีย

แต่ในเวลานี้ถังหนิงได้มาถึงกองถ่ายเรียบร้อยแล้ว

และเธอได้นัดพบกับผู้จัดแล้วเสียด้วย

แม้ว่าผู้จัดจะอึ้งกับการปรากฏตัวอย่างกะทันหันของถังหนิง เธอก็ยังคงเป็นถังหนิง…

ไม่ว่าข่าวลือจะมีมากมายเพียงไหน ตราบใดที่เธอยังเป็นภรรยาของโม่ถิง เธอก็ยังน่าเกรงกลัวอยู่เสมอ ยิ่งเมื่อเธอเข้ามาหาด้วยท่าทีแข็งกร้าวตั้งแต่แรก

หากแต่ถังหนิงไม่ได้บอกให้ใครรู้แผนการที่เธอวางไว้ เธอทำเพียงไปพบกับผู้จัดและหัวหน้าผู้อำนวยการด้วยตัวเธอเอง

เมื่อทั้งสองคนเห็นถังหนิง สายตาก็แทบถลนออกมาจากเบ้า อย่างไรเสียก็มีข่าวลือว่าเธอเป็น คนใช้ อยู่ที่อเมริกา ทำไมอยู่ๆ เธอถึงได้มาปรากฏตัวอยู่ที่เมือง Z ได้

“ฉันต้องขอโทษประธานหวังกับผู้กำกับเฟิ้งด้วยนะคะ ที่ฉันมาขอพบคุณโดยที่ไม่ได้บอกล่วงหน้าพอดีฉันมีบางอย่างจะมาเตือนพวกคุณน่ะค่ะ”

“คุณถัง…พูดมาได้เลยครับ”

“เป็นปัญหาที่เกิดขึ้นกับวงที่หลงเจี่ยพามาน่ะค่ะ เพื่อไม่ให้คุณสูญเสียไปมากกว่านี้ ฉันจะชดใช้ค่าเสียหายในการยกเลิกสัญญาของพวกเขา แต่ฉันก็หวังว่าคุณจะไล่พวกเขาออกไปจากรายการด้วยตัวเองนะคะ”

            “คุณถัง ผมไม่ค่อยเข้าใจเลยครับ…” ในเมื่อหลงเจี่ยพาพวกเขามาและพวกเขาเองก็เป็นศิลปินในสังกัดจู้ซิงมีเดีย ทำไมอยู่ๆ ถังหนิงต้องขอร้องให้ทำอย่างนั้นด้วย

“ขอฉันพูดตามตรงกับคุณเลยนะคะ ทั้งสี่คนนั้นถูกจับได้ว่าเสพยาค่ะ! คุณอยากจะจัดการกับเรื่องนี้อย่างโจ่งแจ้งหรือให้พวกเขาออกไปเงียบๆ ล่ะค่ะ” ถังหนิงถาม “คุณอยากจะรักษาชื่อเสียงดีๆ เอาไว้ไหมล่ะค่ะ หรืออยากโดนดึงให้ตกต่ำไปกับพวกเขากันล่ะ”

“แต่พวกเขาก็เป็นศิลปินของจู้ซิงมีเดียไม่ใช่เหรอครับ”

มาถึงจุดนี้ ถังหนิงส่ายหน้าและเริ่มอธิบายทุกอย่างที่เกิดขึ้นกับหลงเจี่ย โดยเฉพาะแผนการของหันซิวเช่อ “ก่อนหน้านี้ฉันอยู่ที่ต่างประเทศเลยไม่สามารถป้องกันปัญหาอย่างนี้ไว้ได้น่ะค่ะ ฉันเลยมาที่นี่เพื่อแสดงความจริงใจ หวังว่าฉันจะแก้ไขเรื่องนี้ได้ก่อนที่จะสายเกินไปนะคะ”

หลังจากทั้งสองได้ฟังคำอธิบายของถังหนิง พวกเขาถึงกับอึ้งจนเหงื่อแตกพลั่ก แม้ว่าจะคุ้นเคยกับแผนการในวงการแล้ว พอได้มาเจอกับตัวเองและเกือบถูกลากให้พังไปด้วย มันก็เป็นเรื่องธรรมดาที่จะทำให้เขากลัวขึ้นมา

“ในเมื่อเรื่องซับซ้อนขนาดนี้ แน่นอนว่าเราขอไม่ยุ่งเกี่ยวด้วยแล้วกันครับ เรื่องที่คุณถังขอเอาไว้ไม่ใช่เรื่องยากเลย เราแค่ต้องตัดฉากของพวกเขาออก พวกเขาเป็นศิลปินหน้าใหม่ในวงการคงไม่ได้ออกอากาศมากอยู่แล้ว” ผู้กำกับเอ่ย “โชคดีที่คุณเป็นคนดีพอที่จะมาเตือนเรานะครับ…ไม่อย่างนั้นต้องเกิดเรื่องใหญ่เกินกว่าที่เราจะรับมือไหวแน่”

