วิวาห์พลิกรัก ฉบับซุปตาร์ – ตอนที่ 1056 หนังเรื่องใหม่จากหนิงของฉันกำลังจะฉายแล้วเหรอ

หลงเจี่ยประกาศข่าวดีบนเว็บไซต์สมาคมคนรักถังหนิงในเวลาถัดมา       เมื่อแฟนๆ เห็น พวกเขาต่างแตกตื่นด้วยความตื่นเต้น       “หนังเรื่องใหม่จากหนิงของฉันกำลังจะฉายแล้วเหรอ พระเจ้าช่วย ฉันไม่ได้มองผิดไปใช่ไหมเนี่ย ฉันต้องอ่านให้แน่ใจอีกครั้งแล้วล่ะ”       “โอ้! ฉันจะบ้าตาย!”       “หลงเจี่ย คุณนี่เลือดเย็นจริงๆ ประกาศเรื่องอย่างนี้ในเวลาแบบนี้ได้ยังไง ตอนนี้ฉันไม่เป็นอันทำงานเลย วู้! ในที่สุดหนิงของฉันก็มีผลงานใหม่สักที ฉันรอมานานแล้วเนี่ย!”       หลงเจี่ยยังคงออนไลน์ค้างไว้อย่างปลื้มปริ่ม “พวกคุณยังไม่รู้เรื่องกันใช่ไหมล่ะคะ หนังไซไฟของถังหนิงกำลังจะฉายบนจอแล้ว หวังว่าทุกคนจะช่วยสนับสนุนนะคะ ฉันต้องขอรบกวนหัวหน้าสมาคมด้วยค่ะ นอกจากนี้ฉันอยากจะบอกให้พวกคุณรู้ว่ายังไม่มีคนภาพนอกรู้ข่าวนี้เลย ตอนนี้ช่วยเก็บเป็นความลับไว้ก่อนนะคะ ถังหนิงรู้สึกว่าพวกคุณสมควรที่จะได้รู้ความลับนี้น่ะค่ะ”       สำหรับแฟนตัวยงไม่มีสิ่งใดสำคัญไปมากกว่าการปกป้องศิลปินที่รัก       กลุ่มแฟนคลับเป็นที่ที่แฟนๆ จะได้ชุ่มชื่นหัวใจที่สุด ดังนั้นเรื่องใหญ่อย่างการเข้าฉายภาพยนตร์จึงทำให้พวกเขาพากันตื่นเต้น แต่ก็ไม่ลืมที่จะให้ความร่วมมือ       ความจริงแล้วหลงเจี่ยรู้ว่าการประกาศข่าวในสมาคมหมายความว่าความลับทั้งหมดนั้นพอยืดหยุ่นได้ มันเป็นเพียงการให้กำลังใจแฟนๆ บ้าง การประกาศข่าวให้รู้ล่วงหน้าทำให้เขาพูดถึงมันได้เต็มปากเต็มคำมากขึ้น       อย่างไรก็ตามไม่มีใครรู้ว่าหันซิวเช่อได้เปิดหน้าเว็บไซต์สมาคมไว้ตลอดเวลาและได้เห็นประกาศของหลงเจี่ยเรียบร้อยแล้ว       ภาพยนตร์เรื่องใหม่ของหนิงกำลังจะฉายแล้ว!       และมันคือภาพยนตร์ไซไฟใช่ไหมล่ะ       ข่าวนี้คุ้มค่ากับการเฝ้ารอคอยที่ยาวนานและไม่มีที่สิ้นสุดมาหลายคืน ในที่สุดโอกาสที่เขาจะได้เล่นงานถังหนิงก็มาถึง       เมื่อคิดได้เช่นนั้นแผนการอันน่าระทึกใจได้โผล่ขึ้นมาในหัวหันซิวเช่อ เขาคลุกคลีกับเรื่องไซไฟอยู่ทุกวี่วันและเคยทำหนังสั้นไซไฟมาหลายเรื่อง ในเมื่อถังหนิงชื่นชอบเรื่องไซไฟมากนัก เขาก็จะตัดต่อสักหน่อยและสร้างปัญหาให้สักนิดแล้วกัน!       ในเวลานี้เขาไม่จำเป็นต้องบอกแผนนี้กับใคร ถังหนิงคงไม่มีทางรู้เรื่องแน่!       ดังนั้นในขณะที่ถังหนิงตรวจสอบตัวอย่างภาพยนตร์เป็นครั้งสุดท้าย อยู่ๆ ก็มีข่าวหนึ่งปรากฏขึ้นในโลกออนไลน์       “ผลงานล่าสุดของถังหนิงหลุดออกมา!”       “รีบมาดูตัวอย่างจากหนังใหม่ของถังหนิงที่หลุดออกมาเร็วเข้า!”       หลังจากหลงเจี่ยได้ยินดังนั้น เธอรีบดาวน์โหลดวิดีโอมาเพื่อตรวจดูทันที       “มีบางอย่างหลุดออกไปจริงๆ เหรอ”       หลงเจี่ยกับถังหนิงอยู่ระหว่างทางไปสตูดิโอตัดต่อหลังการถ่ายทำ ด้วยเป็นเรื่องเร่งด่วนพวกเธอจึงต้องคุยกันไประหว่างทาง “ฉันดูอย่างละเอียดแล้วค่ะ ไม่มีอะไรหลุดออกไปจากฝั่งของเราเลย มีใครบางคนจงใจสร้างวิดีโอขึ้นมาโดยเอาภาพจากหนังเรื่องอื่นมาต่อๆ กัน”       “เพื่ออะไรกันล่ะ”       “ฉันดูวิดีโอและพยายามเดาเจตนาของคนร้ายแล้ว เห็นได้ชัดว่าเทคนิคพิเศษที่ใช้มันน่าหัวเราะเยาะมาก แต่พวกเขาก็มีความสามารถพอที่จะใส่ภาพเฉียวเซินในกองถ่ายไว้ คนภายนอกอาจจะเข้าใจผิดว่าหนังของคุณไม่เอาไหนก็ได้ค่ะ       “ถึงเมื่อก่อนจะมีข่าวเรื่องที่เจ้านายเล่นหนังแต่ก็ไม่มีอะไรมายืนยันได้ คนร้ายเลยฉลาดพอที่จะใช้ภาพจากหนังเรื่องก่อนๆ ของเฉียวเซินค่ะ       “ฉันว่าเขาน่าจะตั้งใจทำให้คนอื่นด่วนสรุปและสบประมาทคุณน่ะค่ะ”       หลังจากได้ยินการวิเคราะห์ของหลงเจี่ย ถังหนิงถอนหายใจอย่างโล่งอก ตราบใดที่เทปจริงไม่ได้หลุดออกไปอย่างนั้นสถานการณ์ของพวกเขาก็ยังไม่ได้เลวร้ายนัก       “ขอฉันดูวิดีโอนั้นหน่อย” ถังหนิงเอ่ยหลังจากตรวจสอบกับทีมงานตัดต่อแล้ว เมื่อดูสิ่งที่เรียกว่าวิดีโอที่หลุดออกไป เธอหันมาเอ่ยกับหลงเจี่ย “เวลามันบังเอิญเกินไปหรือเปล่า”       “คุณกำลังคิดว่ามีบางอย่างเกี่ยวข้องกับสมาคมแฟนๆ ของคุณเหรอคะ แต่ตอนที่เราประกาศให้พวกเขารู้ เราก็ไม่ได้หวังให้พวกเขาเก็บเรื่องนี้เป็นความลับจริงๆ อยู่แล้วนี่คะ ดูเหมือนว่าใครบางคนคงใช้ประกาศนี้เพื่อผลประโยชน์ของตัวเอง แล้วตอนนี้ก็เปลี่ยนให้แฟนๆ เป็นพยานของเขาอยู่นะคะ”       แฟนๆ รู้ว่าภาพยนตร์เรื่องใหม่ของหนิงกำลังจะฉายในอีกไม่นาน! ดังนั้นวิดีโอที่หลุดมานี้…       ทุกคนต่างยิ่งกังขาในความสามารถในการสร้างภาพยนตร์ของถังหนิง โดยเฉพาะเมื่อเธอเป็นลูกศิษย์ของโจนส์       “ถ้าถังหนิงสร้างผลงานที่คุณภาพต่ำขนาดนี่ทั้งที่เป็นลูกศิษย์ของโจนส์ อย่างนั้นฉันว่าเธอควรยอมแพ้แล้วกลับไปแสดงเถอะ!”       “ถึงวิดีโอพวกนี้จะยังไม่ได้ถูกยืนยันว่าเป็นของจริงแต่มันก็ห่วยเป็นบ้า”       “ไม่มีทางที่จะเป็นหนังของหนิงของฉันหรอก ฉันไม่เชื่อเด็ดขาด!”       “เธอไม่เห็นเฉียวเซินในวิดีโอหรือไง”       ทั้งสามวิดีโอมีความยาวราวๆ ยี่สิบวินาที ไม่มีเส้นเรื่องหลักปรากฏอยู่ในวิดีโอ เป็นเพียงส่วนหนึ่งของกระบวนการถ่ายทำและเทคนิคพิเศษเท่านั้น ทว่ามันก็เป็นภาพที่ไม่อาจทนดูได้       ถังหนิงจึงถูกเยาะเย้ยถากถาง       ที่แย่ที่สุดคือสิ่งที่เดิมทีควรถูกชื่นชมสำหรับถังหนิงพลันตกเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์       ทว่านอกจากถังหนิงแล้ว โม่ถิงเองก็มีส่วนสำคัญในผลงานนี้เช่นกัน       หลังจากดูวิดีโอนี้จบ ทั้งคู่รู้ว่ามันง่ายที่จะสยบข่าวลือนี้ หากแต่ก่อนที่พวกเขาจะหาตัวคนร้าย พวกเขาจะทำอย่างไรหากอีกฝ่ายยังไม่หยุดโจมตี       อีกทั้งแผนการตลาดก็ได้ถูกยืนยันไปแล้ว นี่ไม่ได้หมายความว่าทุกอย่างจะสูญเปล่าอย่างนั้นหรือ       ทั้งโม่ถิงและถังหนิงไม่ชอบเป็นผู้ถูกกระทำ       แต่แน่นอนว่าพวกเขาหลีกเลี่ยงความเป็นไปได้ที่จะมีใครสักคนสร้างวิดีโอล้อเลียนขึ้นมาไม่ได้ อย่างไรก็เป็นเรื่องปกติที่แฟนๆ จะตอบสนองความต้องการของตัวเองโดยการเอาเทปมาตัดต่อรวมกันและปล่อยลงในโลกออนไลน์ นี่ไม่ใช่สิ่งที่ผิดกฎหมาย       หากแต่สถานการณ์ในตอนนี้มีคอภาพยนตร์มากมายที่ถูกปั่นหัวสำเร็จ ส่วนที่สำคัญที่สุดคือการที่มีเฉียวเซินปรากฏในวิดีโอ       มันยิ่งทำให้น่าเชื่อถือมากขึ้น!       หันซิวเช่อคงคิดว่าถังหนิงกำลังตื่นตระหนกอยู่       ว่ากันตามจริงแล้วเขาเองก็คิดว่าภาพยนตร์ของเธอน่าจะอยู่ในระดับนี้       อีกทางหนึ่งเขาก็มั่นใจว่าถังหนิงต้องกำลังเจ็บปวดอยู่ ว่าแต่แท้จริงแล้วถังหนิงกำลังคิดอะไรอยู่กันล่ะ       “ทำไมคุณยังนิ่งอยู่ได้ขนาดนี้ตอนที่ทุกคนกำลังดูถูกคุณล่ะคะ” หลงเจี่ยถามอย่างหวั่นใจขณะที่มองท่าทีเรียบเฉยของถังหนิง       “เพราะนี่อาจจะไม่ใช่เรื่องที่แย่เสมอไปนี่นา” ถังหนิงระบายยิ้ม “คิดดูสิ ทุกคนอาจจะพากันด่วนสรุปแต่สุดท้ายมันก็ไม่ใช่ของจริงอยู่ดี ก่อนหน้านี้ฉันเองกังวลว่าทุกคนจะคาดหวังในตัวฉันสูงเกินไปเพราะฉันเป็นลูกศิษย์ของโจนส์ แต่หลังจากมีวิดีโอนี้โผล่ขึ้นมา…”       “โอ้…คุณกำลังจะบอกว่าจริงๆ แล้ววิดีโอพวกนี้ทำให้คนคาดหวังในตัวคุณน้อยลง แล้วพอหนังปล่อยออกมาจริงๆ ทุกคนก็จะยิ่งตกตะลึงใช่ไหมคะ” หลงเจี่ยเข้าใจทันที “คุณเป็นคนที่เกิดมาเพื่อสิ่งที่ยิ่งใหญ่จริงๆ ค่ะ แล้วก็ทำให้เป็นจริงได้สำเร็จด้วย…”       “ดังนั้นก็ปล่อยให้พวกเขาล้อเลียนฉันตามใจอยากไปเถอะ พอเวลานั้นมาถึงฉันจะดึงพวกเขาให้กลับมาในทางที่ถูกต้องเอง!”  

