ไม่นานหลังจากนั้นตระกูลตี๋ปล่อยแถลงการณ์ขอโทษอย่างที่ถังหนิงแนะนำ ไม่ว่าจะเป็นการบอกกับสาธารณชนหรือเหลียงหย่งอวี๋ ตระกูลตี๋ก็ออกมาขอโทษด้วยความจริงใจ เพื่อชดเชยกับความผิดพลาดของตัวเอง พวกเขาตัดสินใจบริจาคเงินเพื่อช่วยชุมชนยากไร้เป็นจำนวนเงินกว่าหนึ่งร้อยล้าน
เมื่อเห็นตระกูลตี๋ออกมาขอโทษพร้อมเงินก้อนโตขนาดนี้ ผู้คนก็คิดได้สองทาง ไม่ตระกูลตี๋เสียสติไปแล้ว พวกเขาก็คงพยายามปรับปรุงตัวจริงๆ
ด้วยเหตุนี้วิธีนี้จึงสามารถกู้ชื่อเสียงให้ตระกูลตี๋ได้สำเร็จ อย่างน้อยคนภายนอกก็ไม่ต่อว่าพวกเขาอย่างเช่นเมื่อไม่นานก่อนหน้านี้
ในเวลาเดียวกันตระกูลตี๋ได้ขอบคุณเหลียงหย่งอวี๋ที่ได้ช่วยให้พวกเขารู้สึกตัว แม้ว่าพวกเขาจะไม่ได้เกี่ยวข้องกับอีกแล้วก็ตาม
ถังหนิงอ่านบทความก่อนจะหันไปช่วยโม่จื่อเฉินใส่เสื้อผ้า การทำให้ตระกูลตี๋รู้สึกตัวได้ไม่ใช่เรื่องยาก แต่ใครเล่าจะทำให้เหลียงหย่งอวี๋รู้สึกตัวได้
เธอรู้ว่าโม่ถิงขึ้นบัญชีดำเหลียงหย่งอวี๋แต่มันยังไม่พอ! เหลียงหย่งอวี๋ยังมีเงินหนึ่งพันล้านอยู่ในมือ ต่อให้เธอไม่อาจอยู่รอดในวงการบันเทิงได้ เธอก็ยังไม่มีอะไรต้องกลัว…
หากนี่เป็นเรื่องระหว่างผู้ใหญ่ ถังหนิงคงจะปล่อยผ่านเรื่องนี้ไป หากแต่เหลียงหย่งอวี๋กลับเอาลูกของเธอมาใช้เป็นเครื่องมือ!
ดังนั้นเธอจะทำให้อีกฝ่ายต้องถึงจุดจบให้ได้!
…
กลางดึกคืนนั้น ณ ด้านนอกของห้องพักแห่งหนึ่งในปักกิ่ง เหลียงหย่งอวี๋กดกริ่งประตู จากนั้นชายคนหนึ่งจึงพาเธอเข้าไปเข้ามาในห้องนั่งเล่น
“ไม่มีใครตามเธอมาใช่ไหม” เขาถามขณะที่เทไวน์ขาว เขาอยู่ในเสื้อเชิ้ตสีขาวพร้อมนาฬิการุ่นพิเศษบนข้อมือ
“ไม่มี” เหลียงหย่งอวี๋เอ่ยพลางวางกระเป๋าลง “ตอนนี้ฉันไม่รู้ว่าต้องทำยังไงแล้วนะ ฉันทำอะไรในวงการบันเทิงไม่ได้อีกแล้ว!”
“แต่เธอก็ยังมีเงินนี่นา กลัวอะไรล่ะ” เขาว่าขณะที่นั่งลงและส่งแก้วไวน์แดงให้เธอ “ทำไมเราไม่ร่วมมือกันทำธุรกิจล่ะ เธออยู่ในวงการบันเทิงไม่ได้อีกต่อไปแล้ว ทำไมไม่ใช่โอกาสนี้ถอนตัวออกมาซะเลยล่ะ”
“ฉันไม่ถนัดทำธุรกิจสักหน่อย!” เหลียงหย่งอวี๋ส่ายหน้า
“เธออาจจะไม่ถนัดแต่ฉันถนัด ฉันมีข้อเสนออยู่ในมือแล้ว เธอลองเอาไปคิดดูก็ได้!”
