วิวาห์พลิกรัก ฉบับซุปตาร์ – ตอนที่ 1091 มันคงเป็นกรรม

ร่างอาบเลือดของหันซิวเช่อนอนนิ่งอยู่บนเตียงภายใต้ผ้าสีขาว  

 

 

เขาจากโลกนี้ไปอย่างกะทันหัน ทิ้งไว้เพียงวิดีโอที่ขอโทษถังหนิงและซูอวี๋  

 

 

คุณพ่อหันมองไปทางซูอวี๋ที่กำลังมองร่างแน่นิ่งของหันซิวเช่อ ในขณะเดียวกันหันเจี๋ยเลิกผ้าออก เผยให้เห็นร่างของหันซิวเช่อนอนสงบนิ่งราวกับรูปปั้นที่ยังคงอุ่นๆ อยู่เล็กน้อย  

 

 

“ซิวเช่อ อย่าล้อเล่นสิ ตื่นขึ้นมาเร็วเข้า!”  

 

 

“ซิวเช่อ…”  

 

 

หันเจี๋ยเอื้อมมือออกไปแตะแก้มน้องชาย ก่อนรู้ตัวว่าอีกฝ่ายได้สิ้นลมหายใจไปเสียแล้ว เขาเป็นเหมือนกับหุ่นมนุษย์เท่านั้น  

 

 

“ลูกพ่อ” คุณพ่อหันร้องไห้ออกมาพลางเข้าไปหาร่างหันซิวเช่อ  

 

 

ซูอวี๋อดกลั้นอารมณ์โกรธของตัวเองไม่ไหวอีกต่อไปขณะที่พรวดพราดเข้าไปในห้อง คว้าทุกอย่างที่ขวางหน้าและเริ่มทุบตีสองพ่อลูก “พวกคุณสองคนทำให้ซิวเช่อต้องตาย! จำเรื่องนี้เอาไว้ตลอดชีวิตซะด้วย!”  

 

 

คุณพ่อหันไม่อาจรับมือกับความสะเทือนใจได้ มือคว้าจับกรอบประตูไว้ด้วยมือที่สั่นเทา ตอนนั้นเองที่เรื่องบาดหมางตลอดยี่สิบปีและเรื่องซุบซิบนินทาหมดสิ้นความหมายต่อหน้าศพของลูกชายตัวเอง  

 

 

“ตำรวจตรวจสอบโทรศัพท์ของหันซิวเช่อแล้วก็เจอข้อความจากคุณส่งมา บอกให้เขาไปเจอที่ชั้นดาดฟ้าของห้องพักหันเจี๋ย เขาตายตอนนั้นไงล่ะ!  

 

 

“หันจง หลังจากมีเรื่องกันมายี่สิบปี ทำไมคุณไม่เป็นคนที่ตายแทนลูกล่ะ ทำไมคุณไม่ตายไปพร้อมกับเขาด้วย”  

 

 

คุณพ่อหันอ้าปากจะพูด แต่อยู่ๆ เขาก็ได้รับสายจากธนาคารในต่างประเทศ ถามว่าทำไมถึงได้ถอนเงินสดก้อนใหญ่อย่างกะทันหัน พวกเขากังวลว่าจะเป็นการโกง เขารู้สึกตัวและรีบตรวจสอบบัญชีของตัวเองและพบว่าหลี่ฉิงไอ้ได้เชิดเงินไปทั้งหมดแล้ว  

 

 

ผู้หญิงคนนั้นร้ายกาจอย่างกับงูพิษ  

 

 

“นังชั่วหลี่ฉิงไอ้มันเชิดเงินฉันไปหมดเลย…”  

 

 

เมื่อได้ยินดังนั้น หันเจี๋ยก็พิงตัวกับกำแพงก่อนหัวเราะเยาะ “เมื่อคืนตอนที่นังนั่นบอกผมว่าจะไปสั่งสอนหันซิวเช่อ ผมคิดว่าเธอแค่พูดไปเพราะอารมณ์ชั่ววูบซะอีก นึกไม่ถึงว่าน้องชายที่รักของผมต้องมาตายอย่างนี้  

 

 

“ถึงครั้งนี้เราจะทะเลาะกันใหญ่โตแต่ผมก็รักเขาจริงๆ นะ!”  

 

 

หลังฟังสิ่งที่พ่อลูกพูดออกมา ซูอวี๋แค่นหัวเราะออกมาเช่นกัน หัวเราะจนน้ำตาไหล “คุณเสียเวลาไปยี่สิบปีในการเลี้ยงดูงูหลามตัวน้อยให้กลายเป็นงูพิษร้ายกาจ แต่ตอนนี้คุณกลับทำได้แต่ร้องไห้กอดศพลูกชายตัวเอง!”  

