“ไม่ต้องเป็นห่วงครับ เพื่อไม่ให้ความใจดีของคุณเสียเปล่า ผมจะเป็นผู้ชายที่ดีกว่านี้แน่นอนครับ” ทั้งคู่ตกหลุกรักกันจริงสินะ!
บางครั้งโลกใบนี้ก็เป็นสถานที่ชวนพิศวง บางคนแค่หันไปก็เจอความรัก แม้ว่าความรักของทั้งคู่จะอยู่ในระยะเริ่มต้น แต่มันก็ดีที่ได้เห็นตี๋หลินเทียนกลับตัวเป็นคนใหม่
“ผมถึงได้รู้สึกขอบคุณพวกคุณทั้งสองคนมาก พ่อแม่ของผมยังบอกว่าตระกูลตี๋ยินดีจะช่วยทุกอย่างเพียงแค่พวกคุณเอ่ยปากขอ!”
“คุณจะไม่ตามจัดการเรื่องของเหลียงหย่งอวี๋แล้วเหรอคะ” ถังหนิงถาม
“ไม่หรอกครับ ผมทำร้ายเธอแล้วเธอก็ทำร้ายผม เราเสมอกันแล้ว ผมว่าตัวเองไม่ควรไปเสียเวลากับคนแปลกหน้าอีกแล้วล่ะครับ” ตี๋หลินเทียนตอบ “ผมบอกเรื่องนี้กับรั่วหลินแล้ว และเธอก็เห็นด้วยกับการตัดสินใจของผม”
“คนเราก็มักจะเติบโตขึ้นหลังจากเกิดเรื่องบางอย่างขึ้นเท่านั้นแหละค่ะ!”
“เราเลิกพูดถึงเรื่องนี้เถอะครับ ทำไมคุณไม่บอกผมมาว่าจะตอบแทนคุณยังไงดีล่ะครับ”
“คุณอาจจะมีเงินแต่เราก็ไม่ได้จนเหมือนกันนะคะ…” ถังหนิงหัวเราะ “ไหนๆ คุณก็เปลี่ยนเป็นคนใหม่แล้ว ก็น่าจะใช้ชีวิตใหม่นี้ให้มีความสุขแล้วก็เลิกคิดอะไรโง่ๆ ด้วยนะคะ ฉันไม่ต้องการให้คุณมาตอบแทนอะไรหรอกค่ะ แต่มีเงื่อนไขหนึ่งคือถ้าเหลียงหย่งอวี๋กลับมาหาคุณ ห้ามยุ่งกับเธอเด็ดขาดนะคะ”
“เธอจะกลับมาหาผมเหรอครับ” ตี๋หลินเทียนถามพลางกุมมือเจียงรั่วหลินไว้
“แน่นอนค่ะ แต่ก็ไปเจอเธอด้วยฐานะในระดับคุณแล้วกันค่ะ อย่าใจอ่อนกับเธอหรือถูกลากมาเดือดร้อนด้วยอีก”
“ไม่ต้องห่วงครับ ถ้าวันนั้นมาถึงผมจะบอกคุณเป็นคนแรกเลยครับ”
อาหารมื้อนั้นเป็นไปด้วยความเป็นกันเอง แม้ว่าจะไม่มีใครคาดคิดว่าอยู่ๆ ตี๋หลินทียนจะตกหลุมรัก แต่มันก็เป็นเรื่องที่น่ายินดี…
ในบางครั้งคนเราก็ต้องยอมรับว่าการแต่งงานนั้นต้องเกิดขึ้นกับทั้งสองฝ่ายที่อยู่ในระดับเดียวกัน…
ไม่อย่างนั้นชีวิตคู่คงเป็นไปอย่างยากลำบาก
ไม่ใช่เพราะเงินแต่เพราะคุณค่าในตัวเองที่แตกต่างกันต่างหาก!