“ฉีเหล่ย คุณอาจจะช่วยให้ฉันได้เงินหนึ่งพันล้านหยวนนี้มา แต่ฉันไม่ชอบให้คนอื่นมากงการการใช้เงินของฉันนะ” เห็นได้ชัดว่าเหลียงหย่งอวี๋ต่อต้านความคิดที่จะลงทุนทำธุรกิจ มันเหมือนเป็นการสูญเปล่าสำหรับเธอ
“ถ้าเธอไม่อยากลงทุนก็ไม่เป็นไร ฉันก็ไม่บังคับเธอหรอก ถ้าฉันหวังฮุบเงินของเธอจริงๆ ทำไมฉันถึงยอมช่วยเธอโดยที่ไม่ได้ขออะไรตอบแทนเลยล่ะ” เขาไหวไหล่ “ฉันจะไม่ฝืนใจให้เธอทำในสิ่งที่ไม่ต้องการหรอก”
คำพูดของเขาทำให้เหลียงหย่งอวี๋ใจเย็นลงได้สำเร็จ
“ช่างมันเถอะ แค่เธอมีความสุขก็พอแล้วล่ะ แต่ยังไงฉันก็ต้องเตือนเธอให้อย่ามาหาฉันบ่อยนัก ถ้าสื่อจับได้ว่าเราเจอกันคงไม่ดีหรอก”
เหลียงหย่งอวี๋พยักหน้ารับ การยอมลงให้ของเขาใช้ได้ผลดีกับเธอ
อย่างไรเสียชายคนนี้ก็ไม่ได้เป็นเพียงทนายความแต่ยังหล่อเหลามากอีกด้วย ผู้หญิงทุกคนที่เข้าหาเขาต่างหลงใหลในตัวเขา นับประสาอะไรกับเหลียงหย่งอวี๋ที่เขาได้ช่วยเอาไว้!
หลังจากได้ยินเขาว่าดังนั้น เหลียงหย่งอวี๋ก็ลองใจเขาโดยการโน้มตัวเข้าไปหา…
“ฉันไม่ได้หมายความอย่างที่พูดไปหรอก ฉันแค่อยากจะระวังตัวเฉยๆ น่ะ!”
“ฉันเองก็ทำอย่างนี้เพื่อผลประโยชน์ของเธอเหมือนกัน ดูคุณใช้เงินเข้าสิ เงิน 1 พันล้านจะอยู่ไปได้อีกนานแค่ไหนกัน แค่อยากรับประกันว่าจะมีที่พึ่งให้เธอน่ะ” เขาถือโอกาสนี้ในการหว่านเสน่ห์ใส่เธอ “ถ้าเธออยากจะอยู่กับฉัน เธอต้องยอมรับว่าฉันเป็นคนที่ค่อนข้างเชื่อมั่นในตัวเองสูง
“ถ้าเธอไม่อยากให้ฉันเข้าไปยุ่งเรื่องของเธอ งั้นต่อไปนี้เราก็เลิกติดต่อกันก็ได้!”
“ฉีเหล่ย ในตอนที่ฉันลำบากที่สุดคุณก็เป็นคนที่คอบช่วยเหลือฉัน ในโลกใบนี้คุณเป็นคนที่ดีกับฉันที่สุดแล้ว”
แน่นอนว่าสุดท้ายเหลียงหย่งอวี๋ก็ไม่อาจต้านทานเสน่ห์ของชายคนนี้ได้ เธอจึงตัดสินใจใช้เงินสามร้อยล้านเพื่อลงทุนเปิดสำนักงานกฎหมายในท้ายที่สุด อย่างไรเสียฉีเหล่ยก็เป็นทนายความ!
…
ทว่าเหลียงหย่งอวี๋ไม่รู้ว่าลู่เช่อได้ส่งใครบางคนมาสะกดรอยตามเธอ…
เช้าวันต่อมาลู่เช่อวางข้อมูลเกี่ยวกับทนายความที่ช่วยเหลียงหย่งอวี๋ปึกหนึ่งลงบนโต๊ะของโม่ถิง
“ฉีเหล่ยกับเหลียงหย่งอวี๋เคยทำงานด้วยกันมาก่อนและค่อยๆ เริ่มสนิทกัน บางทีฉีเหล่ยอาจคิดว่าเหลียงหย่งอวี๋เป็นปลาตัวโต เขาเลยอดทนเพื่อให้เธอไว้ใจ
“เขาช่วยให้เธอได้เงินหนึ่งพันล้านหยวนจากตระกูลตี๋ด้วยซ้ำครับ!
