แล้วหันเจี๋ยยังมีความน่าเชื่อถือเหลือมากแต่ไหนกัน เขายังตอบคำถามนั้นไม่ได้เลยด้วยซ้ำ
แต่ไม่ว่าความจริงจะเป็นเช่นไร ผู้คนต่างก็สนุกกับการดูการต่อสู้รอบแรกราวกับเป็นเรื่องเร้าใจนักหนา
ในขณะเดียวกันสถานการณ์ในฟากของหันเจี๋ยได้ย่ำแย่ลง
หากเขาไม่ได้ตอบโต้ในครั้งแรกเพราะประมาทถังหนิงและซูอวี๋ อย่างนั้นครั้งนี้เขาต้องแสดงจุดยืนของตัวเองให้ชัดเจน
หากตระกูลหันยังคงยืนยันที่จะไม่ตอบโต้ ทั้งที่ซูอวี๋ได้ประกาศจุดยืนของตัวเองแล้ว อย่างนั้นเธอก็จะปล่อยหลักฐานออกมาอีกและตระกูลหันคงมีแต่จะดูแย่
หันเจี๋ยอยู่ในช่วงวิกฤต โดยเฉพาะเมื่อหน้าของเขายังชาจากแรงตบก่อนหน้านี้ อย่างไรเขาเองก็รู้อยู่ลึกๆ ว่าการจัดการกับซูอวี๋ซึ่งมีถังหนิงคอยช่วยเหลืออยู่นั้นยากเย็นขนาดไหน
หลังจาครุ่นคิดอย่างรอบคอบ เขาจึงตัดสินใจไม่เผยไต๋เพื่อจบเกมของเขา เขาจะหาเรื่องเดือดร้อนให้ถังหนิงแทน
ด้วยเหตุนี้ระหว่างที่เขาพยายามแก้ข่าว หันเจี๋ยระบายความกรุ่นโกรธลงที่ถังหนิง
“นี่เป็นเรื่องในครอบครัวของพวกเรา ผมหวังว่าคนนอกจะไม่เข้ามาเกี่ยวข้อง สุดท้ายลูกไม้ของคุณอาจจะทำลายครอบครัวที่สงบสุขก็ได้!
“ผมยอมรับว่าตัวเองอาจจะถูกหลอกด้วยก็ได้ แต่การคบชู้ของพ่อผมไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรกับการที่แม่ของผมถูกจับได้คาเตียงกับผู้ชายสองคนนี่ครับ
“แค่เพราะว่าพ่อผมมีชู้ ไม่ได้หมายความว่าแม่ผมจะไม่ผิดสักหน่อย คุณรู้ได้ยังไงว่าเราเป็นฝ่ายผิดแทนน่ะ”
ใครคือ คนนอก ที่เขาพูดถึงกัน ทุกคนรู้แม้ว่าเขาจะไม่ได้พูดออกมาก็ตาม
ไม่เพียงแต่หันเจี๋ยจะเบี่ยงเบนความสนใจของทุกคนไปที่ถังหนิง เขายังแสร้งทำเหมือนตัวเองถูกหลอกอีก ยิ่งไปกว่านั้นยังยืนกรานว่าต่อให้พ่อของเขาจะผิด แต่แม่ของเขาก็นอกใจและไม่มีทางเป็นผู้บริสุทธิ์ได้
แน่นอนว่าจุดประสงค์หลักของหันเจี๋ยคือการล่อให้คนเลิกสนใจตัวเองและโยนไปทางถังหนิงแทน
อย่างที่เขาว่า เธอเป็นคนนอก ไม่มีสิทธิ์แทรกแซงเรื่องของคนอื่น
ซูอวี๋ไม่ใช่ทั้งศิลปินและญาติของเธอ เธอจะใช้เล่ห์เหลี่ยมของตัวเองกับพวกเขาได้อย่างไร
คำพูดของหันเจี๋ยฟังดูมีเหตุผล
อย่างไรเสียเรื่องทุกอย่างก็ไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกับถังหนิง เธอจะเข้ามาทำตัวเป็นคนดีและเข้ามายุ่งเรื่องที่ไม่เกี่ยวข้องกับตัวเองได้อย่างไรกัน