 

 

สิ้นประโยค ซูอวี๋หันหลังออกจากโรงพยาบาลไป ตอนแรกเธอดูสงบนิ่งและรักษาท่าทีขณะที่เดินออกมา แต่เมื่อออกมานอกโรงพยาบาลกลับทรุดลงกับพื้นและร้องไห้ออกมาแทบขาดใจ  

 

 

นังภรรยาน้อยคนนั้นทำให้ชีวิตของเธอต้องลงเอยเช่นนี้!  

 

 

เธอพรากความบริสุทธิ์ใจตลอดยี่สิบปีไป รวมถึงชีวิตลูกชายของเธอด้วย!  

 

 

คิดได้ดังนั้น ซูอวี๋หันมาหาสามีของเธอและว่าขึ้น “ตาแก่…โทรหาถังหนิงให้ฉันที เธอรู้เรื่องนี้ดี บอกว่าถ้าเธอช่วยฉันหาตัวนังนั่นได้ ฉันจะทำให้ชีวิตของมันเหมือนตกนรก!”  

 

 

“โอเค ฉันจะโทรหาเดี๋ยวนี้แหละ อย่าโกรธมากเกินไปเลยนะ”  

 

 

ซูอวี๋คุกเข่ากับพื้น ร้องไห้อย่างเจ็บปวดในขณะที่นักข่าวยืนอยู่ไม่ห่างออกไป หันกล้องไปถ่ายท่าทีสิ้นหวังของเธอในระยะประชิด อย่างไรก็ตามซูอวี๋ไม่ได้สนใจเรื่องนี้อีกต่อไปแล้ว ถึงอย่างไรคนที่น่าสงสารกว่าก็กำลังนอนร่างอาบเลือดอยู่ในห้องดับจิตของโรงพยาบาล…  

 

 

…  

 

 

ถังหนิงได้รับสายของซูอวี๋ระหว่างที่กำลังอ่านข่าวบันเทิงอยู่ มีกองทัพนักข่าวออกันอยู่ด้านนอกโรงพยาบาลเพื่อรอสัมภาษณ์คนตระกูลหัน อย่างไรเสียการที่ครอบครัวคนใหญ่คนโตจะทะเลาะกันจนถึงขั้นเสียชีวิตก็ไม่ได้เกิดขึ้นบ่อยครั้ง โดยเฉพาะเรื่องที่เกิดขึ้นอย่างกะทันหันและเป็นที่พูดถึง  

 

 

นักข่าวจึงไม่ปล่อยให้หลุดรอดไปได้  

 

 

เมื่อได้คุยกับซูอวี๋ ถังหนิงก็รู้สาเหตุเบื้องหลังการเสียชีวิตของหันซิวเช่อ เธอร่วมมือกับโม่ถิงและหลงเจี่ยตามหาตัวหลี่ฉิงไอ้ทันที  

 

 

ในฐานะภรรยาน้อย หลี่ฉิงไอ้แย่ยิ่งกว่าโม่อวี่โหรวเมื่อก่อนเสียอีก  

 

 

เพราะไม่ว่าโม่อวี้โหรวจะหน้าด้านขนาดไหน เธอไม่มีทางต้องการเอาชีวิตของถังหนิง ผิดกับหลี่ฉิงไอ้…ที่ทำเรื่องไม่น่าให้อภัยทั้งกับแม่และลูกชายมาตลอดยี่สิบปี  

 

 

เหตุการณ์ในครั้งนี้ได้รับความสนใจมากมายในวงการบันเทิง  

 

 

อย่างไรคำสั่งเสียของหันซิวเช่อก็คือการขอโทษถังหนิงและซูอวี๋…  

 

 

ซ้ำตระกูลหันยังมีความขัดแย้งกันก่อนที่เขาจะเสียชีวิต  

 

 

ด้วยเหตุนี้สาธารณชนจึงเริ่มคาดเดาว่าเกิดอะไรขึ้น ด้วยถังหนิงถูกโยนความผิดให้หลายครั้ง สุดท้ายใครบางคนจึงลากเธอเข้ามาเกี่ยวข้องกับเรื่องวุ่นวายนี้โดยการพูดถึงสวี่ซิน ซย่าหันโม่ และแม้แต่เฉียวเซิน  

 

 

อย่างไรก็ตามแฟนๆ ของถังหนิงอยู่ในจุดที่ไม่หวั่นไหวต่อสิ่งใดหลังจากผ่านบททดสอบมาหลายครั้งหลายครา เมื่อมีข้อสันนิษฐานอย่างนี้ออกมา…  

 

 

…แฟนๆ จึงเริ่มตอบโต้กลับทันที  

 

 

[จะมาโทษหนิงของเราเรื่องนี้ได้ยังไง ฉันต้องเมาไปแล้วแน่ๆ!]  

 

 

[พวกเขาก็เห็นกันว่าหันซิวเช่ออยากให้ถังหนิงยกโทษให้ก่อนที่เขาจะตายไม่ใช่เหรอ]  

 

 

[การตายของหันซิวเช่อเป็นความผิดของตระกูลหันต่างหาก อย่าโทษคนอื่นไปทั่วสิ!]  