หลงเจี่ยประกาศข่าวดีบนเว็บไซต์สมาคมคนรักถังหนิงในเวลาถัดมา  

 

 

เมื่อแฟนๆ เห็น พวกเขาต่างแตกตื่นด้วยความตื่นเต้น  

 

 

“หนังเรื่องใหม่จากหนิงของฉันกำลังจะฉายแล้วเหรอ พระเจ้าช่วย ฉันไม่ได้มองผิดไปใช่ไหมเนี่ย ฉันต้องอ่านให้แน่ใจอีกครั้งแล้วล่ะ”  

 

 

“โอ้! ฉันจะบ้าตาย!”  

 

 

“หลงเจี่ย คุณนี่เลือดเย็นจริงๆ ประกาศเรื่องอย่างนี้ในเวลาแบบนี้ได้ยังไง ตอนนี้ฉันไม่เป็นอันทำงานเลย วู้! ในที่สุดหนิงของฉันก็มีผลงานใหม่สักที ฉันรอมานานแล้วเนี่ย!”  

 

 

หลงเจี่ยยังคงออนไลน์ค้างไว้อย่างปลื้มปริ่ม “พวกคุณยังไม่รู้เรื่องกันใช่ไหมล่ะคะ หนังไซไฟของถังหนิงกำลังจะฉายบนจอแล้ว หวังว่าทุกคนจะช่วยสนับสนุนนะคะ ฉันต้องขอรบกวนหัวหน้าสมาคมด้วยค่ะ นอกจากนี้ฉันอยากจะบอกให้พวกคุณรู้ว่ายังไม่มีคนภาพนอกรู้ข่าวนี้เลย ตอนนี้ช่วยเก็บเป็นความลับไว้ก่อนนะคะ ถังหนิงรู้สึกว่าพวกคุณสมควรที่จะได้รู้ความลับนี้น่ะค่ะ”  

 

 

สำหรับแฟนตัวยงไม่มีสิ่งใดสำคัญไปมากกว่าการปกป้องศิลปินที่รัก  

 

 

กลุ่มแฟนคลับเป็นที่ที่แฟนๆ จะได้ชุ่มชื่นหัวใจที่สุด ดังนั้นเรื่องใหญ่อย่างการเข้าฉายภาพยนตร์จึงทำให้พวกเขาพากันตื่นเต้น แต่ก็ไม่ลืมที่จะให้ความร่วมมือ  

 

 

ความจริงแล้วหลงเจี่ยรู้ว่าการประกาศข่าวในสมาคมหมายความว่าความลับทั้งหมดนั้นพอยืดหยุ่นได้ มันเป็นเพียงการให้กำลังใจแฟนๆ บ้าง การประกาศข่าวให้รู้ล่วงหน้าทำให้เขาพูดถึงมันได้เต็มปากเต็มคำมากขึ้น  

 

 

อย่างไรก็ตามไม่มีใครรู้ว่าหันซิวเช่อได้เปิดหน้าเว็บไซต์สมาคมไว้ตลอดเวลาและได้เห็นประกาศของหลงเจี่ยเรียบร้อยแล้ว  

 

 

ภาพยนตร์เรื่องใหม่ของหนิงกำลังจะฉายแล้ว!  