ต่อให้เป็นคนธรรมดานี่ก็เป็นสิ่งที่ไม่สมควร นับประสาอะไรกับคนอย่างเธอที่มีแฟนๆ เป็นสิบล้าน
ดังนั้นการที่หันเจี๋ยกล่าวท้าทายถังหนิงจึงไม่ใช่เรื่องแปลก
อย่างไรก็ตาม…วิธีของเขาออกจะสิ้นคิดไปสักหน่อย
ถังหนิงรู้ว่าเธอไม่อาจถอนตัวจากเรื่องนี้ได้ง่ายๆ เพราะเธอจุดชนวนขึ้นมาเองตั้งแต่แรก
โม่ถิงจึงก้าวออกมาตอบโต้ในฐานะผู้จัดการส่วนตัวของเธอ
เขาจะไม่ได้ออกมาพูดอะไรในทีแรก ทำเพียงยกหลักฐานทั้งสามชิ้นที่พวกเขามีขึ้นมา
ชิ้นแรกเป็นวิดีโอที่หันซิวเช่อปลอมขึ้นมาก่อนหน้านี้ โดยอ้างว่าหลุดมาจาก มดราชินี ระหว่างการตัดต่อเขาลืมลบสัญลักษณ์ออก แต่ก็ยังปั่นหัวให้ผู้คนในโลกออนไลน์ดูถูกภาพยนตร์
ชิ้นที่สองเป็นเหตุการณ์ที่งานเทศกาลภาพยนตร์ที่หันซิวเช่อใส่ความถังหนิงว่ามีชู้กับอันจื่อเฮ่า
และชิ้นที่สามคือตอนที่หันเจี๋ยติดสินบนกับช่างเทคนิคพิเศษให้ใส่ร้ายกระบวนการหลังถ่ายทำของ มดราชินี โดยอ้างว่าพวกเขาจ้างคนจากฮอลลีวูดมาช่วย
จากนั้นเขาจึงเอ่ยสรุปในแบบฉบับของเขา
“ก่อนอื่นผมอยากจะบอกว่าภรรยาผมไม่เคยทำอะไรให้พี่น้องตระกูลหัน ในทางกลับกันตั้งแต่เรื่อง จู้ซิงมีเดียมาจนถึง มดราชินี พวกเขาโจมตีเธอมากี่ครั้งแล้ว ผมมั่นใจว่าหลักฐานเหล่านี้เพียงพอที่จะอธิบายทั้งหมดแล้ว
“สอง ผมอยากจะท้าให้พี่น้องตระกูลหันตอบคำถามนี้ คุณหวังให้ผมปล่อยให้คุณรังแกภรรยาทั้งๆ ที่พวกคุณโจมตีเธอมาขนาดนี้น่ะเหรอ ผมมั่นใจว่าคุณรู้ว่าสุดท้ายเรื่องนี้จะจบลงยังไง
“สาม ผมหวังว่าสองพี่น้องจะเลิกพยายามเบี่ยงเบนความสนใจของทุกคนสักที เรื่องของตระกูลหันไม่ได้เป็นความผิดของภรรยาผม อะไรจะเกิดก็ต้องเกิดและสุดท้ายความจริงจะต้องถูกเปิดโปง
“ผมเลยอยากจะขอให้ประธานหันตอบคำถามของซูอวี๋และไม่ขุดหลุมฝังตัวเองนะครับ!
“สุดท้าย ภรรยาผมทำเพียงให้ความช่วยเหลือเท่านั้น เธอไม่ได้บิดเบือนความเป็นจริงแต่อย่างใด เธอยินดีที่จะรับผิดชอบในทุกคำพูดของตัวเองครับ!”
พูดได้อีกอย่างคือหันเจี๋ยกำลังพยายามเบี่ยงเบนความสนใจของทุกคน แต่กลับเป็นการโหมกระพือความเกลียดชังที่ผู้คนมีต่อเขาเท่านั้น
แน่นอนว่าทันทีที่หลักฐานของโม่ถิงถูกปล่อยออกไป พี่น้องตระกูลหันจึงถูกแฉจนหมดเปลือก…
[พี่น้องหันนี่โรคจิตชัดๆ พวกเขาทำเรื่องผิดๆ แต่ก็ยังไม่ยอมรับ กลับมาถามคนอื่นว่าทำไมถึงมายุ่งเรื่องของคนอื่น!]
[หนิงของฉันเผชิญหน้ากับพี่น้องที่เลวทรามที่สุด ไม่มีใครเทียบเขาได้แล้ว!]