“เหลียงหย่งอวี๋ถึงได้ไว้ใจเขาขนาดนี้
“แต่จากที่หาข้อมูลมา ผู้ชายคนนี้มีแฟนสาวอยู่สามคน เขาเป็นเสือผู้หญิงตัวพ่อเลยล่ะครับ เขาใช้เงินที่ล่อลวงมาได้จากเหลียงหย่งอวี๋ไปปรนเปรอผู้หญิงอีกสองคนที่เขาคบอยู่ ผู้ชายคนนี้นี่อยู่เป็นจริงๆ!”
“นั่นไม่ได้หมายความว่าเราไม่ต้องทำอะไรและฉีเหล่ยจะช่วยเรากำจัดเหลียงหย่งอวี๋เองหรอกเหรอ” โม่ถิงถามพลางโยนข้อมูลไปด้านข้าง “อย่าทำให้เหลียงหย่งอวี๋ไหวตัวทัน ติดต่อแฟนสาวอีกสองคนแล้วก็ปล่อยพวกเธอเจอกันซะ
“ถ้าพวกเธอยอมก็บอกให้ช่วยเล่นละครตบตาเพื่อหลอกเอาทุกอย่างที่เหลียงหย่งอวี๋มีมาให้หมด…”
“คุณคิดว่าเหลียงหย่งอวี๋จะกลับไปหาตระกูลตี๋ตอนที่เธอเงินหมดเหรอครับ”
“ฉันไม่รู้หรอก จิตใจผู้หญิงลึกล้ำอย่างกับมหาสมุทรนะ!” ลู่เช่อหัวเราะออกมา
พวกเขามีข้อมูลที่จะจัดการกับเหลียงหย่งอวี๋ได้แล้ว ตอนนี้สิ่งที่ต้องทำก็แค่คอยกระตุ้นอยู่เบื้องหลังเล็กๆ น้อยๆ เท่านั้น
ถึงแม้รูปที่เป็นประเด็นจะไม่ได้ส่งผลกระทบกับเจ้าแฝดมากนัก แต่โม่ถิงก็ยังต้องการให้เหลียงหย่งอวี๋ชดใช้กับสิ่งที่เธอได้ทำลงไป!
…
ทว่าในครั้งนี้อยู่ๆ คุณชายรองตี๋ก็โทรหาคู่รักโม่เพื่อขอให้มาพบเขาที่โรงแรม 5 ดาวแห่งหนึ่ง
ฟังจากน้ำเสียงของเขาแล้ว คงกำจัดเรื่องเดือดร้อนก่อนหน้านี้ของตัวเองไปได้แล้ว ซ้ำยังอารมณ์ดีเป็นพิเศษ
ถังหนิงกับโม่ถิงมาถึงตามเวลานัด ก่อนได้พบกับตี๋หลินเทียนและคุณหนูหน้าตาดีคนหนึ่งซึ่งเขาพามาด้วย
โม่ถิงกับถังหนิงสบตามองกันอย่างไม่เข้าใจถึงจุดประสงค์ของการนัดพบกันครั้งนี้นัก
“ผมขอแนะนำให้คุณรู้จักกับคุณเจียงรั่วหลินครับ พ่อของเธอเป็นเจ้าหน้าที่รัฐ แม่ทำงานอยู่ในวงการแพทย์ครับ” ตี๋หลินเทียนเอ่ยก่อนนั่งลงและอธิบาย “หลังจากที่ผมขอโทษกับสาธารณชนอย่างที่คุณนายโม่แนะนำ มันก็ได้ผลและตระกูลตี๋ก็กลับมามั่นคงขึ้นบ้าง
“หลังจากที่ได้เห็นคำขอโทษของผม รั่วหลินก็ติดต่อผมมาและบอกว่าเธอต้องการลองคบกับผมน่ะครับ
“พอทำความรู้จักกันได้ระยะหนึ่ง ผมก็รู้ตัวว่าได้ตกหลุมรักเข้าอีกแล้ว…”
หลังจากได้ฟังสิ่งที่ตี๋หลินเทียนพูด โม่ถิงกับถังหนิงมองหน้ากัน
“ผมไม่เคยเชื่อในรักแรกพบเลยครับ แต่หลังจากทุกอย่างเกิดขึ้น มันก็เป็นเหมือนปาฏิหาริย์ที่ยังมีใครสักคนยอมก้าวออกมากุมมือผมไว้!”
“ฉันจะคบกับคุณก็ต่อเมื่อคุณเปลี่ยนแปลงเป็นคนที่ดีขึ้นเท่านั้นค่ะ ไม่อย่างนั้น…”