 

 

และมันคือภาพยนตร์ไซไฟใช่ไหมล่ะ  

 

 

ข่าวนี้คุ้มค่ากับการเฝ้ารอคอยที่ยาวนานและไม่มีที่สิ้นสุดมาหลายคืน ในที่สุดโอกาสที่เขาจะได้เล่นงานถังหนิงก็มาถึง  

 

 

เมื่อคิดได้เช่นนั้นแผนการอันน่าระทึกใจได้โผล่ขึ้นมาในหัวหันซิวเช่อ เขาคลุกคลีกับเรื่องไซไฟอยู่ทุกวี่วันและเคยทำหนังสั้นไซไฟมาหลายเรื่อง ในเมื่อถังหนิงชื่นชอบเรื่องไซไฟมากนัก เขาก็จะตัดต่อสักหน่อยและสร้างปัญหาให้สักนิดแล้วกัน!  

 

 

ในเวลานี้เขาไม่จำเป็นต้องบอกแผนนี้กับใคร ถังหนิงคงไม่มีทางรู้เรื่องแน่!  

 

 

ดังนั้นในขณะที่ถังหนิงตรวจสอบตัวอย่างภาพยนตร์เป็นครั้งสุดท้าย อยู่ๆ ก็มีข่าวหนึ่งปรากฏขึ้นในโลกออนไลน์  

 

 

“ผลงานล่าสุดของถังหนิงหลุดออกมา!”  

 

 

“รีบมาดูตัวอย่างจากหนังใหม่ของถังหนิงที่หลุดออกมาเร็วเข้า!”  

 

 

หลังจากหลงเจี่ยได้ยินดังนั้น เธอรีบดาวน์โหลดวิดีโอมาเพื่อตรวจดูทันที  

 

 

“มีบางอย่างหลุดออกไปจริงๆ เหรอ”  

 

 

หลงเจี่ยกับถังหนิงอยู่ระหว่างทางไปสตูดิโอตัดต่อหลังการถ่ายทำ ด้วยเป็นเรื่องเร่งด่วนพวกเธอจึงต้องคุยกันไประหว่างทาง “ฉันดูอย่างละเอียดแล้วค่ะ ไม่มีอะไรหลุดออกไปจากฝั่งของเราเลย มีใครบางคนจงใจสร้างวิดีโอขึ้นมาโดยเอาภาพจากหนังเรื่องอื่นมาต่อๆ กัน”  

 

 

“เพื่ออะไรกันล่ะ”  

 

 

“ฉันดูวิดีโอและพยายามเดาเจตนาของคนร้ายแล้ว เห็นได้ชัดว่าเทคนิคพิเศษที่ใช้มันน่าหัวเราะเยาะมาก แต่พวกเขาก็มีความสามารถพอที่จะใส่ภาพเฉียวเซินในกองถ่ายไว้ คนภายนอกอาจจะเข้าใจผิดว่าหนังของคุณไม่เอาไหนก็ได้ค่ะ  

 

 

“ถึงเมื่อก่อนจะมีข่าวเรื่องที่เจ้านายเล่นหนังแต่ก็ไม่มีอะไรมายืนยันได้ คนร้ายเลยฉลาดพอที่จะใช้ภาพจากหนังเรื่องก่อนๆ ของเฉียวเซินค่ะ  

 

 

“ฉันว่าเขาน่าจะตั้งใจทำให้คนอื่นด่วนสรุปและสบประมาทคุณน่ะค่ะ”  

 

 

หลังจากได้ยินการวิเคราะห์ของหลงเจี่ย ถังหนิงถอนหายใจอย่างโล่งอก ตราบใดที่เทปจริงไม่ได้หลุดออกไปอย่างนั้นสถานการณ์ของพวกเขาก็ยังไม่ได้เลวร้ายนัก  

 

 