[พวกเขาเริ่มก่อนเอง ฉันไม่รู้ว่าสองพี่น้องนี้เรียกถังหนิงว่าเป็นคนนอกได้ยังไง ในเมื่อพวกเขาเป็นคนใส่ร้ายเธอก่อนเองแท้ๆ …]
[หนิงของฉันไม่ได้มีเวลาว่างนักหรอกนะ ถ้าสองที่น้องนี่ไม่น่าขยะแขยงขนาดนี้ ไม่มีใครอยากเข้าไปยุ่งกับพวกเขาหรอก มีแต่จะถอยออกมาให้ห่างน่ะสิ]
หันเจี๋ยใช้ถังหนิงในการเบี่ยงเบนความสนใจ แต่โม่ถิงกลับตอกกลับเขาได้ทันควันในท้ายที่สุด
เขาคิดว่าตัวเองจะหนีไปง่ายๆ อย่างนี้หรือ
…
หันเจี๋ยถูกฟาดหน้าเข้าทั้งซ้าย ขวา และแสกกลาง ทิ้งให้เขาไร้ซึ่งเรี่ยวแรงจะตามแก้แค้น คนที่เห็นว่าเรื่องวุ่นวายถูกคลี่คลายอดไม่ได้ที่จะยินดีด้วยความสะใจ
หากเขาเพียงโวยวายว่าถังหนิงเข้ามายุ่งเรื่องของตระกูลหัน เขาอาจจะมีข้อแก้ตัวได้บ้าง แต่อย่างไรเสียด้วยเรื่องเลวทรามที่เขาได้ลงไป พวกเขาก็ไม่มีสิทธิ์จะออกมาทักท้วงอะไรไม่ใช่หรือ
หันเจี๋ยเครียดแทบจะบ้าตายอยู่แล้ว!
ในตอนนั้นเองที่คุณพ่อหันโทรมากดดันและเร่งเร้าเขา หันเจี๋ยจึงระเบิดอารมณ์ออกมา “ผมกำลังเสียสละมากมายขนาดนี้เพื่อเรื่องงามหน้าของพ่อ พ่ออาจจะซ่อนตัวอยู่ต่างประเทศได้ แล้วผมล่ะ มีตัวปัญหาคนหนึ่งอยู่บ้านตอนนี้ยังไม่พออีกเหรอครับ…”
“อย่ามาว่าฉันนะ แกเองก็เห็นแก่ตัวด้วยไม่ใช่เหรอ” คุณพ่อหันถาม “ฉันให้กิจการของครอบครัวกับแกไปแล้ว แกจะเอาอะไรอีกล่ะ”
“เรื่องวุ่นวายตอนนี้มันยากเกินจะสะสางแล้วครับ ถ้าผมจัดการมันไม่ได้ อย่างนั้นพ่อต้องมาจัดการด้วยตัวเองแล้วล่ะ ยังไงตอนที่เกิดเรื่องขึ้นผมก็ยังเป็นเด็กอยู่นะ”
“หันเจี๋ย…แกมันไอ้หมาเนรคุณ!”
หันเจี๋ยไม่มีอารมณ์จะฟังอีกต่อไปขณะกดวางสาย
เขามีคนในครอบครัวไม่กี่คน แต่ไม่มีแม้แต่คนเดียวที่เขาต้องเป็นห่วง
พวกเขาต่างก็ก่อเรื่องหรือไม่ก็พยายามหนีปัญหาทั้งนั้น ชีวิตของเขามันไม่ง่ายเอาเสียเลย
หันเจี๋ยโยนโทรศัพท์ไปอีกทาง เป็นจังหวะที่เขาเห็นหันซิวเช่อกำลังยืนกอดอกอยู่หน้าประตู เขาใจหายวาบทันทีขณะที่เอ่ยถาม “ทำไมนายเข้ามาไม่เคาะประตูก่อนล่ะ”
“ผมเคาะแล้ว! พี่แค่ไม่ได้ยินเอง” หันซิวเช่อว่าขึ้นหน้าตาเฉย
“นายได้ยินอะไรหรือเปล่า”
“มีอะไรที่พี่กลัวว่าผมจะได้ยินเหรอ” เขาถาม
“ไม่มีอะไรทั้งนั้น ถ้านายไม่มีอะไรจะพูดกับฉันก็ออกไปซะ” หันเจี๋ยไม่มีอารมณ์จะมาทะเลาะด้วย ยังมีเรื่องวุ่นวายอีกมากที่รอให้เขาต้องสะสาง
ตอนนี้เขากำลังถูกถังหนิงกับซูอวี๋ไล่ต้อนจนแทบจะหายใจไม่ออก หากไม่สามารถรับมือกับพวกเธอได้ อย่างนั้นเขาคงไม่มีทางเลือกนอกจากหักหลังทุกคนในครอบครัว!
แน่นอนว่าต่อให้มันจะไม่ได้ผลพวกเขาก็คงได้แต่สวดภาวนา
พวกเขาต้องการให้เขาตอบซูอวี๋อย่างนั้นหรือ
เขาจะตอบอย่างไรดีล่ะ
ไม่ว่าเขาจะตอบอย่างไร ถังหนิงก็จะส่งเขาลงนรกอยู่ดี!
นั่นเป็นผลจากการไปลองดีกับถังหนิงและโม่ถิง!
หันเจี๋ยไม่เหลือหนทางใดนอกจากใช้ไม้ตายสุดท้ายของเขา…