 

 

[พวกเธอตาบอดกันหรือยังไง ไม่เห็นเหรอว่าหันซิวเช่อคุกเข่าขอโทษน่ะ ถ้าการตายของเขาเกี่ยวข้องกับหนิงของฉัน เขาจะขอโทษเธอทำไมล่ะ เธอมันเสียสติไปแล้ว!]  

 

 

 

 

 

ถังหนิงไม่กลัวการถูกใส่ร้ายอย่างนี้อีกแล้ว ความจริงหลังจากที่หันซิวเช่อแฝงตัวเข้ามาในสมาคมแฟนๆ ครั้งที่แล้ว หลงเจี่ยก็ได้รวบรวมแฟนๆ จำนวนหนึ่งและบอกให้พวกเขาตอกกลับข่าวเสียๆ หายๆ ของถัง  

 

 

หนิงข่าวจะได้ไม่แพร่ไปไกล  

 

 

อีกทางหนึ่งในบรรดาเรื่องที่กำลังลือกัน มีความเป็นจริงหนึ่งที่ปฏิเสธไม่ได้คือหันซิวเช่อตายแล้ว!  

 

 

เพื่อหยุดยั้งไม่ให้คนพูดถึงเรื่องนี้ คุณพ่อหันตัดสินใจออกมาตอบโต้ อย่างไรเขาก็ได้สูญเสียทุกอย่างไปแล้ว เขาบอกให้หันเจี๋ยจัดงานแถลงข่าวเพราะต้องการชี้แจงเรื่องการเสียชีวิตของหันซิวเช่อ  

 

 

ลูกชายของเขาตายด้วยฝีมือของภรรยาของเขาเอง ซ้ำเธอยังขโมยเงินทั้งหมดและหนีไปอีก…  

 

 

ไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกับซูอวี๋และถังหนิงทั้งนั้น ทั้งหมดเป็นฝีมือหลี่ฉิงไอ้! ทุกอย่างเกิดขึ้นเพราะหลี่ฉิงไอ้!  

 

 

อาจเป็นเพราะพ่อของเขาอายุมากแล้ว หันเจี๋ยรู้สึกราวกับว่าพ่อของตัวเองแก่ขึ้นมากในเวลาเพียงช่วงบ่ายเดียว  

 

 

“พ่อครับ…ไหวไหม”  

 

 

“มันคงเป็นกรรม!” คุณพ่อหันว่าขึ้น “หลังจากสิ่งที่ฉันทำกับซูอวี๋เมื่อยี่สิบปีก่อน นี่คงเป็นวิธีการที่พระเจ้าลงโทษฉัน ฉันเสียทั้งลูกชายและทรัพย์สินทุกอย่างไป  

 

 

“หันเจี๋ย แกรู้ไหมว่าฉันเสียใจขนาดไหน…  

 

 

“ถ้าหันซิวเช่อฟื้นขึ้นมาได้ ฉันยินดีจะเสียสละทุกอย่าง ฉันยอมรับว่าตัวเองใส่ร้ายซูอวี๋เมื่อยี่สิบปีก่อนได้ด้วยซ้ำ แต่มันจะยังเป็นไปได้ที่เขาจะกลับมาได้หรือเปล่า”  

 

 

“พ่อ…”  

 

 

“ฉันสมควรต้องเจอเรื่องทั้งหมดนี้แล้ว ถูกที่แม่ของแกด่าฉัน ทำไมถึงไม่เป็นฉันที่ตายไปซะ” หลังจากพูดจบ น้ำตาร่วงหล่นจากดวงตาของคุณพ่อหันลงมาบนหลังมือของเขา  

วิวาห์พลิกรัก ฉบับซุปตาร์

วิวาห์พลิกรัก ฉบับซุปตาร์

วิวาห์พลิกรัก ฉบับซุปตาร์
Status: Ongoing
ถังหนิง ผู้กำลังจะก้าวขึ้นไปเป็นนางแบบแนวหน้า แต่เพราะรักจึงสละสิ้นทุกอย่าง ทว่าคืนก่อนวันวิวาห์ที่เธอกำลังจะได้ครองรักดั่งหวังนั่นเอง คู่หมั้นของเธอกลับหนีออกไปกับหญิงอื่น ด้วยความเจ็บช้ำน้ำใจ เธอจึงเดินจ้ำไปหาผู้ชายคนหนึ่งที่ยืนอยู่หน้าสำนักงานเขต “ประธานโม่คะ ในเมื่อเจ้าสาวของคุณยังไม่มาและเจ้าบ่าวของฉันก็หนีไปแล้วอย่างนี้… ฉันว่า… เรามาแต่งงานกันเสียเลยดีไหมคะ” … ก่อนแต่งงานเธอเอ่ยว่า “แม้เราจะนอนร่วมเตียงกัน แต่จะไม่มีอะไรเกิดขึ้นระหว่างเรา” หลังแต่งงานเขาเอ่ยว่า “ถ้าไม่ลองแล้วจะรู้หรือ”

Comment

Options

not work with dark mode
Reset