“ขอฉันดูวิดีโอนั้นหน่อย” ถังหนิงเอ่ยหลังจากตรวจสอบกับทีมงานตัดต่อแล้ว เมื่อดูสิ่งที่เรียกว่าวิดีโอที่หลุดออกไป เธอหันมาเอ่ยกับหลงเจี่ย “เวลามันบังเอิญเกินไปหรือเปล่า”  

 

 

“คุณกำลังคิดว่ามีบางอย่างเกี่ยวข้องกับสมาคมแฟนๆ ของคุณเหรอคะ แต่ตอนที่เราประกาศให้พวกเขารู้ เราก็ไม่ได้หวังให้พวกเขาเก็บเรื่องนี้เป็นความลับจริงๆ อยู่แล้วนี่คะ ดูเหมือนว่าใครบางคนคงใช้ประกาศนี้เพื่อผลประโยชน์ของตัวเอง แล้วตอนนี้ก็เปลี่ยนให้แฟนๆ เป็นพยานของเขาอยู่นะคะ”  

 

 

แฟนๆ รู้ว่าภาพยนตร์เรื่องใหม่ของหนิงกำลังจะฉายในอีกไม่นาน! ดังนั้นวิดีโอที่หลุดมานี้…  

 

 

ทุกคนต่างยิ่งกังขาในความสามารถในการสร้างภาพยนตร์ของถังหนิง โดยเฉพาะเมื่อเธอเป็นลูกศิษย์ของโจนส์  

 

 

“ถ้าถังหนิงสร้างผลงานที่คุณภาพต่ำขนาดนี่ทั้งที่เป็นลูกศิษย์ของโจนส์ อย่างนั้นฉันว่าเธอควรยอมแพ้แล้วกลับไปแสดงเถอะ!”  

 

 

“ถึงวิดีโอพวกนี้จะยังไม่ได้ถูกยืนยันว่าเป็นของจริงแต่มันก็ห่วยเป็นบ้า”  

 

 

“ไม่มีทางที่จะเป็นหนังของหนิงของฉันหรอก ฉันไม่เชื่อเด็ดขาด!”  

 

 

“เธอไม่เห็นเฉียวเซินในวิดีโอหรือไง”  

 

 

ทั้งสามวิดีโอมีความยาวราวๆ ยี่สิบวินาที ไม่มีเส้นเรื่องหลักปรากฏอยู่ในวิดีโอ เป็นเพียงส่วนหนึ่งของกระบวนการถ่ายทำและเทคนิคพิเศษเท่านั้น ทว่ามันก็เป็นภาพที่ไม่อาจทนดูได้  

 

 

ถังหนิงจึงถูกเยาะเย้ยถากถาง  

 

 

ที่แย่ที่สุดคือสิ่งที่เดิมทีควรถูกชื่นชมสำหรับถังหนิงพลันตกเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์  

 

 

ทว่านอกจากถังหนิงแล้ว โม่ถิงเองก็มีส่วนสำคัญในผลงานนี้เช่นกัน  

 

 

หลังจากดูวิดีโอนี้จบ ทั้งคู่รู้ว่ามันง่ายที่จะสยบข่าวลือนี้ หากแต่ก่อนที่พวกเขาจะหาตัวคนร้าย พวกเขาจะทำอย่างไรหากอีกฝ่ายยังไม่หยุดโจมตี  

 

 

อีกทั้งแผนการตลาดก็ได้ถูกยืนยันไปแล้ว นี่ไม่ได้หมายความว่าทุกอย่างจะสูญเปล่าอย่างนั้นหรือ  

 

 

ทั้งโม่ถิงและถังหนิงไม่ชอบเป็นผู้ถูกกระทำ  

 

 

แต่แน่นอนว่าพวกเขาหลีกเลี่ยงความเป็นไปได้ที่จะมีใครสักคนสร้างวิดีโอล้อเลียนขึ้นมาไม่ได้ อย่างไรก็เป็นเรื่องปกติที่แฟนๆ จะตอบสนองความต้องการของตัวเองโดยการเอาเทปมาตัดต่อรวมกันและปล่อยลงในโลกออนไลน์ นี่ไม่ใช่สิ่งที่ผิดกฎหมาย  

 

 

หากแต่สถานการณ์ในตอนนี้มีคอภาพยนตร์มากมายที่ถูกปั่นหัวสำเร็จ ส่วนที่สำคัญที่สุดคือการที่มีเฉียวเซินปรากฏในวิดีโอ  

 

 

มันยิ่งทำให้น่าเชื่อถือมากขึ้น!  