หลังจบมื้อเย็นตระกูลตี๋ได้ยื่นข้อเสนอทุกอย่างที่ดีที่สุดในมือให้ทางไห่รุ่ยมามากมาย แม้ว่าถังหนิงจะบอกว่าไม่ต้องขอบคุณเธอก็ตาม จากนั้นพวกเขาจึงถอนตัวตัดขาดจากวงการบันเทิง และประกาศว่าจะกลับไปทำธุรกิจในด้านที่เชี่ยวชาญอยู่แต่เดิม
คนเหล่านี้นั้นคู่ควรแก่การช่วยเหลือ
“คุณผู้หญิง ท่านประธานครับ ผมเตรียมการแสดงที่น่าระทึกใจไว้ให้ทุกคน อยากจะดูไหมครับ”
“ไม่ล่ะ พาเรากลับบ้านเถอะ ลูกๆ สำคัญกว่าน่ะ” ถังหนิงตอบ
“โอเคครับ งั้นเดี๋ยวผมจะมารายงานผลให้ฟังคราวหลังแล้วกันนะครับ”
การแสดงที่ว่าคือการที่แฟนสาวทั้งสองคนของฉีเหล่ยรู้ถึงการมีตัวตนของกันและกัน แน่นอนว่าพวกเธอเป็นผู้หญิงปกติ ที่พอรู้ว่าแฟนหนุ่มของตัวเองนอกใจ ก็ย่อมรู้สึกเจ็บปวดและโกรธ เป็นจังหวะที่ลู่เช่อสั่งให้ใครบางคนเชิญหญิงสาวทั้งสองคนออกมาพบ
“ความจริงแล้วแฟนของพวกคุณมีแฟนคนที่สามด้วยนะครับ เธอเป็นนางแบบชื่อดังที่เพิ่งดังเมื่อไม่นานมานี้ เหลียงหย่งอวี๋ไงครับ!”
เมื่อทั้งสองได้ยินเช่นนี้ ดวงตาพลันเบิกกว้างในทันที
“ฉีเหล่ยเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับเหลียงหย่งอวี๋เพราะต้องการหลอกเอาเงินหนึ่งพันล้านหยวนของเธอ ถ้าพวกคุณยอมช่วยสั่งสอนบทเรียนให้กับเขาก็ติดต่อผมมานะครับ”
ผู้หญิงสองคนนี้ คนหนึ่งเป็นหมอในขณะที่อีกคนเป็นนักขายมือทอง ทั้งสองเป็นหญิงแกร่งจึงเป็นธรรมดาที่จะรู้สึกหงุดหงิดใจที่ตัวเองโดนหลอก
ลู่เช่อหาข้อมูลมาแล้วและรู้ว่าพวกเธอไม่ใช่คนที่ยอมแพ้ง่ายๆ เขาจึงเลือกที่จะเปิดเผยทุกอย่าง
วันต่อมาหญิงสาวทั้งสองคนติดต่อมาหาลู่เช่อก่อนถามว่าจะให้พวกเธอทำอย่างไร…
“ง่ายๆ เลยครับ แกล้งทำเป็นท้องแล้วหลอกเอาเงินจากเขามาจัดงานแต่งงาน ในเมื่อเงินนี้เป็นเงินสกปรกอยู่แล้ว หลอกเอามาเท่าที่จะทำได้เลยครับ
“ไม่ต้องห่วงนะครับ ผมรับรองว่าสุดท้ายฉีเหล่ยจะต้องสูญเสียทุกอย่างไป และพวกคุณจะปลอดภัยครับ”
ด้วยเหตุนี้ฉีเหล่ยจึงตกอยู่ในสถานการณ์ยากลำบาก แฟนสาวที่เป็นหมอของเขาตั้งท้องและกำลังกดดันให้เขาจัดการบางอย่าง
เพราะว่าเธอเป็นรักแรกของเขา เขาอยากจะแต่งงานกับเธอมากกว่าผู้หญิงคนอื่นอยู่แล้ว แต่เขาเพิ่งจะหลอกเอาเงินจากเหลียงหย่งอวี๋มาได้แค่สามร้อยล้านหยวนเท่านั้น!
ในเมื่อเด็กเกิดขึ้นจากความรักของพวกเขา ฉีเหล่ยจึงไม่อาจบอกให้แฟนสาวทำแท้งได้ เขาตัดสินใจสะสางเรื่องของเหลียงหย่งอวี๋อย่างรวดเร็ว อย่างไรเสียรองเท้ามือสองก็น่าขยะแขยง!