“เราเองต่างก็พยายามทำให้วงการบันเทิงน่าอยู่ขึ้น การช่วยเหลือกันคงเป็นการดีที่สุดอยู่แล้วล่ะค่ะ” ถังหนิงตอบพร้อมรอยยิ้ม

“อย่างนั้นถ้ามีอะไรให้เราช่วยก็บอกได้เลยนะครับ เราจะให้ความร่วมมืออย่างเต็มที่เลย”

ถังหนิงมองทั้งสองคนพลางส่งยิ้มให้ เห็นได้ชัดว่าเธอคิดบางอย่างไว้ในใจแล้ว…

ผู้จัดและผู้กำกับเข้าใจเจตนาของเธอดี เธอแค่ต้องการแก้แค้นให้หลงเจี่ยเท่านั้น

เธอจึงขอให้ปิดบังเรื่องการนัดพบครั้งนี้ไม่ให้หันซิวเช่อรู้

การแสดงบางอย่างไม่ควรรีบเปิดม่านเกินไปนัก

“ไม่ต้องเป็นห่วงครับ คุณนึกถึงเราขนาดนี้ เราไม่มีเหตุผลที่ต้องปฏิเสธคำขอของคุณหรอกครับ”

ถังหนิงได้ช่วยพวกเขาไม่ให้สูญเสียครั้งใหญ่ไว้จริงๆ หากเรื่องของวงนี้ถูกเปิดเผยขึ้นมา รายการของเขาคงได้รับผลกระทบไปด้วยอย่างแน่นอน ในเมื่อถังหนิงยอมเสนอตัวช่วยพวกเขา คงไม่มีเหตุผลอะไรที่จะไม่ให้ความร่วมมือกับเธอ

“ถ้าอย่างนั้นฉันก็ขอขอบคุณล่วงหน้าไว้ด้วยนะคะ” ถังหนิงยกชาขึ้นดื่มให้กับคนทั้งสอง

หลังจากถังหนิงจากไป ผู้กำกับก็เอ่ยกับผู้จัด “ผมเข้าใจว่าทำไมคนถึงพูดกันว่าถังหนิงเป็นคนเจ้าคิดเจ้าแค้นแล้วล่ะ

“อีกอย่าง ผมไม่เคยเชื่อเลยว่าเธอจะยอมแพ้ให้กับเรื่องเล็กๆ บนโลกออนไลน์ คุณเองก็เห็นวิธีการที่เธอวางแผนมาอย่างแยบยลกับตาตัวเองแล้วนี่ครับ พวกเขากล้าพูดว่าเธอเป็นแค่อดีตได้ยังไงกัน ผมไม่มีทางเชื่อเด็ดขาด!

“แล้วไม่ว่ายังไงเราก็จำเป็นต้องช่วยเรื่องนี้ อย่างน้อยเราก็จะได้ไม่ไปมีเรื่องกับเธอ ไม่อย่างนั้นเราคงได้ตายโดยไม่รู้ตัวแน่ๆ ”

พูดจบทั้งสองก็กลับไปที่กองถ่าย

ทว่าเมื่อผู้กำกับมองไปที่เอสเอเจ ตอนนี้พวกเขาดูเหมือนกากเดนที่เป็นพิษภัยสังคมไปเสียแล้ว!

ดังนั้นต่อให้ถังหนิงจะโหดร้ายกับพวกเขามากเพียงไหน พวกเขาก็สมควรได้รับมัน!

หลังชะงักไปครู่หนึ่ง ผู้จัดส่งสายตาให้ผู้กำกับคล้ายบอกให้ลงมือ สุดท้ายอีกฝ่ายจึงไม่มีทางเลือกนอกจากเข้าไปหาทั้งสี่คน “พวกนายสี่คนมากับฉันซะ!”

Related

วิวาห์พลิกรัก ฉบับซุปตาร์

วิวาห์พลิกรัก ฉบับซุปตาร์

ถังหนิง ผู้กำลังจะก้าวขึ้นไปเป็นนางแบบแนวหน้า แต่เพราะรักจึงสละสิ้นทุกอย่าง ทว่าคืนก่อนวันวิวาห์ที่เธอกำลังจะได้ครองรักดั่งหวังนั่นเอง คู่หมั้นของเธอกลับหนีออกไปกับหญิงอื่น ด้วยความเจ็บช้ำน้ำใจ เธอจึงเดินจ้ำไปหาผู้ชายคนหนึ่งที่ยืนอยู่หน้าสำนักงานเขต “ประธานโม่คะ ในเมื่อเจ้าสาวของคุณยังไม่มาและเจ้าบ่าวของฉันก็หนีไปแล้วอย่างนี้… ฉันว่า… เรามาแต่งงานกันเสียเลยดีไหมคะ” … ก่อนแต่งงานเธอเอ่ยว่า “แม้เราจะนอนร่วมเตียงกัน แต่จะไม่มีอะไรเกิดขึ้นระหว่างเรา” หลังแต่งงานเขาเอ่ยว่า “ถ้าไม่ลองแล้วจะรู้หรือ”

Options

not work with dark mode
Reset