 

 

หันซิวเช่อคงคิดว่าถังหนิงกำลังตื่นตระหนกอยู่  

 

 

ว่ากันตามจริงแล้วเขาเองก็คิดว่าภาพยนตร์ของเธอน่าจะอยู่ในระดับนี้  

 

 

อีกทางหนึ่งเขาก็มั่นใจว่าถังหนิงต้องกำลังเจ็บปวดอยู่ ว่าแต่แท้จริงแล้วถังหนิงกำลังคิดอะไรอยู่กันล่ะ  

 

 

“ทำไมคุณยังนิ่งอยู่ได้ขนาดนี้ตอนที่ทุกคนกำลังดูถูกคุณล่ะคะ” หลงเจี่ยถามอย่างหวั่นใจขณะที่มองท่าทีเรียบเฉยของถังหนิง  

 

 

“เพราะนี่อาจจะไม่ใช่เรื่องที่แย่เสมอไปนี่นา” ถังหนิงระบายยิ้ม “คิดดูสิ ทุกคนอาจจะพากันด่วนสรุปแต่สุดท้ายมันก็ไม่ใช่ของจริงอยู่ดี ก่อนหน้านี้ฉันเองกังวลว่าทุกคนจะคาดหวังในตัวฉันสูงเกินไปเพราะฉันเป็นลูกศิษย์ของโจนส์ แต่หลังจากมีวิดีโอนี้โผล่ขึ้นมา…”  

 

 

“โอ้…คุณกำลังจะบอกว่าจริงๆ แล้ววิดีโอพวกนี้ทำให้คนคาดหวังในตัวคุณน้อยลง แล้วพอหนังปล่อยออกมาจริงๆ ทุกคนก็จะยิ่งตกตะลึงใช่ไหมคะ” หลงเจี่ยเข้าใจทันที “คุณเป็นคนที่เกิดมาเพื่อสิ่งที่ยิ่งใหญ่จริงๆ ค่ะ แล้วก็ทำให้เป็นจริงได้สำเร็จด้วย…”  

 

 

“ดังนั้นก็ปล่อยให้พวกเขาล้อเลียนฉันตามใจอยากไปเถอะ พอเวลานั้นมาถึงฉันจะดึงพวกเขาให้กลับมาในทางที่ถูกต้องเอง!”  

วิวาห์พลิกรัก ฉบับซุปตาร์

วิวาห์พลิกรัก ฉบับซุปตาร์

วิวาห์พลิกรัก ฉบับซุปตาร์
Status: Ongoing
ถังหนิง ผู้กำลังจะก้าวขึ้นไปเป็นนางแบบแนวหน้า แต่เพราะรักจึงสละสิ้นทุกอย่าง ทว่าคืนก่อนวันวิวาห์ที่เธอกำลังจะได้ครองรักดั่งหวังนั่นเอง คู่หมั้นของเธอกลับหนีออกไปกับหญิงอื่น ด้วยความเจ็บช้ำน้ำใจ เธอจึงเดินจ้ำไปหาผู้ชายคนหนึ่งที่ยืนอยู่หน้าสำนักงานเขต “ประธานโม่คะ ในเมื่อเจ้าสาวของคุณยังไม่มาและเจ้าบ่าวของฉันก็หนีไปแล้วอย่างนี้… ฉันว่า… เรามาแต่งงานกันเสียเลยดีไหมคะ” … ก่อนแต่งงานเธอเอ่ยว่า “แม้เราจะนอนร่วมเตียงกัน แต่จะไม่มีอะไรเกิดขึ้นระหว่างเรา” หลังแต่งงานเขาเอ่ยว่า “ถ้าไม่ลองแล้วจะรู้หรือ”

Comment

Options

not work with dark mode
Reset