ทว่าเหลียงหย่งอวี๋ไม่ได้ปล่อยมือจากเงินของเธอไปง่ายขนาดนั้น…
ฉีเหล่ยจึงต้องคิดหาทางที่จะได้ผล
เหลียงหย่งอวี๋นึกไม่ถึงว่าสุดท้ายเงินของเธอจะล่อให้หมาป่าเข้ามาหา แต่หลังจากเสียเงินไปสามร้อยล้านหยวนแล้ว เป็นธรรมดาที่เธอจะเก็บเงินที่เหลือเอาไว้
ถึงกระนั้นฉีเหล่ยก็ยังคงมีวิธีของเขา
อย่างเช่นการเตรียมมื้อค่ำเอาไว้และวางแผนหลอกให้เหลียงหย่งอวี๋เซ็นสัญญาในตอนที่เธอเมา
เหลียงหย่งอวี๋คิดว่าฉีเหล่ยชอบเธอจริงๆ ถึงได้เอาใจใส่และปกป้องเธอ!
เมื่อคนเราได้มีความคิดชั่วร้าย คนที่พวกเขาพบย่อมไม่ใช่คนดีเช่นกัน แล้วเธอจะได้พบกับคนที่จริงใจได้อย่างไร
“ฉีเหล่ย คุณดีกับฉันจังเลย มันคุ้มค่ากับทุกความเจ็บปวดที่ฉันเจอมาแล้ว…”
“หย่งอวี๋ เธอเมาแล้วนะ!” ฉีเหล่ยกระซิบข้างหูเธอ
“ฉันไม่ได้เมา ฉันดื่มต่อไหว”
“ถูกของคุณครับ หย่งอวี๋ ตอนนี้เลิกดื่มก่อนนะ ผมมีบางอย่างให้คุณเซ็น คุณเซ็นก่อนได้ไหมครับ” เขาถือโอกาสนี้หลอกให้เธอเซ็นสัญญา
จากนั้นเขาก็ดึงเอกสารปึกหนึ่งออกมาและอ่านทีละหน้าให้เธอฟัง
“เลิกอ่านได้แล้ว ฉันเชื่อใจคุณ ฉันต้องเซ็นตรงไหนล่ะ” เหลียงหย่งอวี๋ก้มมองสัญญาทั้งแก้มแดงระเรื่อ
“ตรงนี้” เขาเอ่ยขณะที่ชี้ไปที่สัญญา
“โอเค!” เหลียงหย่งอวี๋หยิบปากกาออกมาและเริ่มเซ็น เธอไม่รู้ตัวเลยแม้แต่น้อยว่ากำลังทำอะไรลงไปด้วยอาการเมา
จึงเห็นได้ชัดว่าเธอไม่รู้ว่ามีเอกสารบางหน้าที่สอดแทรกเข้ามาในสัญญา และจริงๆ แล้วเธอเซ็นในส่วนที่เป็นเช็คเงินสดลงไป
หลังจากเหลียงหย่งอวี๋ประทับลายนิ้วมือลงบนเช็ค ในที่สุดฉีเหล่ยก็เก็บเอกสารโดยไม่แสดงพิรุธใดๆ ออกมา
เมื่อเหลียงหย่งอวี๋ผล็อยหลับไป เขารีบติดต่อธนาคารและขอให้โอนเงินมาให้ทันที…
เหลียงหย่งอวี๋ถูกหลอกง่ายเกินไป ทั้งเมื่อครั้งที่ยังอยู่กับตระกูลตี๋และในตอนนี้…
แต่ในคราวนี้จะเป็นคำลาสุดท้ายของเธอ
สิ่งที่น่าสนุกที่สุดคือตอนที่เธอตื่นขึ้นมา เธอก็ยังไม่รู้ว่าเงินทั้งหมดของเธอได้ถูกโอนออกไปจนเกลี้ยงด้วยซ้ำ…
ทั้งหมดเป็นเพียงความฝันจอมปลอม
เหลียงหย่งอวี๋ไม่รู้ว่าความหายนะของเธอกำลังจะมาเยือน!
เธอยังเด็กเกินไป คิดว่าโชคชะตาของตัวเองจะเปลี่ยนไปได้หลังได้รับโชค หากแต่เมื่อเธอมีเจตนาชั่วร้าย กรรมจะตามเธอทันได้เร็วขนาดไหนกัน
ตอนนี้ทุกคนแค่รอให้เธอรู้ตัวว่าเกิดอะไรขึ้น เธอจะตกตะลึงแค่ไหนกันนะ